ร่างบางชะงักกึก เท้าเล็กทั้งสองข้างของหญิงสาวหยุดขยับในทันที ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง หัวใจพลันเต้นกระหน่ำรัว และการหยุดเดินกะทันหันของปาริมาเป็นเหตุให้วริษาต้องหยุดตามไปด้วย
“อ้าวผิง หยุดเดินทำไมล่ะ”
“คะ คุณฟาบิโอให้ผิงขึ้นไปพบที่ห้องทำงานงั้นหรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
เลือดฝาดที่เคยมีอยู่บนใบหน้าเรียวรูปไข่หายวับไปกับตา เมื่อได้ยินคำยืนยันชัดถ้อยชัดคำจากปากของวริษา หญิงสาวห้ามปรามความรู้สึกหวาดกลัวที่กำลังแล่นเข้าสู่กลางอกไม่ได้เลย มือไม้ทั้งสองข้างก็เย็นเฉียบขึ้นมาฉับพลัน
“รีบไปสิ ขืนชักช้าเดี๋ยวก็ได้โดนดุหรอก โดยเฉพาะคุณป้าบัวนะ ตอนนี้เหมือนกำลังมีเขี้ยวงอกมาเลยล่ะ”
วริษาพูดแล้วแล้วทำท่าคล้ายขนลุก ก่อนที่เจ้าตัวจะบังคับให้ปาริมาขยับเท้าตาม ปาริมาเองก็ไม่อาจเลี่ยงได้ จำต้องขยับเท้าตามไปทั้งที่กล้ามเนื้อในอกข้างซ้ายของหญิงสาวเต้นถี่รัวมากกว่าครั้งไหนๆ เธอไม่ได้กลัวที่จะโดนบัวดุเลยสักนิด
ที่เธอกำลังกลัวคือเจ้าของคฤหาสน์อย่างฟาบิโอต่างหาก
วริษาพาปาริมามาพบบัวที่โถงของคฤหาสน์ ก่อนที่วริษาจะเดินออกไปเมื่อหมดหน้าที่ ปล่อยให้ปาริมาเผชิญหน้ากับบัวเพียงลำพัง
“ทีหลังมีอะไรก็บอกนะ หายไปไม่บอกใครแบบนี้ พอคุณฟาบิโอถาม ฉันก็ให้คำตอบไม่ได้ เธออยากให้ฉันถูกคุณฟาบิโอตำหนิอย่างนั้นหรือ”
แม้บัวจะเอ็นดูปาริมาอยู่มาก เพราะเจ้าตัวไม่เคยทำงานขาดตกบกพร่อง หากแต่เมื่อทำผิดก็ต้องตักเตือน การดูแลคนจำนวนมากทำให้บัวจำต้องเข้มงวด ไม่อย่างนั้นจะปกครองคนจำนวนมากได้อย่างไรกัน
“ผิงขอโทษค่ะคุณป้าบัว”
ปาริมาบอกเสียงอ่อนพร้อมประนมมือไหว้บัว ซึ่งบัวเองก็ไม่ได้ถือสาหาความ เพียงแต่ต้องการตักเตือนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
“เอาเถอะ แล้วก็ให้แล้วกันไป คราวหลังอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกก็แล้วกัน”
“ค่ะ”
ปาริมารับคำพร้อมก้มศีรษะลงต่ำเล็กน้อย สายตาของหญิงสาวจ้องมองที่พื้น เพราะไม่กล้าสบสายตากับบัว ด้วยเพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองบกพร่องต่อหน้าที่
“ขึ้นไปพบคุณฟาบิโอที่ห้องทำงานได้แล้ว คุณเขารออยู่”
“ค่ะ”
ปาริมารับคำ ก่อนจะเดินค้อมศีรษะด้วยท่าทางนอบน้อมผ่านร่างของบัวไป เท้าเล็กขยับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินมาถึงบริเวณบันไดที่จะขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์หลังงาม หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกอยู่สามสี่ครั้งเพื่อเป็นการเรียกกำลังใจให้ตัวเอง บางทีเธออาจจะกังวลมากเกินไป
‘คุณฟาบิโออาจจะแค่เรียกเราไปตำหนิที่บกพร่องต่อหน้าที่ก็ได้’
เมื่อคิดได้แบบนั้น หญิงสาวจึงขยับเท้าขึ้นบันไดไป จนกระทั่งพาตัวเองมาหยุดตรงหน้าห้องทำงานของฟาบิโอ ซึ่งมีติอาโก้ยืนอยู่หน้าห้อง
“เข้าไปได้เลยครับ เจ้านายรออยู่”
ปาริมาสบตากับติอาโก้แวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับรู้ มือบางยกขึ้นเคาะประตูห้องสองครั้ง ก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปด้านใน
บรรยากาศภายในห้องชวนให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวกนัก แม้เครื่องปรับอากาศภายในห้องจะกำลังทำงาน อากาศภายในจึงไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป เรียกว่าอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่ทว่าร่างสูงของเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มนั่นต่างหาก ที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดหายใจลำบากขึ้นมาฉับพลัน แต่ปาริมาก็ไม่อาจเลี่ยงได้ จำต้องพาตัวเองไปหยุดอยู่ตรงหน้าฟาบิโอ ที่ทอดสายตามาที่เธอตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในห้อง
“นั่งลงสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
ปาริมาตอบรับ หญิงสาวไม่แม้แต่จะกล้าสบสายตาคนเป็นเจ้าของห้อง มือบางรีบขยับเก้าอี้ออก แล้วนั่งลงตามที่อีกฝ่ายออกปากสั่ง
นัยน์ตาสีเทาอ่อนมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา ในสายตาของเขาปาริมาเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าน่ารักมากกว่าจะสวยโดดเด่น เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ล้อมรอบใบหน้ารูปไข่ดูนุ่มละมุนแม้ว่าเขาไม่เคยได้สัมผัส ดวงตากลมโตนัยน์ตาสีดำขลับราวลูกกวางก็ดูน่ามอง ริมฝีปากเรียวเล็กสีชมพูอ่อนก็ชวนให้ผู้คนที่ได้พบเห็นหลงใหล แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวเอาแต่หลบสายตาเขา เรียกว่าหลบสายตาก็ไม่ค่อยถูกเท่าไรนัก เรียกว่าหลบหน้าหลบตาน่าจะเหมาะกว่า เห็นได้จากการที่หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตา ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ยังไม่ยอมมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย ชวนให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“วันนี้ทำไมไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง”
เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบหากแต่แฝงแววตำหนิเอาไว้ด้วย ยิ่งทำให้ปาริมารู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงขึ้นถนัดตา ไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวห่อเข้าหากัน พร้อมๆ กับที่ใบหน้าเล็กก้มลงต่ำจนปลายคางแทบจะชิดอก
“คือผิง…”
ปาริมาไม่ทราบว่าตัวเองควรจะให้คำตอบแบบไหนดี ในอกของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แม้เรื่องที่เขาถามจะเป็นเพียงเรื่องที่เธอบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ใช่เรื่องที่เธอกังวลว่าเขาจะล่วงรู้
“ว่าไง”
เมื่อปาริมามัวแต่อ้ำอึ้ง ฟาบิโอจึงกระตุ้นหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น ทำเอาคนที่ยังให้คำตอบไม่ได้สะดุ้งตัวน้อยๆ
“คะ...คือว่าผิง…”
“เวลาพูดน่ะ มองหน้าฉันด้วย หลบหน้าหลบตาคู่สนทนาแบบนั้น ไม่มีใครบอกเธอหรือไงว่ามันไร้มารยาท”
คำตำหนิอย่างตรงไปตรงมาทำให้ปาริมาไร้ทางเลือก ใบหน้าเล็กค่อยๆ แหงนเงยขึ้นมองคู่สนทนาอย่างฟาบิโอ
“ขอโทษค่ะ”
ปาริมาบอกเสียงเบาหวิว นัยน์ตาสีดำขลับไหวระริกคล้ายกำลังรู้สึกผิดทำเอาคนมองอย่างฟาบิโอใจอ่อนยวบ หากแต่ยังคงแสดงออกด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา
“ตกลงว่ายังไง ทำไมเธอไม่มาทำหน้าที่ของตัวเอง หรือว่าเธอนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ เป็นแบบนั้นใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะ”
ปาริมาปฏิเสธทันควัน หญิงสาวไม่เคยคิดแบบนั้น เพียงแค่เธอไม่กล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับเขาก็เท่านั้นเอง
“ไม่ใช่แบบนั้น แล้วมันเป็นเพราะอะไร”
“คือว่า…”
ปาริมาอยากจะมีเวทมนตร์คาถาที่สามารถเสกให้ตัวเองหายไปจากตรงนี้ เพราะเธอไม่อาจพูดความจริงออกไปได้ และในขณะเดียวกันเธอก็ไม่อยากพูดปด
เสียงพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ทำให้หญิงสาวทราบว่าเจ้าของห้องคงกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปาริมาจึงตัดสินใจจะบอกเขาไปว่าเธอไม่ค่อยสบาย เลยไม่ได้ทำตามหน้าที่ ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าขืนอยู่ให้เขาคาดคั้นต่อไปแบบนี้ จะมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี แต่หญิงสาวยังไม่ทันแบบนั้น คนตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นมาก่อน