และแล้วก็เป็นแบบที่คิด ทันทีที่ถอนจูบ เพียงขวัญก็ตวัดมือตบเข้ากับซีกหน้าของเขาทันที
สงครามถึงกับหน้าหัน แต่ก็ทำได้เพียงยิ้มรับให้กับเจ้าของจูบที่แสนหวานเช่นเดิม
“ผู้หญิงตบแปลว่าอยากให้จูบอีกสินะ”
“บ้านนายสิ จูบมาสิฉันจะได้ตบนายอีก อยากหน้าแหกจนหมดหล่อก็ลองดู”
“หล่อเหรอ….” สงครามยิ้มมุมปาก เขาต้อนเธอให้จนมุมจนเป็นเธอที่ชะงัก
“แล้วหล่อๆ แบบนี้ชอบไหม”
“ไม่ชอบ ไม่มีวันชอบแน่ๆ”
“เดี๋ยวคอยดู อย่าให้รู้ว่าแอบชอบ” สงครามขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ตั้งใจจะกดริมฝีปากลงไปทาบทับกลีบปากนุ่มหวานชวนให้ติดใจนั่นอีกครั้ง ติดที่เพียงขวัญผลักใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง สู้กันจนคนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกรถเม้มริมฝีปากแน่น รอจนกระทั่งเพียงขวัญผลักคนตัวโตสำเร็จเธอจึงหนีลงจากรถโดยมีเขาที่ก้าวตาม
“เดี๋ยวก่อนเพียง”
“ไม่ต้องตามฉันมานะ”
“อ้าวน้ำหวาน” สงครามทักทายเจ้าของร่างบางที่อยู่ตรงหน้า เพียงขวัญเองก็ชะงักฝีเท้า วางสีหน้าไม่ถูกเช่นกัน เดาว่าคนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้ต้องเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรถแน่ๆ
“หวานผ่านมาแถวนี้น่ะค่ะเลยซื้อขนมมาฝากคะนิ้งกับพี่คราม”
“คะนิ้งอยู่บ้าน หวานไปหาหรือยัง”
“หวานแวะมาที่นี่ก่อนน่ะค่ะ อากาศเริ่มร้อน หวานแวะคาเฟ่พี่ทายซื้อน้ำมาฝากด้วยนะคะ”
“ขอบใจมากนะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าวันนี้พี่อยู่ที่ไร่?” ปกติชีวิตของเขาวุ่นวายอยู่หลายที่ ทั้งดูแลไร่ ทั้งรีสอร์ตและวิลล่า เอาจริงๆ แทบเดาไม่ได้เลยว่าแต่ละวันเขาจะไปโผล่ที่ไหน
“หวานเดาเอาน่ะค่ะ คิดว่าพี่ครามน่าจะอยู่ที่ไร่และสุดท้ายก็อยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย โชคดีจังเลยค่ะ” คนบอกยิ้มเก๋ อวดรอยยิ้มสะดุดตาให้เปื้อนบนใบหน้า รอยยิ้มแบบนี้ สายตาแบบนี้ทำให้คนที่ยืนมองอยู่เข้าใจทุกอย่างในทันที
สองคนนี้แอบกิ๊กกันอยู่หรือเปล่าเธอไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ผู้หญิงแสดงออกชัดเจนว่ามีใจ ส่วนนายนั่นจะรู้สึกแบบเดียวกันไหมมันก็มีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน
“นายจะให้ฉันไปทำอะไรรีบสั่งมาเลย” เจ้าของใบหน้าสวยหันไปถามอีกคนอย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่อยากมายืนเป็นก้างขวางคอใครอยู่ตรงนี้ ถ้าคนจะจีบกันเธอก็อยากปล่อยให้เขาได้จีบกันเต็มที่
“น้องสาวของพี่เพลิงแฟนคะนิ้งเหรอคะ” น้ำหวานถามถึง พร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างเป็นมิตร
“น้ำหวานนะคะ เป็นเพื่อนสนิทของคะนิ้ง พี่น่าจะอายุเยอะกว่าหวาน งั้นขอเรียกพี่นะคะ”
“ค่ะ เพียงขวัญ เรียกเพียงเฉยๆ ก็ได้นะคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เพียง แล้วนี่จะมาทำงานที่ไร่เหรอคะ พี่ครามจะให้ทำอะไรคะ หวานว่าที่นี่มันไม่เหมาะกับพี่เพียงเลยนะ ผิวสวยๆ เสียแย่เลย”
“พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะคะ นายคนนี้บังคับพี่มา” เธอหันไปถลึงตาใส่คนที่บงการทุกอย่าง สบตาเขาที่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้เธอเหมือนกัน
“เดี๋ยวพี่เคลียร์เอง ขอบใจมากนะน้ำหวานสำหรับและขนม ซื้อมาฝากพี่ทุกวันเลย พี่เกรงใจแย่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หวานเต็มใจ”
“งั้นพี่ขอตัวไปทำงานก่อนนะ ถ้าจะไปหาคะนิ้งก็ตามสบายเลย อยู่ที่บ้านนั่นแหละ” สงครามรับของฝากและยิ้มให้เพื่อนสนิทของน้องสาวอย่างน้ำหวาน จากนั้นก็ดึงแขนเพียงขวัญออกมาจากตรงนั้นด้วยกัน
“นี่นาย บอกให้ฉันเดินดีๆ ก็ได้ไหม นายจะมาจับแขนฉันทำไม”
“ทำไม ทำไมถึงจับไม่ได้”
“นายไม่กลัวคุณน้ำหวานเข้าใจผิดเหรอ”
“เข้าใจผิดอะไร ทำไมถึงต้องเข้าใจผิด”
“เขาชอบนายไง อย่าบอกนะว่าดูไม่ออก” สงครามมองหน้าคนย้อนถาม แต่แทนที่เขาจะตอบคำถามเธอกลับเลือกที่จะไล่ต้อนเธอแทน
“อยู่ดีๆ ก็สนใจเรื่องนี้ขึ้นมาเฉย แปลกเหมือนกันนะ หรือเธอเกิดสนใจฉันขึ้นมา”
“ฉันก็แค่ถาม ไม่ได้สนใจอะไรเลย”
“จริง?”
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนี้นะ”
“แบบนี้นี่คือแบบไหน”
“สงคราม!” อยากจะกรี้ดดังๆ ให้กับความกวนประสาทของผู้ชายคนนี้ เกินไปมากจริงๆ
“เอาเป็นว่าช่วงนี้เธออยู่ที่ไร่ไปก่อน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเจอใครทั้งนั้น ออกห่างจากคะนิ้งเพราะคนท้องอยู่ในช่วงอารมณ์อ่อนไหวง่าย ฉันไม่อยากให้เขาได้รับผลกระทบถ้าต้องเจอกับเรื่องเครียดขึ้นมา ถ้าเธอไม่สงสารน้องสาวของฉันก็สงสารหลานเธอที่อยู่ในท้องเขาก็แล้วกัน”
“ก็ฉัน….”
“แลกกับการที่ฉันไม่ลงโทษใบตองที่กล้าพาเธอบุกไปหาคะนิ้งถึงบ้าน ถือว่าฉันยอมเธอมากแล้วนะเพียง ให้ได้แค่นี้ ทำดีที่สุดได้แค่นี้ มันมากเกินพอแล้วด้วยซ้ำ” เพียงขวัญคิดตามก่อนจะพยักหน้ารับ ถ้าเขาไม่ลงโทษใบตองมันก็คุ้มแล้ว เธอยอมก็ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ
“และไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหนก็ตามเพื่อดึงใบตองไปเป็นพวกเดียวกับเธอ หยุดความคิดนั้นซะ”
“ถ้าฉันมีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่ ฉันจะเอาใบตองไปด้วย ฉันอยากให้เขามีอนาคตที่ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆ ก็ให้เขาได้เรียน เขายังเด็กไม่ควรต้องมาจมปลักแบบนี้”
“งั้นเหรอ” สงครามยิ้มบางๆ แทนคำตอบ จากนั้นก็เลือกที่จะฟังคนที่เชื่อมั่นในอุดมการและความคิดของตัวเองเป็นที่หนึ่ง
“และพอถึงตอนนั้นนายก็ไม่ควรยื้อเขาไว้นะ คนเราต้องมีทางเลือกและมีชีวิตเป็นของตัวเอง เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”
“แล้ววันไหนล่ะที่เธอจะได้ไปจากที่นี่ วันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีกกี่ปี” คนฟังใจหายวูบ สบตาเขาเธอรู้เลยว่าเขาจริงจัง
“แล้วนายจะบังคับให้ฉันอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่ สมมุติว่าพี่เพลิงไม่มีทางให้ในตัวเลือกที่นายต้องการได้”
“ก็เลือกเอา หลานฉันขาดพ่อ บ้านของไอ้เพลิงก็แค่ขาดเธอที่เป็นน้องสาวสุดที่รักของมันแค่นั้น แฟร์ๆ”
“แล้วมันแฟร์สำหรับฉันหรือเปล่า”
“ผู้หญิงที่กำลังอุ้มท้องแล้วถูกผู้ชายที่เป็นพ่อของเด็กทอดทิ้ง ซ้ำยังไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นมีความสุขอยู่กับผู้หญิงคนอื่นเธอคิดว่าเขาต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆ ไว้แค่ไหน คะนิ้งมีแค่มัน ในขณะที่มันไม่เคยหยุดที่คะนิ้งเลยด้วยซ้ำ ที่ฉันต้องใจร้ายกับเธอ เลวร้ายในสายตาเธอ มันก็เป็นเพราะพี่ชายเธอทำกับน้องสาวฉันก่อนนะเพียง วันนี้ถ้าเธอบอกว่ามันไม่แฟร์สำหรับเธอ มันก็ไม่แฟร์สำหรับคะนิ้งเหมือนกัน”