ตอนที่ 4 1/3

2117 คำ
คะนิ้งลงมาจากชั้นสองของบ้านเมื่อมีเด็กขึ้นไปตามว่าเพื่อนสนิทอย่างน้ำหวานมาหา น้ำหวานเป็นคนเพียงคนเดียวที่คะนิ้งสนิทที่สุดและไว้ใจมากที่สุด “มาพอดีเลยหวาน ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกพอดี” “เรื่องอะไรเหรอคะนิ้ง แล้วนี่เป็นอะไร มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” “แกเห็นหน้าน้องสาวของพี่เพลิงแล้วใช่ไหม เพียงขวัญ” น้ำหวานเม้มริมฝีปากพลางนึกถึงหน้าของคนที่เธอเจอมาก่อนหน้านี้ ผู้หญิงคนนั้นสวยจัดเลยทีเดียว ดูไฮโซสมกับเป็นลูกสาวของคนมีเงิน ดูเป็นคุณหนูที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงหลงรักได้ไม่ยาก “เจอแล้ว” “ฉันจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่ไม่ได้ ฉันจะทำให้มันบีบพี่เพลิงกลับมาหาฉันให้ได้” “ทำแบบนี้แล้วจะได้อะไรเหรอคะนิ้ง แกกับพี่เพลิงเลิกกันไปแล้วนะ” “ต่อให้เขาเป็นฝ่ายทิ้งฉัน แต่ถ้าฉันท้องเขาก็ต้องกลับมาหรือเปล่า เขาไม่มีสิทธิ์ทิ้งฉัน ต่อให้วันนี้เขาจะไม่ได้เต็มใจที่จะกลับมา แต่ฉันก็จะบีบให้เขากลับมา พี่เพลิงต้องเป็นของฉันคนเดียว” “คะนิ้ง….” น้ำหวานถอนลมหายใจออกมาเบาๆ “ส่วนเธอมีหน้าที่ที่ต้องช่วยฉันนะน้ำหวาน เธอก็เห็นว่ามันสวยแค่ไหน หรือเธออยากให้มันได้พี่ครามไปอีกคน” “มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะนิ้ง” “พี่ครามเอามันแน่ถ้ามันยังอยู่ที่นี่ ตอนแรกฉันคิดว่าพี่ชายฉันจะเกลียดมันจนใจร้ายกับมันได้มากกว่านี้ซะอีก แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพี่ชายฉันร้ายกับมันได้ไม่ลงหรอก ผู้หญิงคนนั้นมารยาร้อยเล่มเกวียน พี่ครามไม่มีทางทันมันแน่ และถ้าเธอไม่อยากให้พี่ครามสนใจมัน และถ้าเธอยังอยากได้เขา เธอต้องช่วยฉันนะหวาน” “แล้วเธอคิดจะทำอะไร รู้ใช่ไหมว่าถ้าพี่ครามรู้เรื่องนี้…..” “ฉันจะให้มันอยู่ที่นี่โดยที่พี่ชายฉันไม่สงสารหรือเห็นใจมันเลย ฉันจะทำให้มันอยู่ไม่ได้จนต้องไปขอร้องอ้อนวอนให้พี่เพลิงกลับมา” แววตาของคะนิ้งหนักแน่น เธอรู้ว่าพ่อของลูกหมดรักเธอแล้ว มันหมดไปนานแล้วด้วยซ้ำ แต่คนอย่างเธอไม่เคยยอมแพ้ให้ใครหรืออะไรทั้งนั้น อยากได้อะไรเธอจะต้องได้ จะไม่มีผู้ชายคนไหนมาบอกว่าไม่รักเธอแล้วเป็นอันขาด เธอไม่ยอม ต่อให้ต้องลากเขากลับมาได้แต่ตัวเธอก็จะทำ “จะทำยังไงเหรอคะนิ้ง” “ตอนนี้พี่ครามให้มันไปทำงานอยู่ที่ไร่ ก็ให้นายมาวินหัวหน้าคนงานเข้าไปพัวพันกับมันสิ มันจะจีบหรือใช้วิธีไหนก็ได้เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นตกเป็นของมันซะ แค่นั้นพี่ครามก็ไม่สนใจมันแล้ว จำไว้นะน้ำหวาน ต้องไม่มีมัน แล้วเธอก็จะยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในสายตาของพี่ครามเหมือนเดิม” “แล้วถ้าพี่ครามรู้เรื่องนี้ล่ะ” “พี่ชายฉันจะไม่มีทางรู้เรื่องนี้เด็ดขาด เธอก็ทำทุกอย่างให้มันแนบเนียนที่สุดสิ อย่าได้พลาด เพราะถ้าเธอพลาด เธอก็จะเสียพี่ครามให้มัน” น้ำหวานคิดยังไงกับพี่ชายเธอเธอรู้ ต่อให้พี่ชายของเธอจะแสดงออกแบบไหน แต่ถ้าการที่พี่ชายของเธอไม่มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาพัวพันมันก็ย่อมดีกว่าอยู่ดี หลายวันต่อมา เพียงขวัญเพิ่งจะรู้ว่าการมาอยู่ที่ไร่มันก็ไม่ได้แย่เสมอไป งานที่ทำไม่ใช่การใส่ปุ๋ยหรือตัดแต่งกิ่งผลไม้ในสวน ที่นี่มีพนักงานค่อนข้างเยอะ ส่วนเธอได้แยกมาช่วยงานในครัวเพื่อทำอาหารกลางวันสำหรับพนักงาน ต่อให้จะเป็นงานที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่มันก็ช่วยให้เลิกเครียดได้ดีกว่าการอยู่เฉยๆ สิ่งที่เธอคิดว่าควรทำมากที่สุดในตอนนี้คืออยู่ในที่ของเธอ ทำให้นายนั่นพอใจและใจเย็นมากกว่านี้ ส่วนทางออกสำหรับเรื่องนี้ต่อให้มันจะยังไม่มี แต่เธอคิดว่ามันต้องมีสักวันที่เขายอมรับฟังข้อเสนอของเธอ “พี่เพียงช่วยหนูปลอกเปลือกไข่ละกันนะคะ วันนี้ทำไข่พะโล้ค่ะ” เพียงขวัญหันกลับมาโฟกัสที่ใบตองอีกครั้ง ภายในครัวมีแม่ครัวอยู่แล้ว สิ่งที่เธอและใบตองต้องทำก็คือการช่วยเป็นลูกมือเท่านั้น “ได้ ยกมาเลยเดี๋ยวพี่ปลอกเอง” ใบตองยิ้มกว้าง จากนั้นก็รีบยกกะละมังไข่มาวางตรงหน้าพี่คนสวย “ปกติพี่เพียงทำอาหารไหมคะ” “ไม่นะ พี่ทำงานอย่างอื่นน่ะ” “มือพี่เพียงซ้วยสวย ผิวก็ขาวไปทั้งตัวเลยค่ะ หนูอยากสวยแบบพี่เพียงจัง” เพียงขวัญยิ้มเอ็นดูคนที่อายุน้อยกว่าเธอหลายปี “ก็ดูแลตัวเองดีๆ สิ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ทาครีมกันแดดบ่อยๆ นี่แหละตัวช่วยผิวสวย” “มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ แล้วไข่ที่ให้ปลอกจะเสร็จตอนกี่โมง” เสียงแม่ครัวประจำครัวของไร่ตะโกนกลับมาถาม ส่งผลให้สายตาทั้งสองคู่หันกลับไปมองพร้อมกัน “ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะป้า ก็ไม่ได้ช้าอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ไม่เห็นต้องเร่งกันขนาดนี้เลย” “แกไม่ต้องมาเถียงฉันเลยนะใบตอง แกรีบๆ เลย แกต้องยกชามอาหารไปให้คุณคราม ส่วนคุณน่ะ ยกอาหารแยกไปให้คุณคะนิ้ง วันนี้คุณคะนิ้งกับคุณน้ำหวานมานั่งทำงานที่บ้านพักโซนบีของไร่” “อ้าว แล้วทำไมพี่เพียงต้องเป็นคนยกไปให้คุณคะนิ้งด้วยล่ะ ปกติถ้ามาก็ต้องทานข้าวพร้อมกับคุณครามหรือเปล่าป้า” “ฉันก็บอกอยู่นี่ไงว่าคุณคะนิ้งมากับคุณน้ำหวาน มาทำงานที่โซนบี ส่วนคุณครามอยู่โซนเอ แล้วจะทานข้าวด้วยกันได้ยังไง ใช้สมองคิดบ้างไหม” “ป้าแรงอ่ะ พูดเหมือนสนิทเลยนะป้า” ใบตองตอบกลับยังเหลืออด ต่อให้จะอายุมากกว่าก็ใช่ว่าจะมาพูดจากันแบบนี้ได้นะ “งั้นเดี๋ยวหนูจะเป็นคนยกอาหารไปให้คุณคะนิ้งเอง พี่เพียงยกไปให้คุณคราม” “ไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าคุณคะนิ้งหวงพี่ชายแค่ไหน คุณคะนิ้งไม่อนุญาตให้พี่เพียงของแกเข้าหาคุณครามเด็ดขาด” “แค่ไปส่งอาหารกลางวันมันใช่การเข้าหาเหรอป้า” “เอ๊ะอีนี่!” “ไม่เป็นไรหรอกใบตอง ว่าแต่มันเป็นคำสั่งของใครที่ว่าฉันต้องยกอาหารไปให้คะนิ้ง” “เป็นคำสั่งของคุณคะนิ้ง” “งั้นก็ไม่มีปัญหา ถ้าอยากให้ฉันยกเข้าไปเดี๋ยวฉันยกไปเอง” “พี่เพียง” “ไม่เป็นไรหรอกใบตอง เขาไม่ทำอะไรพี่หรอก” เพียงขวัญยิ้มให้คนที่ห่วงใยเธอแทนคำตอบ และคนอย่างเธอก็ไม่ได้ยอมใครง่ายๆ อยู่แล้ว เธอพร้อมจะอยู่ในที่ของเธอ อย่ามาหาเรื่องเธอก็พอ เพียงขวัญยกอาหารกลางวันมายังบ้านพักโซนบี ซึ่งเธอพอจะเดาคร่าวๆ ได้ว่าที่นี่ถูกออกแบบคล้ายบ้านทรงตัวยู มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่โตพอสมควร ภายนอกเป็นไร่สตรอเบอร์รี บริเวณพื้นที่ด้านในมีเพียงพอสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมในสวนและแวะซื้อของฝากที่เป็นพวกสตรอเบอร์รีแปรรูป อบแห้ง น้ำสตรอเบอร์รี่ เป็นผลสดที่ถูกจัดอยู่ในแพ็คเกจสวยๆ ก็มีเช่นกัน เพียงขวัญเดินมาถึงยังโซนบี กำลังจะมองหา พนักงานที่อาจจะเดินไปเดินมาอยู่บริเวณนี้ แต่เท่าที่สังเกตดูกลับพบว่าไม่น่าจะมีใครว่างมาให้คำตอบเธอได้เลย “พี่เพียง” เสียงดังอยู่ไม่ไกลส่งผลให้เพียงขวัญหันมอง ก่อนจะพบว่าเป็นน้ำหวานที่หันมองซ้ายขวาก่อนจะเดินหน้าเครียดเข้ามาหาเธอ “คุณน้ำหวาน ฉันเอาข้าวกลางวันมาส่งน่ะค่ะ” “มาตรงนี้กับหวานก่อนค่ะ” น้ำหวานวางมือแตะที่แขนขาวผ่องเบาๆ แล้วพาเธอเดินเข้ามาในมุมเล็กๆ “คุณน้ำหวานมีอะไรหรือเปล่าคะ” “เรียกหวานเฉยๆ ก็ได้ค่ะพี่เพียง ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ พี่เพียงฟังหวานนะ คะนิ้งโกรธพี่มาก และพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วบีบให้พี่เพลิงมาแทน เรื่องนั้นหวานยุ่งไม่ได้ แต่หวานอยากมาเตือนพี่ว่าคะนิ้งจะให้คนงานฉุดพี่” “อะไรนะ” เพียงขวัญโกรธจนเลือดขึ้นหน้า มือเรียวเผลอบีบถาดอาหารแน่น “หวานเตือนคะนิ้งแล้วเขาไม่ฟัง และถ้าเขารู้ว่าหวานเอาเรื่องนี้มาบอกพี่ หวานเองก็จะซวยเหมือนกัน หวานเลยอยากมาเตือนพี่อยู่ห่างๆ อยากให้ระวังตัว และอยากขอร้องว่าพี่อย่าพึ่งไปเอาเรื่องคะนิ้งเพราะถ้าพี่เข้าไปเอาเรื่อง คะนิ้งจะรู้ทันทีว่าหวานเป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกพี่” “ยัยบ้านั่นทำเกินไปจริงๆ” “ทางเดินที่พี่เดินมา ขากลับจะมีคนไปดักรอ พี่เพียงต้องกลับทางด้านหลังนะคะ รีบเดินให้เร็วที่สุดเลยนะคะ” น้ำหวานกุมมือของคนตรงหน้าพร้อมกับแสดงสีหน้าห่วงใยออกมา “ถึงยังไงก็ขอบคุณคุณหวานมากนะคะที่มาเตือน” “ไม่เป็นไรค่ะ หวานเต็มใจมากๆ และหวานก็ไม่ได้โอเคกับสิ่งที่คะนิ้งทำด้วย แต่ตอนนี้พี่รีบเอาอาหารไปไว้ด้านในก่อนนะคะ ก่อนที่คะนิ้งจะสงสัย” “ขอบคุณนะคะคุณหวาน” น้ำหวานพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะรีบปลีกตัวออกมา พอเพียงขวัญยกถาดอาหารเข้าไปด้านในเธอก็พบว่าคนท้องนั่งคอยเธออย่างอารมณ์ดี แปลว่าที่เด็กคนนี้เรียกร้องให้เธอเป็นคนเอาอาหารมาให้ ซ้ำพอเจอหน้าเธอแล้วอารมณ์ดีแบบออกหน้าออกตาขนาดนี้ หมายความว่าสิ่งที่น้ำหวานมาเตือนคือเรื่องจริงสินะ เลือดเย็นเกินคน! “เธอหน้าด้านหน้าทนมากกว่าที่ฉันคิดอีกนะ โดนจิกหัวตบขนาดนั้น คิดว่าจะร้องไห้กลับบ้านแล้วซะอีก” เพียงขวัญวางถาดอาหารลงตรงหน้าของคนที่พูดจาร้ายกาจอย่างใจเย็นก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่บอกว่าท้องกับพี่ชายเธอ “เธอเองก็ท้องอยู่ ควรเอาเวลาไปดูแลตัวเอง ให้ตัวเองได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี คิดแต่เรื่องดีๆ ไม่ใช่ทำตัวแบบนี้นะ และจำเอาไว้ด้วยว่าไม่มีใครเขาปล่อยให้เธอตบเขาฟรีๆ หรอก แต่ครั้งนี้ฉันเห็นว่าเธอท้องอยู่ เตือนไว้เลยว่าอย่ายุ่งกับฉัน ถ้าเกลียดขี้หน้าก็ต่างคนต่างอยู่ ฉันไม่ได้อยากทำร้ายเธอ” “ฉันไม่ได้ต้องการให้ต่างคนต่างอยู่ แต่ฉันต้องการให้เธอไสหัวไปจากที่นี่แล้วให้พี่เพลิงมาอยู่กับฉันแทน” “ลองมองกลับกันดูสิ ถ้าคนที่เธอต้องอยู่ด้วยตลอดชีวิตมีนิสัยเหมือนเธอที่เรียกร้องเอาแต่ได้แบบเอาแต่ใจตัวเองอยู่แบบนี้เธอจะอยู่ด้วยได้จริงๆ ไหม” “อย่าเสนอหน้ามาสอนฉัน ฉันจะทำให้พี่ครามเกลียดแก อย่าได้คิดว่าความสวยของแกจะทำให้พี่ชายฉันหลงได้ อย่าได้ฝัน” “ทำไม กลัวฉันยุ่งกับพี่ชายเธองั้นเหรอ” “แค่พี่ครามเกลียดแกทั้งคน แกก็หยุดอยู่ที่นี่เหมือนตกนรกทั้งเป็นแล้ว” “ถ้าการที่เขาเกลียดฉันมันจะทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตกนรก นั่นก็แปลว่าฉันควรทำให้เขารักฉันสิ ฉันต้องอ่อยพี่ชายเธอ จับพี่ชายเธอทำผัวสินะ” “อีเพียง!” “หยุดบ้าได้แล้วอีคะนิ้ง ถ้าป่วยก็ไปรักษา ถ้ารู้ตัวบ้าก็รีบไปโรงพยาบาลบ้า” “กรี้ดดดดดด!” นางเอกของเนมเรื่องนี้สู้คนอยู่แล้ว ฝากทุกคนติดตามด้วยนะคะ 🥰🫶🏻
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม