Chapter 7
กว่าพริกหวานจะถึงเพนต์เฮาส์ก็เกือบสามทุ่ม พอเข้ามาในห้องเสียงประชดก็ดังขึ้นทันที
“นึกว่าจะไม่ได้แดกสเต๊กซะแล้ว ช้าฉิบ”
“ทีหลังก็ซื้อแดกเองสิ จะรอทำไมล่ะ” พริกหวานตอบกลับเสียงห้วนอย่างใส่อารมณ์ แล้ววางถุงอาหารที่ซื้อมากระแทกลงบนโต๊ะบาร์ จนพัตเตอร์ชะงักนิ่งไปแป๊บหนึ่ง เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์โกรธกรุ่นของพริกหวาน
“โอ๋ๆ กูขอโทษ แม่ง กูนี่ปากไม่ดีเลยเนอะ” พัตเตอร์รีบเปลี่ยนโหมดโหด แล้วทำเสียงสองขอโทษพริกหวานทันที
“อย่าตบหัวแล้วลูบหลัง ไม่ชอบ” พริกหวานหย่อนตัวนั่งเก้าอี้กลมตัวสูงข้างพัตเตอร์ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“อุ๊ย! ทรงผมใหม่ โคตรแจ่มว้าวมากว่ะพริก น้องสาวของกูทุ่มเพื่อผู้ชายสุดๆ” พัตเตอร์พูดแซว แต่ทว่าพริกหวานกลับเจ็บจี๊ดกลางใจกับประโยคสุดท้ายของเขา นั่นสินะ เธอดูทุ่มเทเพื่อเขาสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ใจเขาอยู่ดี
“ฉันนี่ดูโง่ดีเนอะ”
“กูแซวเล่น มึงเป็นอะไรเนี่ย” พัตเตอร์พูดเสียงอ่อน แล้วยกมือลูบหัวพริกหวานเบาๆ ที่ตอนนี้พริกหวานดูไม่เอ็นจอยเท่าไรนัก
“ไปเอาจานมาใส่สเต๊กเนื้อดิ” พริกหวานเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของพัตเตอร์ ได้แต่ตอบในใจว่า ‘อกหักจากคนเดิมอีกแล้วว่ะ’
“กูแดกนู่นแดกนี่จนอิ่มละ รอมึงนานเกินนนน”
“เนี่ย พอซื้อมาให้สุดท้ายแกก็ไม่กิน เฮ้อ เบื่อว่ะ” ตอนนี้อารมณ์สวิงไปหมด มันทั้งน้อยใจ ทั้งเสียใจ นอยด์ไปหมดทุกสิ่ง
“ดราม่าเก่งนะมึงเนี่ย กูกินก็ได้” พัตเตอร์ลุกไปเอาจาน ถึงจะอิ่มก็ต้องกิน เพราะพริกหวานดูอารมณ์ไม่ปกตินัก เดี๋ยวน้อยใจเขามากๆ ก็ร้องไห้ใส่เขาอีก
พอพัตเตอร์เทสเต๊กเนื้อลงบนจาน พริกหวานเอาส้อมจิ้มสเต๊กชิ้นหนึ่งเข้าปาก ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์สามขวด
“พรุ่งนี้ไปกินข้าวกับเฮียกี่โมง”
พริกหวานชะงักไปแป๊บนึง เธอส่ายหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นขึ้นไปชั้นสอง
“ทำไมพี่ต้องให้ความหวังหนูด้วย” เมื่อเข้ามาในห้องนอน พริกหวานตัดพ้อกับคนใจร้ายที่โทรเข้ามา พริกหวานเลือกที่จะคว่ำหน้าจอลงบนที่นอน ก่อนจะทรุดตัวลงที่พื้นพรมปลายเตียง แล้วกระดกดื่มเบียร์เพื่อย้อมใจ
ภาพตัดไปรุ่งเช้าพริกหวานตื่นขึ้นมาด้วยสภาพปวดหัวเมื่อยตัวสุดๆ เมื่อคืนเธอนอนที่พื้นพรมท้ายเตียงกอดขวดเบียร์ สภาพของเธอตอนนี้ก็ไม่ต่างจากนังเมรีขี้เมาสักนิด
พอหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็มีสายโทรเข้าที่ไม่ได้รับสิบสายและแชตไลน์ที่เขาส่งมา เขาดูหัวเสียมากๆ ที่เธอไม่รับสายและไม่ตอบแชตของเขา
ก็ใช่สิ! ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงรีบตอบรีบหยอดมุกจีบเขาไปแล้ว
ถึงเธอจะคลั่งรักเขามาก แต่เธอก็อยากเป็นคนเดียวที่เขาคุย ไม่ได้อยากเป็นตัวเลือกของเขา พอคิดได้เช่นนั้น พริกหวานก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวออกจากเพนต์เฮาส์ วันนี้เป็นวันเสาร์เดิมทีเป็นวันเดต แต่ในเมื่อเดตมันล้มแบบใจเจ็บมากๆ เธอจึงเลือกที่จะกลับบ้านไปเติมรักจากปะป๊าและคุณแม่ของเธอดีกว่า
พริกหวานขับรถมาถึงบ้านในเวลาเที่ยงวัน เธอเดินเข้าไปหาชายสูงวัยอายุห้าสิบกว่าที่ยังดูหล่อดูสมาร์ต นั่งจ้องหน้าจอไอแพดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“ฟอด! สุดหล่อของหนู วันนี้เป็นวันหยุดใครเขาให้ทำงานกันคะ” พริกหวานสไลด์ตัวเข้าไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับคุณพ่อของเธอ ยื่นหน้าไปหอมแก้มคุณพ่ออย่างเอาใจและกอดเอวไว้แน่นด้วยความคิดถึง
“คนสวยของป๊า กลับบ้านมาให้ป๊าเห็นหน้าสักทีนะลูก” วาโยฟัดแก้มลูกสาวคนเล็กด้วยความรัก และไม่วายพูดแซวลูกสาวที่ขลุกอยู่แต่เพนต์เฮาส์ตั้งแต่เขาอนุญาตให้ไปอยู่ที่นั่น แต่วาโยก็หายห่วงไปเปลาะหนึ่ง เพราะที่เพนต์เฮาส์ยังมีพัตเตอร์คอยดูแลพริกหวาน
“หืม เด็กน้อยผมสั้นที่ไหนคะเนี่ย สวยจังเลยลูกสาวแม่” พลอยใสที่ถือจานผลไม้เข้ามาในห้องรับแขกชมลูกสาวของเธอเสียงหวาน
“ทรงนี้เหมาะกับหนูไหมคะแม่” พริกหวานผละตัวจากคุณพ่อของเธอ เข้าไปโอบกอดคุณแม่ของเธอบ้าง
“ทรงนี้เหมาะกับหนูมากลูก เปลี่ยนลุคจากสาวหวานเป็นสาวแซ่บไปเลย”
“พูดถูกใจเอาไปหนึ่งจุ๊บ” พริกหวานหอมแก้มคุณแม่ของเธอฟอดหนึ่ง
“หนูแอบมีแฟนหรือเปล่าคะ ทำไมดูสวยวันสวยคืน” พลอยใสแซวลูกสาวของเธอเล่นๆ
“ลูกยังเป็นเด็กอยู่เลย จะมีแฟนได้ยังไง ใช่ไหมลูก” วาโยหันไปเออออกับลูกสาวคนเล็ก
“หนูยังไม่มีแฟนหรอกค่ะปะป๊า คุณแม่” พริกหวานยิ้มแห้งให้พ่อและแม่ของเธอ ยิ้มแบบไม่ถึงดวงตา
“ดีมากลูกสาว หนูไม่ต้องรีบมีแฟนหรอก อายุสามสิบค่อยมีแฟนก็ได้”
“หวงจริงๆ” พลอยใสส่ายหัวเบาๆ
“ไหนๆ ลูกสาวก็มาแล้ว เราไปกินข้าวนอกบ้านกันดีไหม” วาโยเสนอขึ้น
“ดีเลยค่ะ หนูยังไม่ได้กินข้าวมาเลย”
“งั้นเราไปกันเถอะ” ว่าแล้ววาโยก็โอบกอดเมียและลูกสาวของเขาเดินออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดี
คุณพ่อของเธอพามากินร้านอาหารร้านโปรดของคุณแม่ ที่เมื่อวานนี้เธอนั่งอยู่บนรถเป็นชั่วโมงด้วยใจที่เจ็บแปลบ พออาหารมาเสิร์ฟ พริกหวานก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปสเต๊กเนื้อแล้วโพสต์ลงไอจีพร้อมแคปชัน
Noo_WanWan มื้อพิเศษกับคนที่แสนพิเศษ อาหร่อย^^
พัตเตอร์เข้ามาคอมเมนต์ด้วยอิโมจิมองบนทันที คงเข้าใจว่าคนแสนพิเศษในแคปชันหมายถึงคิมหันต์ แต่ความจริงแล้วพริกหวานหมายถึงพ่อแม่ และนาทีต่อมามือถือของเธอก็สั่นดังด้วยเสียงแจ้งเตือนไลน์
พี่คิม : หนูไปกินข้าวกับใคร?
พี่คิม : ก็ไหนวันนี้หนูมีนัดกินข้าวกับพี่ไม่ใช่เหรอ?
พี่คิม : อ่านแล้วไม่ตอบคือ? โทรไปก็ไม่รับ?
พี่คิม : รับสายพี่หน่อยครับ
พี่คิม : หนูเป็นอะไร โกรธอะไรพี่ แล้วไปกินสเต๊กกับใคร?
นู๋หวาน : ขออนุญาตไม่ตอบเรื่องส่วนตัวนะคะ
พี่คิม : คืออะไรวะ!
พริกหวานอ่านข้อความสุดท้ายของเขา เธอเลือกคว่ำหน้าจอลงบนโต๊ะแล้วกินอาหารต่อ พอกินข้าวเสร็จคุณพ่อก็พาเธอและคุณแม่ไป
ช็อปปิงต่อ กว่าจะมาถึงบ้านก็ประมาณหกโมงเย็น
“ปะป๊า คืนนี้หนูไปเที่ยวคลับนะคะ”
“เที่ยวคลับของบ้านเราเท่านั้นนะ” วาโยหันมาพูดกับลูกสาวคนเล็กเสียงเข้ม
“รับทราบค่า ตั้งแต่หนูเกิดมา หนูยังไม่เค้ยไม่เคยไปเที่ยวคลับที่ไหนนอกจากคลับปะป๊าเลยค่า” เธอโกหกหน้าตาย ที่เคยฝืนคำสั่งแอบเกเรไปโรงเหล้าเถื่อนจนได้เรื่อง แต่ดีที่เรื่องไม่ถึงหูคุณพ่อของเธอ ไม่งั้นเธอคงโดนสั่งย้ายให้มาอยู่บ้านแน่ๆ
“คลับบ้านเราปลอดภัยสำหรับหนูและก็น่าเที่ยวไม่ต่างจากที่อื่น หนูไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวคลับที่ไหนหรอก”
“นั่นสิคะ คลับของปะป๊านัมเบอร์วันที่สุดแล้ว งั้นหนูกลับเพนต์เฮาส์เลยนะคะ”
“ทำไงก่อน” วาโยเอียงแก้มให้ลูกสาว พริกหวานจึงเข้าไปหอมแก้มคุณพ่อของเธออย่างเอาใจ ก่อนจะไปหอมแก้มคุณแม่ของเธอด้วย
“อยากไปด้วยจังเลยค่ะลูกสาว”
“ขอปะป๊าสิคะคุณแม่”
“ไม่ให้ไป ปะที่รัก ไปพักผ่อนกันเถอะ”
“อะไรของเฮียเนี่ย พึ่งหกโมงเอง”
“เถอะน่าที่รัก” ว่าจบคุณพ่อก็ขยิบตาให้พริกหวาน ก่อนจะโอบกอดคุณแม่เข้าห้องพักส่วนตัว พอเห็นคุณพ่อรักคุณแม่มากขนาดนี้ ทำให้เธอสุขใจไปด้วยมากๆ เลย
พอกลับมาถึงเพนต์เฮาส์ก็ประมาณหกโมงครึ่ง เธอจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้า เหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวบางๆ ไปยืนอยู่หน้ากระจกขนาดกลางที่ติดไว้ที่ผนังห้องน้ำ ก่อนจะยกมือถือปิดหน้าตั้งมุมกล้องให้เห็นเสื้อชั้นในกับแพนตี้ตัวจิ๋วจากเงาสะท้อนบนกระจก จากนั้นเธอก็กดชัตเตอร์ พอได้รูปอวดหุ่นเซ็กซี่ที่ปรากฏผ่านเงากระจก พริกหวานก็อัปลงไอจี แต่ทว่ายังไม่ถึงหนึ่งนาที เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น
พี่คิม : หนูลงรูปอะไรแบบนั้นวะ ลบออกเดี๋ยวนี้
นู๋หวาน : แล้วทำไมหนูต้องลบ
พี่คิม : หนูอยู่กับใคร?
นู๋หวาน : ใครก็ได้ที่ไม่ใช่พี่
อยากให้ลบรูปนักเหรอ ได้เลย เดี๋ยวเธอจัดให้อีกภาพ ว่าแล้วพริกหวานก็เปิดน้ำในอ่าง ก่อนจะหย่อนบับเบิลบาทแบบก้อนกลิ่นซากุระลงไป พอน้ำในอ่างมีฟอง เธอถอดชุดชั้นในออก แล้วลงไปแช่น้ำในอ่าง โกยฟองนุ่มๆ มาปิดช่วงหน้าอก แล้วกดถ่ายรูปในอ่างอาบน้ำผ่านเงาสะท้อนบนกระจกเหมือนเดิม
พี่คิม : ลบรูปออกซะ!
นู๋หวาน : สั่งใครคะ งงจัง เป็นอะไรกับหนูก่อน
พี่คิม : หึ เป็นอะไรกับหนูงั้นเหรอ? ได้เลยเด็กน้อย เดี๋ยวได้รู้กัน
“รู้อะไร ไม่เห็นอยากรู้เลย” พริกหวานเบ้ปาก แล้วนอนแช่น้ำในอ่าง พอได้กลิ่นหอมของซากุระก็รู้สึกผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดลงบ้าง เขาหัวร้อน ทำเหมือนหวง ทำเหมือนมีใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลือกเธออยู่ดี เขานี่ล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอมากเกินไปแล้ว