บทที่ 4 ไม่อยากมองแค่หน้า

2082 คำ
บทที่ 4 ไม่อยากมองแค่หน้า มนปรียาถูกพามายังห้องชุดขนาดใหญ่บนชั้นสูงสุด ภายในเต็มไปด้วยโมเดลรถยนต์ ชาร์วีหลงใหลสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่อายุสิบห้า ด้วยฐานะทางบ้านและถูกตามใจตั้งแต่เด็ก จึงซื้อโมเดลหายากมาไว้ในครอบครองหลายชิ้น ยกเว้นสองรุ่นที่ไม่สามารถหาได้ เพราะผลิตจำนวนจำกัด แต่ธันวาและจิรกรมี และเขาต้องได้มันมา ด้วยการชนะพนันครั้งล่าสุด “พาพี่มาทำไม?” คนถามกวาดตาไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ไม่เคยไปคอนโดชาร์วี จึงไม่ค่อยมั่นใจว่าใช่ที่นี่หรือเปล่า ตอนเขาจ้างก็แค่รับปากเพื่อตัดปัญหา “มาทำงานไงครับ” ชาร์วีเดินเข้าหาคนที่กำลังถอยหลังอย่างสะเปะสะปะ ใบหน้าเล็กเหลอหลา ดวงตาสั่นไหวราวกับลูกกวางตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวเสือร้าย ตอนเด็กเธอน่าแกล้ง แต่ตอนนี้เธอน่าเอาเป็นที่สุด โคตรอยาก "อย่าทำรุ่มร่ามกับพี่" "ผมยังไม่ทำอะไรเลย" "ก็เห็นอยู่ว่ากำลังทำ" มนปรียาค่อย ๆ ถอยหลัง ไปจนมุมที่เคาน์เตอร์บาร์ ชาร์วีไม่รอช้ารีบเข้าประชิด ใช้สองแขนกักตัวเธอไว้ กลิ่นเหงื่อเย้ายวนจากเธอก่อกวนอารมณ์ อาวุธส่วนล่างเริ่มมีปฏิกิริยา “มาทำเรื่องของเราให้เสร็จ!! กันเถอะ” เขาจะได้ของพนันจากไอ้เพื่อนรักเสียที พวกมันก็เร่งยิก ๆ อยู่ทุกวัน “พูดอะไร!” ไม่น่าเชื่อว่าคนหน้านิ่งเวลาพูดสองแง่สองง่าม จะสร้างความหวามไหวถึงเพียงนี้ คิดว่าคงแกล้งเล่น แต่คราวนี้ชาร์วีคงเอาจริง! “แบบนี้มัน..เอ่อ” “หึ..” ได้ยินเพียงเท่านั้นเธอก็หูดับตัวแข็งทื่อ เพราะเขาประกบริมฝีปากลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ชาร์วีบดเคล้าเบา ๆ ละเลียดดูดเม้มทั่วกลีบปากอวบอิ่มอย่างละมุนละไม เนื่องจากอยากลองเชิง และเป็นจูบแรกระหว่างทั้งคู่ “อื้อ!” คนตกใจร้องอู้อี้ ยกมือจะผลักแต่ถูกรวบไพล่หลังด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา ในวินาทีต่อมา..จุมพิตที่แท้จริงก็เริ่มขึ้น ชาร์วีรุกล้ำเข้ามาภายใน ลิ้นสากกวาดต้อนลิ้นเล็กที่ขยับหนีอย่างช่ำชอง มือข้างที่ว่างดันร่างเล็กให้แนบชิด หน้าอกนุ่มหยุ่นเบียดแนบไปกับอกแกร่ง เสียงดูดดึงดังขึ้นในตอนที่จูบทวีความดูดดื่ม ชาร์วีครางในลำคอเมื่อรับรู้ถึงรสชาติของพี่สาว ครั้งนี้ดีเกินคาด แอบพอใจเมื่อเธอหายใจติดขัด เหมือนไม่เคยจูบ หรือจูบไม่เก่งอย่างที่เคยบอก จุมพิตผ่อนหนักเป็นเบาในจังหวะพอเหมาะพอดี เขาเก่งถึงขั้นทำให้คนไม่เต็มใจเคลิบเคลิ้ม ร่างเล็กอ่อนระทวย ปล่อยให้เขาดูดดึง ขบเม้ม ทะลวงลิ้นกวาดน้ำลายไปดื่มกินอย่างดุเดือด มนปรียาเริ่มประท้วง เมื่อเจอสัมผัสวาบหวามตรงหน้าอก ลืมตาก็เห็นฝ่ามือใหญ่กำลังลูบไล้ ไม่นานก็บีบเคล้น ชาร์วียังคงมือไว ที่เพิ่มเข้ามาคือลิ้นที่กระหวัดไปทั่วโพรงปาก วินาทีต่อมาหญิงสาวจึงรวบรวมสติสะบัดหน้าหนี จนริมฝีปากทั้งคู่หลุดออกจากกัน “พะ..พอ” ชาร์วีไม่ฟัง ซ้ำยังใช้นิ้วปาดน้ำลายมุมปากของเธอมาเลียต่อหน้าต่อตา มนปรียาถึงกับหน้าร้อนวูบ ไปกับท่าสุดฮอตของเขา “ชาร์..” “ครับ..มิกิ” เขาทอดเสียงอ่อน หลอกล่อให้คนด้อยประสบการณ์หวั่นไหววาบหวาม แต่รู้ทั้งรู้..มนปรียาก็ไม่อาจถอนสายตาไปจากเขา ริมฝีปากหนาเป็นสีระเรื่อ ดวงตาอ่อนแสงลง จมูกโด่งปัดป่ายกับจมูกของเธอ ไม่นานชายหนุ่มก็กระแทกริมฝีปากมาจูบ และครั้งนี้รุนแรงจนเธอได้รับรสชาติสนิม เสียงจ๊วบจ๊าบหยาบโลน ไม่ปล่อยให้เธอพักหายใจด้วยซ้ำ ชายหนุ่มจับล็อกใบหน้าจิ้มลิ้มให้เงยรับจูบอย่างถนัดถนี่ บดขยี้อย่างดิบเถื่อน ขบเม้ม สอดลิ้นกระหวัดพันพัว ดูดรัว ๆ จนน้ำลายไหลย้อย สัมผัสเร่าร้อนไม่เคยพบเจอ สร้างความสับสนให้มนปรียามหาศาล อยาก ปล่อยเลยตามเลย พอ ๆ กับอยากถอยห่าง ความคิดวุ่นวายตีกันยุ่งอยู่ในหัว “อ่า..” ชาร์วีถอนจูบ ยกร่างเล็กขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ ซุกไซ้ซอกคอกขาว ฝ่ามือบีบเคล้นหน้าอกไม่ห่าง ดูเหมือนหญิงสาวยังไม่ได้สติ เขาจึงถือโอกาสดึงเสื้อยืดของเธอขึ้น เห็นบราเซียร์ลูกไม้สีขาวโอบอุ้มหน้าอกขนาดพอดีมือ ไม่รอช้า..ชาร์วีรีบดึงมันลงมา เผยให้เห็นสองเต้าดีดเด้ง ปลายยอดเป็นสีชมพูระเรื่อ ล่อตาล่อใจให้ก้มลงชิม ปลายลิ้นชื้นแฉะปาดแตะเบา ๆ ก่อนรวบเม็ดเชอร์รี่เข้าปากดูดดึง อีกข้างบีบคลึงสลับใช้นิ้วสะกิดจนเม็ดยอดแข็งเป็นไต “อื้อ..” มนปรียาหลับตาเคลิบเคลิ้ม ในจังหวะแปล๊บบนเนินอกจึงได้สติ รีบลืมตาก่อนผลักเขาออก “พอก่อน..” เธอดึงเสื้อปิดทรวงอก ปากสั่นน้ำตาคลอ พลางต่อว่าต่อขานตัวเอง ที่ใจง่ายยอมให้เขาทำขนาดนี้ “นมเธอสวย” “ถ้าไม่หยุดพูด..พี่จะโกรธ” ความจริงควรโกรธตั้งนาน ไม่ควรปล่อยให้เรื่องเลยเถิดด้วยซ้ำ บ้าไปแล้ว..ชาร์วีดูดนมเธอ! “มิกิโกรธแล้วครับ” “จะถือว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น ต่อไปก็อย่าทำอีก มันจะทำให้เราสองคนมองหน้ากันไม่ติด” เขาคือไฟที่พร้อมเผาไหม้ทุกคนที่เข้าใกล้ ไม่ใช่เด็กชายตัวน้อยอีกต่อไป ชาร์วีในวัยยี่สิบเอ็ดมีแรงดึงดูดมหาศาล และเธอก็ใจสั่นทุกครั้งที่ถูกสัมผัส “ผมไม่อยากมองแค่หน้าอยู่แล้ว” “มะ หมายความว่าไง!” “ก็..” เขาจ้องเข้าไปในดวงตาตื่นตระหนก ก่อนเลื่อนลงมายังหน้าอกช้า ๆ “……...” มนปรียาแทบหยุดหายใจ น้ำตาปริ่มจะไหล อาการตื่นกลัวไม่ทำให้คนตัวโตใจอ่อน ชาร์วีขยับเข้ามาหา ในตอนที่ปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน เธอก็หลับตาปี๋ หัวใจเต้นกระหน่ำแทบระเบิด แผล็บ.. รู้สึกถึงความชื้นบนริมฝีปากล่าง พอลืมตาก็เห็นเขาตวัดเลีย ก่อนลากลิ้นมายังพวงแก้มใส เลื่อนไปยังขมับจนมาถึงใบหู จากนั้นใช้ฟันขบจนเธอสะดุ้ง พลางกระซิบเสียงแหบพร่าฟังแล้วขนลุกซู่ “มิกิต้องเป็นของผมคนเดียว” “พี่กลัว” "ผมไม่น่ากลัวสักนิด" “ได้โปรด..แบบนี้ไม่โอเคเลย” หญิงสาวเสียงเครือ กลัวจนปากสั่นหน้าขาวซีด น้ำตาคลอจวนเจียนจะไหล “เธอขี้แยวะ..ยอมแพ้ก็ได้” สุดท้ายชาร์วีก็ยอม ไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่เหี้ยถึงขั้นข่มเหงคนอ่อนแอ อยากมันก็อยาก แต่พอเห็นน้ำตาใจก็อ่อน ไอ้นั่นก็พลันไม่แข็งเอาดื้อ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรอีก เหมือนต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิด เป็นมนปรียาเองที่ดูสับสนจนทำอะไรไม่ถูก ชาร์วีจึงเป็นฝ่ายจัดเสื้อผ้าของเธอให้เข้าที่ ก่อนถอยไปยืนมองคนปากแตกจากจูบอยู่ไม่ไกล แววตาล้ำลึกจับจ้องใบหน้าซีดเซียวตลอดเวลา “รังเกียจผมเหรอ?” “มะ..ไม่ไช่” คนปฏิเสธขยับตัวมายืนบนพื้น เมินหน้าหนีอย่างประหม่า แน่ชัดว่ากำลังหวั่นไหว สัมผัสของชาร์วียังฝังอยู่บนผิวกาย คล้ายเป็นสัญลักษณ์ความเป็นเจ้าของ เมื่อกลับมาเจอกันในรอบสี่ปีไม่ใช่แค่เขาที่เปลี่ยนไป เธอเองก็เปลี่ยนเช่นกัน พยายามห้ามความรู้สึก แต่ความใกล้ชิดทำให้หลุดจากวังวนไม่ได้ เธอรู้สึกกับเขามากกว่าน้องชาย..มาได้สักพัก เพียงแต่ไม่กล้ายอมรับเท่านั้นเอง “ถ้าไม่รังเกียจ..ทำไมถึงไม่เชื่อว่าผมชอบ” “คือ..” พูดไม่ออก เพราะสมองว่างเปล่า ลำดับคำพูดยังไม่ถูก จะด่าทอ โวยวาย หรือตอบรับ เธอมืดแปดด้าน “มิกิครับ..” ชาร์วีในแบบที่ไม่เหมือนเดิม กำลังสร้างความสับสนหวั่นไหว มนปรียากำลังเสียการควบคุมตัวเอง จึงได้แต่ยืนใจเต้นโครมครามอยู่อย่างนั้น “พวกเราลองเป็นคนคุยดูไหม?” “คือพี่..” “ผมโคตรชอบเธอเลย” ชอบ ที่แปลว่า อยากได้ ในแบบฉบับของผู้ชายที่ชื่อ ‘ชาร์วี’ . . . กว่าจะเรียกสติคืนร่างก็ยืนงงอยู่หน้าบ้านเกือบยี่สิบนาที ชาร์วีพากลับโดยสวัสดิภาพ เขาไม่ได้แตะตัวเธอเลยหลังจากนั้น คำพูดสุดท้ายยังติดหู สับสนมึนงงเลยตอบไม่ได้ เธอกับเขา..มันจะเป็นไปได้จริงหรือ? เดินเข้าห้องด้วยอาการเหม่อลอย เมื่อผิวกายปะทะความอบอ้าวจึงรีบเปิดพัดลมก่อนเดินไปเปิดหน้าต่าง แหงนมองห้องนอนบ้านข้างเคียงแล้วแปลบในอก ทำไมพักนี้รู้สึกเหนื่อยบ่อยจัง บางทีก็ไม่อยากตื่นมาทำอะไร คิดไปขอบตาก็ร้อนผ่าว ตัดพ้อที่มีสภาพความเป็นอยู่ขัดสน ทั้งที่ตั้งใจและพยายามใช้ชีวิตให้ดีเสมอมา แต่โชคชะตาไม่เคยปรานี โคตรเหนื่อย..ที่ต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี เพียงเพื่อจะเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เวลาท้อก็ไม่มีพ่อแม่โอบกอด มีแต่ตัวเองเป็นที่พึ่ง ร้องไห้ก็ต้องเช็ดน้ำตาเอง เวลาหิวก็ต้องหาข้าวกินเอง เวลาเหนื่อยก็ไม่มีใครปลอบโยน เธอโหยหาความรักมาตลอด ภาวนาว่าสักวันจะเจอคนที่ใช่ คนที่คอยโอบกอดในวันเหนื่อยล้า คนที่จริงใจและพร้อมอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า หวังว่าเขาคนนั้นก็รอเธออยู่เช่นกัน.. “Oops!!” อุทานตกใจเมื่อจู่ ๆ หน้าต่างห้องนอนของชาร์วีก็เปิด ชายหนุ่มโผล่หน้าออกมา ยกสมาร์ตโฟนส่งสัญญาณให้อ่านแชต ไม่รอช้ารีบหยิบมาเปิดทันที Cha_V : เธอโกรธ? อ่านข้อความแล้วยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนแหงนมองคนที่กำลังมองเธออยู่เช่นกัน Cha_V : โกรธจริงเหรอ? มนปรียายังคงอ่านและไม่ตอบเหมือนเดิม Cha_V : ต้องง้อยังไง เงียบ.. Cha_V : มิกิครับ Cha_V : อย่าโกรธเลยนะ MIKI_CV : ไม่ได้โกรธ ไม่ต้องสงสัยว่าอักษร ‘CV’ หมายถึงอะไร เพราะเจ้าของชื่อชาร์วีเป็นคนพิมพ์เพิ่มให้ เธอขี้เกียจเถียงกับเด็กเอาแต่ใจ จึงปล่อยเลยตามเลย Cha_V : ไม่โกรธแต่ต่อไปจะไม่คุยกับผมใช่ไหม ไม่รู้กลายเป็นคนแพรวพราวตั้งแต่เมื่อไร เข้าใจมาตลอดว่าชาร์วีพูดน้อย แต่ที่ไหนได้..เขาแค่ไม่พูดกับคนที่ไม่อยากพูดด้วยเท่านั้น MIKI_CV : ก็คุยอยู่นี่ไง Cha_V : ต่อไปอย่ารับงานคนอื่นอีก MIKI_CV : อืม รับปากส่ง ๆ ไม่งั้นถูกเซ้าซี้ไม่เลิก Cha_V : ห้ามโกหก MIKI_CV : ไม่โกหก..มีอะไรอีกไหม พี่จะอาบน้ำ Cha_V : ตกลงเป็นคนคุยแล้วนะ MIKI_CV : ยัง Cha_V : ให้เวลาคิดถึงวันจันทร์ MIKI_CV : เกินไปนะชาร์ Cha_V : ตามนี้นะครับ ว่าแต่ห้องเธอร้อนหรือเปล่า? MIKI_CV : ถามทำไม? Cha_V : ถ้าห้องเธอร้อน มานอนตากแอร์ห้องผมก็ได้นะ เพียงเท่านั้นมนปรียาก็รีบปิดหน้าต่างดังปัง! ยืนกำสมาร์ตโฟนหัวใจเต้นตึกตัก กัดริมฝีปากจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ถึงเขาไม่อยู่ด้วยก็เขินจนหน้าแดง ร้อนวูบวาบเมื่อนึกถึงรสจุมพิตระหว่างกัน ชาร์วีแทรกซึมเข้ามาทีละน้อย ยิ่งถูกรุกหนักก็ยิ่งอ่อนไหว จนตอนนี้แทบควบคุมหัวใจไม่ได้ เกิดมาจนอายุยี่สิบสี่ เคยมีแฟนหนึ่งคนถ้วน คบหาดูใจตอนเรียนปีสาม กอดจูบกันบ้างนิดหน่อยตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่ดูดดื่มและดุเดือดเหมือนที่ชาร์วีทำ เพราะตอนนั้นยังไม่มั่นใจว่าฝ่ายชายจะจริงจัง สุดท้ายก็ถูกนอกใจ เมื่อผู้ชายทิ้งไปคบคนที่แซ่บกว่าเธอ กับชาร์วีมันถึงแตกต่าง แค่รู้สึกหวั่นไหวเธอก็ยอมให้ลากไปทำมิดีมิร้าย ยอมให้สัมผัสใต้ร่มผ้า ยอมให้จูบแลกลิ้นจนปากแตก ทั้งที่อดีตแฟนยังไม่เคยทำ แล้วแบบนี้จะไหวเหรอ..มิกิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม