หลังจากที่ส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเสร็จแขกที่มาก็เริ่มทยอยออกจากห้องไป ปล่อยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองตามพิธี
ภายในห้องนอนที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม บนเตียงนอนมีดอกไม้โรยเอาไว้อย่างสวยงาม ซึ่งเธอกับเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในห้องนี้ไปอีกหลายคืนตามความเชื่อของการแต่งงาน
โรสรินยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกเธอคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กมาตลอด แต่พอได้ใส่ชุดแต่งงานแบบนี้เธอก็ดูสวยและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเหมือนกัน
ชุดราตรีสีขาวสะอาดที่ปักด้วยคริสตอลทำให้ดูสวยสง่าและเล่นไฟวิบวับเวลาที่โดนแสงไฟ เธอเป็นคนเลือกชุดนี้ซึ่งก็มีทีมงานอีกหลายคนที่เชียร์และเห็นด้วยว่าเธอเหมาะกับชุดนี้
หากความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนคือการได้แต่งงาน ตอนนี้โรสรินคงทำตามฝันได้สำเร็จ ถึงจะไม่ใช่การแต่งงานที่เกิดจากความรักแต่เธอก็พร้อมที่จะทำให้เจ้าบ่าวของเธอเปลี่ยนใจมารักเธอให้ได้ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาอีกนาน แต่เธอก็พร้อมที่จะทำตราบใดที่เขายังไม่มีแฟน เธอก็ยังมีสิทธิ์ที่จะดูแลและทำหน้าที่ของภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายให้ดีที่สุด
ร่างบางเผลอมองเจ้าบ่าวด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังยิ้มให้เขาอยู่จนกระทั่ง…
“ยิ้มอะไร”
“ปะ เปล่าค่ะ” หญิงสาวสะดุ้งตกใจแล้วรีบปฏิเสธก่อนจะหันมองไปทางอื่น ซึ่งท่าทางของเธอตอนนี้ดูมีพิรุธสุดๆ
“ฉันจะไปอาบน้ำก่อน”
“ได้ค่ะ” โรสรินตอบรับพร้อมกับมองตามหลังของชายหนุ่มที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ฟู่ววว~
ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาด้วยท่าทางโล่งอก เพราะตอนอยู่กับเขามันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก ไม่ว่าจะพูดจะเดินจะทำอะไรก็ไม่มีความเป็นตัวเองเลยสักนิด
โรสรินทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียงด้วยความเหนื่อยล้า ชุดก็หนักขาก็ปวดไปหมดจนแทบจะหลุดออกจากกัน ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย
นั่งพักในท่าสบายได้ไม่นานหญิงสาวก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ เธอรีบดีดตัวนั่งตรงทันที ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ถ้าอยู่ในสายตาเขาเธอก็ต้องสวยและดูดีอยู่ตลอด
“ไปอาบน้ำสิ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงและท่าทางนิ่งเรียบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำตามที่เขาบอก
“ค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
โรสรินมองตัวเองที่อยู่ในชุดเจ้าสาวอีกครั้งและเธอก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้มอง อย่างน้อยการแต่งงานของเธอในครั้งนี้ก็ทำให้เธอสามารถรักษาบริษัทของคุณพ่อต่อไปได้
แขนเรียวพยายามเอื้อมไปรูดซิปที่อยู่ด้านหลัง แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงเธอก็เอื้อมไม่ถึงอยู่ดี พอนึกย้อนไปตอนที่ใส่ชุดนี้ก็ยังต้องมีคนช่วยถึงสามคน พอถึงตอนจะถอดเธอจะถอดคนเดียวได้ยังไง
“ช่วยรูดซิปข้างหลังให้หน่อยได้ไหมคะ” ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่ม เพราะในห้องมีกันอยู่แค่สองคนและถ้าหากว่าเขาไม่ช่วยวันนี้เธอคงไม่ได้อาบน้ำอย่างแน่นอน
ฟาร์ริกซ์มองหญิงสาวด้วยสายตาสุดปลง เรื่องง่ายๆ แค่นี้เธอยังขอให้เขาช่วย แล้วต่อไปเธอจะทำอะไรเองได้บ้าง ไม่ใช่เอะอะจะเรียกให้เขาช่วยอยู่ตลอดนะ
สุดท้ายชายหนุ่มก็เป็นคนช่วยรูดซิปให้ มือหนาค่อยๆ รูดซิปลงเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนแถมยังนุ่มเหมือนผิวเด็กอีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ” โรสรินขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะหอบชุดเข้าไปถอดในห้องน้ำอีกครั้ง
ฟาร์ริกซ์มองตามแผ่นหลังขาวเนียนด้วยความหลงใหล ก่อนที่เขาจะตั้งสติเพื่อที่จะปรับความคิดตัวเองใหม่ ให้เลิกคิดเลิกมองอะไรที่ทำให้เขาเสียสมาธิ
ใช้เวลาไม่นานโรสรินก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างบางอยู่ในชุดนอนแขนยาวบวกกับกางเกงขายาวลายเจ้าหญิง ใบหน้าสวยที่ไร้เครื่องสำอางแต่กลับดูมีเสน่ห์และดึงดูความสนใจจากเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
เขาจะไม่โดนคดีพรากผู้เยาว์ใช่ไหม? ทำไมยิ่งมองเธอก็ยิ่งเหมือนเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แค่คิดฟาร์ริกซ์ก็ปวดหัวแล้ว ไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วจะเอาตำรวจมาจับเขาคดีพรากผู้เยาว์เพื่อเรียกเงินค่าเสียหายหรอกนะ
“มีอะไรติดหน้าโรสหรือเปล่าคะ” หญิงสาวขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าเธอ จนทำให้เธอรู้สึกเสียความมั่นใจ
“เปล่า”
“พี่ฟาร์มีเรื่องอะไรจะคุยกับโรสเหรอคะ” หญิงสาวถามเข้าประเด็นทันทีจะได้ไม่เสียเวลา เพราะตอนนี้เธอก็เริ่มง่วงนอนแล้ว
“เธอรู้ใช่ไหมที่ฉันยอมแต่งงานด้วยก็เพราะคำสัญญาของคุณพ่อ” ฟาร์ริกซ์ถามออกมาตรงๆ ระหว่างเธอกับเขาไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบัง
“โรสรู้ค่ะ” โรสรินก้มหน้าตอบเสียงเบา
“ดี! จะได้คุยกันง่ายๆ หน่อย”
“….” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจว่าเขาต้องการที่จะคุยเรื่องอะไรกับเธอกันแน่
“ฉันกับเธอไม่ได้รักกันและไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันนอกจากทะเบียนสมรสแผ่นเดียว ซึ่งพอครบสามเดือนเราจะหย่ากันทันทีและแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างอิสระ” ฟาร์ริกซ์อธิบายยาวเพื่อให้หญิงสาวเข้าใจตรงกันเพราะเขาไม่ได้รักเธอ
“….” โรสรินนั่งฟังด้วยความตั้งใจ โดยที่เธอไม่ได้ตอบโต้อะไร
“ระหว่างนี้ฉันกับเธอก็จะเป็นแค่คนรู้จักที่อยู่ด้วยกัน แต่ก็ใช้ชีวิตต่างคนต่างอยู่ จะไปไหน จะทำอะไรก็ไม่ต้องมาสนใจกัน เข้าใจไหม?”
เมื่อต้องใช้ชีวิตร่วมกันก็ต้องพูดกันให้เข้าใจอย่างตรงไปตรงมา จะได้ไม่สับสนหรือเสียเวลามานั่งอธิบายเรื่องเดิมซ้ำๆ อีก
“เข้าใจค่ะ” ใบหน้าสวยพยักหน้าตอบรับเป็นเชิงเข้าใจ
“อ้อ! มีอีกเรื่อง! เธอไม่จำเป็นต้องทำดีอะไรให้ฉันเห็น เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันรักผู้หญิงเห็นแก่เงิน!” ฟาร์ริกซ์พูดออกมาตรงๆ เพื่อตัดบทสนทนานี้ให้จบลงทันที จะได้ไม่ต้องมาคอยพูดคอยถามกันอีก
โรสรินมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกน้อยใจ เพียงแค่เริ่มต้นเขากลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอเลย สงสัยว่างานนี้เธอคงจะหมดหวังแล้วจริงๆ
“พี่ฟาร์จะไปไหนคะ” ร่างบางเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้องนอน
“ฉันจะไปนอนที่โซฟาข้างนอก”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ฟาร์นอนบนเตียงเลยค่ะ เดี๋ยวโรสจะออกไปนอนที่โซฟาเอง” โรสรินยอมเสียสละเพื่อความสบายของผู้ชายเธอยอมได้ทุกอย่าง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เธอก็ต้องใส่ใจและดูแลเขาให้ดีที่สุด
“ก็ดีเหมือนกัน” ฟาร์ริกซ์กระตุกยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะเดินไปนอนบนเตียงกว้าง
โรสรินหอบผ้าห่มเดินออกมาที่ห้องรับแขกที่มีโซฟาขนาดใหญ่ ขนาดอยู่ด้วยกันวันแรกเขายังพูดตัดความหวังเธอขนาดนี้ แล้วเธอจะทำให้เขาเปลี่ยนใจมารักเธอได้ยังไง
แต่คนสู้ชีวิตอย่างโรสรินจะหมดหวังได้ยังไง อย่างน้อยเธอก็ยังมีเวลาอีกตั้งสามเดือนที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเขา ถึงจะไม่รักแต่ก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง เพราะเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้เสน่ห์
มาดูกันสิว่าภายในเวลาสามเดือนโรสรินจะเปลี่ยนใจฟาร์ริกซ์ให้มารักเธอได้หรือเปล่า…
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ