@ห้างสรรพสินค้า
“ทรงนี้เหมาะกับคุณน้องมากเลยค่า” เจ้าของร้านเสริมสวยมองสาวสวยตรงหน้าผ่านเงาสะท้อนที่กระจกบานใหญ่ด้วยแววตาเป็นประกาย
ทรงผมซอยสั้นประบ่าช่างเหมาะกับใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตากลมโตเหลือเกิน มันส่งลุคให้หญิงสาวสวยน่ารักมากๆ
พริกหวานเพียงแค่ยิ้ม พอเปลี่ยนลุคเป็นสาวผมสั้น เธอก็เขินหน่อยๆ เพราะยังไม่ชินเท่าไรนัก
“พี่ขอถ่ายรูปคุณน้องติดโพรโมตหน้าร้านได้ไหมคะ” เจ้าของร้านพูดเชิงอ้อนวอนกะพริบตาปริบๆ
“จะดีเหรอคะคุณพี่ หนูจะพาร้านคุณพี่เรตติงตกหรือเปล่า” พริกหวานพูดอย่างไม่มั่นใจนัก
“คุณน้องทั้งสวยทั้งน่ารักขนาดนี้ จะเอาอะไรเรตติงตกล่ะคะ หน้าตาสวยๆ แบบคุณน้องนี่แหละค่ะ จะพาร้านเจ๊ปังสุดๆ”
“ถ้าเจ๊มั่นใจในหน้าตาและทรงผมหนูละก็ งั้นหนูช่วยเจ๊ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเรตติงร้านเจ๊ตก จะโทษหนูไม่ได้น้า” พริกหวานยิ้มหวานให้เจ้าของร้านเสริมสวย
“ขอบคุณมากๆ นะคะคุณน้องขา” จากที่จะมาแค่ตัดผมทรงใหม่ กลายเป็นว่ารับเป็นนางแบบสมัครเล่นให้กับร้านเสริมสวย วันนี้เธอไม่เสียเงินค่าตัดผมสักบาท เพราะเจ๊เจ้าของร้านบอกว่า แลกกับค่าถ่ายแบบ
พอออกจากร้านเสริมสวย พริกหวานก็เข้าคลินิกเพื่อสปาหน้า เติมวิตามินให้ผิวออร่ากว่าเดิม พอเสร็จธุระเรื่องสวยๆ งามๆ กำลังจะกลับพัตเตอร์ก็ไลน์มาหา
พัตเตอร์ : กลับยังอะ
พริกหวาน : กำลังจะกลับ
พัตเตอร์ : ซื้อสเต๊กเนื้อมาให้หน่อยดิ หิวว่ะ
เอาร้านที่แม่ชอบไปกินอะ
พริกหวาน : สั่งร้านไลน์แมนดิ
พัตเตอร์ : ไหนๆ มึงก็ผ่านอยู่แล้วปะ
น้ำใจกับพี่ชายตัวเองอะอีพริก!
พริกหวาน : ค่าพี่ชาย ฮึ่ย!
พัตเตอร์ : กวนตีน
พริกหวาน : เคๆ ขับรถก่อน
พัตเตอร์ : เออ! ขับรถดีๆ
พอฉันคุยไลน์เสร็จก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าสะพายบ่าใบเล็ก กว่าจะได้ออกจากห้างก็ทุ่มหนึ่งเข้าไปแล้ว ฉันขับรถเลยห้างมาหน่อย ก็แวะเข้าร้านอาหารที่ตั้งบนพื้นที่กว้างติดริมถนนใหญ่ ร้านนี้เป็นร้านโปรดคุณแม่ของฉัน และพัตเตอร์ก็ชอบสเต๊กร้านนี้มากๆ
ฉันเลือกจอดรถอยู่ริมสุดของร้านแถวที่สอง พอฉันจอดรถเรียบร้อย ฉันก็เดินเข้าไปในร้านอาหาร สั่งสเต๊กเนื้อและสั่งอาหารเพิ่มอีกสองอย่างเป็นเซตกลับบ้าน รอเพียงประมาณยี่สิบนาทีก็ได้อาหารตามที่สั่ง
พอฉันกำลังจะขับรถออกจากช่องจอด ฉันเห็นรถสปอร์ตหรูสีแดงอันคุ้นตาขับมาจอดที่แถวแรกที่อยู่ติดหน้าร้าน เพียงแค่เห็นรถก็ทำให้ฉันยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ ใจของฉันมันฟูฟ่องล่องลอยกระชุ่มกระชวยและตื่นเต้นสุดๆ เขามีอิทธิพลกับใจของฉันมากๆ เป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ฉันตกหลุมรักซ้ำๆ อีกด้วย
“หนูกับพี่ต้องเรียกว่าพรหมลิขิตแล้วแหละพี่คิม” ถ้าไม่เรียกว่าพรหมลิขิต แล้วจะเรียกว่าอะไรได้ ร้านอาหารมีตั้งมากมาย แต่กลับมาเจอเขาที่นี่ ทั้งที่พรุ่งนี้จะมีนัดกินข้าวกันแล้ว
การที่ฉันไปตัดผมสั้น มันมีที่มาที่ไปนะ ย้อนกลับไปตอนฉันอายุสิบสองปี เขาอายุสิบแปดปี อายุฉันกับเขาห่างกันหกปี วันนั้นเป็นวันเกิดคุณพ่อของฉัน แน่นอนว่าคุณลุงภาคินต้องมาร่วมงาน ทุกครั้งที่คุณลุงภาคินมาที่บ้านของฉัน ฉันจะดีใจมากๆ เพราะคุณลุงจะพาพี่คิมหันต์มาด้วย
พอฉันเห็นรถลุงภาคินขับเข้ามาบริเวณบ้านของฉัน ฉันรีบวิ่งไปยืนรอ พอเห็นพี่คิมหันต์ลงจากรถ ฉันรีบเข้าไปกอดแขนออดอ้อนเขาทันที สิ่งที่พี่คิมทำกับฉันทุกครั้งที่เจอหน้า เขาชอบเอามือลูบหัวของฉันเบาๆ มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นมากๆ เลยแหละ และวันนั้นเองป๊าของฉันถามทีเล่นทีจริงว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน พี่คิมตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมากว่า เขานั้นชอบผู้หญิงผมสั้น แต่มันกลับตรงข้ามกับฉันในตอนนั้นที่ไว้ผมยาว
พอเห็นพี่คิมลงจากรถ ฉันรีบหยิบลิปสติกออกจากกระเป๋า เพื่อเติมริมฝีปากให้ฉ่ำๆ เอากระจกลงหันหน้าซ้ายขวาเพื่อเรียกความมั่นใจกับทรงผมใหม่
พี่คิมเป็นผู้ชายที่หล่อมาก วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อขึ้นโชว์นาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือ ปลดกระดุมเสื้อด้านบนสองเม็ดจนเห็นแผงอก ไม่ว่าจะลุคไหนเขาก็ดูดีมากในสายตาของฉัน
ฉันรีบปลดเบลต์และเปิดประตูรถจะลงไปหาเขา แต่แล้วฉันกลับต้องปิดประตูไว้เหมือนเดิม แล้วนั่งนิ่งใจกระตุกชาวูบ ใจสั่นหวิวไปหมด เมื่อมีผู้หญิงผมสั้นประบ่า สวมชุดเดรสทรงสูทเสื้อแขนยาว กระโปรงจีบรอบความสั้นเหนือเข่า ใส่รองเท้าบูทเกือบถึงเข่า เดินไปหาพี่คิมที่ยืนรออยู่หน้ารถ
ฉันอยากให้ผู้หญิงที่มาด้วยกับเขา เป็นเพียงพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ มาที่นี่เพื่อมาคุยงานกัน แต่เหมือนทั้งคู่จะตอกย้ำคำตอบให้ฉันว่าฉันนั้นคิดผิด เมื่อผู้หญิงหุ่นดีคนนั้นเดินไปคล้องแขนของเขา แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน
เขาบอกกับฉันว่าวันนี้เขาติดธุระ ธุระที่ว่าคือพาผู้หญิงคนนั้นมากินข้าวอย่างนั้นเหรอ?
ฉันนั่งอยู่บนรถจนถึงสองทุ่ม จนกระทั่งเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินควงแขนพี่คิมออกมาจากร้าน พวกเขาเหมือนคู่รักกันจริงๆ และคราวนี้พี่คิมเดินมาส่งเธอคนนั้นที่ฝั่งข้างคนขับ แถมยังเปิดประตูให้เธออีกด้วย พี่คิมเอาแขนค้ำไว้ตรงประตูรถ คุยอะไรกันก็ไม่รู้ และจู่ๆ พี่คิมก็โน้มตัวเข้าไปในรถ ท่าแบบนี้คุ้นๆ เหมือนที่เขาเคยทำกับฉันที่บ้านของเขา ฉันยังจำรสจูบแสนหวานของเขาได้อยู่เลย คิดถึงทีไรก็วูบวาบไปทั้งตัว แต่ตอนนี้พอภาพนั้นมันเข้ามาในหัว ใจของฉันมันกลับหน่วงๆ เจ็บแปลบจนแทบเป็นบ้า
มือของฉันกำพวงมาลัยรถแน่น แค่คิดว่าเขาทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ฉันก็หน่วงไปทั้งใจ ชาวูบไปทั้งตัว ใจมันหวิวๆ มันสั่น เหมือนคนกำลังปีนหน้าผาไปจุดสูงสุด แต่โดนกระชากลงมาแล้วถีบตกเหว มันเจ็บ เจ็บแบบสุดๆเลยแหละ วู้! ฉันนี่เก่งจังเลยนะ ดูเขาพลอดรักจนจบ จนกระทั่งเขาขับรถออกไป ใจของฉันเหมือนหลุดลอยไปด้วย
ตลอดเจ็ดวันที่คุยกันทางไลน์ จะเรียกว่าฉันจีบเขาก็ได้ แต่มันรู้สึกดีมากๆ ฉันยังคิดเลยว่าเขาเป็นแฟนของฉัน
เหอะ! แฟนมโนน่ะสิ ฉันก็แค่ผู้หญิงในช่องแชต ที่เขาคุยแก้เหงาก็แค่นั้น วู้! พอรู้สถานะตัวเองมันเจ็บดีจัง
ฉันคงหวังไว้สูงไปหน่อย คิดว่าเขาเลิกกับแฟนเก่า แล้วมโนไปใหญ่โตว่าเขาจะสนใจฉัน ฉันเนี่ยตลกตัวเองจริงๆ ที่ตัดผมใหม่เพราะอยากเป็นผู้หญิงในสเป็กของเขา ไปสปาตัวสปาหน้าขัดผิวตัวเตรียมไปกินข้าวกับเขาวันพรุ่งนี้ แต่แล้วยังไง? สุดท้ายก็เห็นเต็มตา ต่อให้เขาจะโสด คนที่เขาเลือกก็ไม่ใช่ฉันอยู่ดี