ตอนที่ 11
ความทรงจำดีๆ
เช้าวันต่อมา
ร่างบางที่กำลังนอนหลับด้วยความอ่อนล้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เพราะแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามากระมบกับเปลือกตาบาง
"อื้อ~" ร่างบางร้องประทวงในลำคอเบาๆ เมื่อถูกแสงแดดรบกวนการพักผ่อนของเธอ ก่อนจะพลิกตัวหันใบหน้าหวานเข้าหาแผงอกแกร่งเพื่อหลบเลี่ยงแสงแดดที่ตกกระทบลงมาบนเปลือกตาของเธอ
"ปล่อยก่อน เดี๋ยวพี่ไปปิดม่านให้" ลูเซียโน่เอ่ยขึ้น เมื่อคนตัวเล็กออกแรงกอดรั้งเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวออกไปไหน
ยาหยีส่ายหน้าให้แทนคำตอบ โดยที่ใบหน้าหวานยังคงซุกอยู่ตรงแผงอกแกร่ง
"หนูตื่นแล้วค่ะ"
"นอนต่อก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปปิดม่านให้"
"ตื่นแล้วจริงๆ ค่ะ" ยาหยีตอบขณะที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาซบตากับชายหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข และความสดใส "หยีมีความสุขที่สุดเลยค่ะ ที่ตื่นมาเจอพี่ลูเซียสอยู่ข้างๆ "
"พี่ก็มีความสุขค่ะ กลับจากที่นี้หยีย้ายไปอยู่กับพี่ไหมคะ"
"ที่คอนโดพี่ลูเซียสเหรอคะ"
"ที่บ้านพี่ค่ะ คอนโดพี่เอาไว้อยู่เวลาทำงานดึกๆ แล้วขี้เกียจกลับบ้านดึกน่ะ"
"หยีต้องบอกป๊ะป๋ากับม๊ามี้ก่อนค่ะ ถ้าจะให้เราไปอยู่ด้วยกันเลย มันดูข้ามหน้าข้ามตาพวกท่านไปหน่อย" ยาหยีบอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เมื่อนึกถึงพ่อแม่ของตัวเอง
"พี่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเองนะ พี่จะเข้าไปขอโทษพ่อแม่ของหยีสำหรับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหมคะ" ลูเซียโน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทำให้ยาหยีคลี่ยิ้มออกมาด้วยความสบายใจ
"ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ แค่ให้พวกท่านรับรู้ว่าสองคนกำลังคบหาดูใจกันอยู่ก็พอค่ะ ป๊ะป๋ากับม๊ามี้ใจดี พวกท่านต้องเข้าใจพวกเรามั้งสองคนแน่ๆ ค่ะ"
"งั้นกลับไปเราไปหาพวกท่านกัน"
มือเรียวโอบกอดเอวสอบไว้แน่น แทนคำขอบคุณที่เข้าใส่ใจในความรู้สึกของเธอ และให้เกียรติครอบครัวเธอ โดยที่เธอไม่ต้องเป็นฝ่ายร้องขอ
"ลุกไว้ไหม หรือจะให้พี่อุ้มไปอาบน้ำ"
"อุ้ม~" ยาหยีเงยหน้าขึ้นพลางเอาปลายคางมนถูไถบนมัดกล้ามของชายหนุ่มอย่างออดอ้อน
"ขี้อ้อนเป็นลูกเหมียวเลยนะ"
"เหมี๊ยว~" ยาหยีกะพริบตาปริบๆ พลางทำเสียงแมวน้อยตอบกลับถ้อยคำหยอกเย้าของแฟนหนุ่ม เพราะความน่ารัก ขี้เล่นของเธอ ทำให้ลูเซียโน่ต้องยื่นมือมาบีบปลายจมูกเชิดรันเบาๆ ด้วยความมั่นเขี้ยว ก่อนจะลุกขึ้นยื่นพร้อมกับช้อนร่างบางขึ้นไปไว้ในอ้อมกอด แล้วเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำพร้อมกัน
"จะทำอะไรคะ! " ยาหยีร้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อทันทีมี่ลูเซียโน่วางร่างเธอลงบนขอบอ่างอาบน้ำ เขาก็ย่อตัวนั่งลงมาตรงกลางหว่างขาของเธอตามมา
"ขอดูหน่อยว่าบวมมากไหม" ลูเซียโน่บอกขณะที่มือทั้งสองข้างพยายามดันเรียวขาสั่นเท่าทั้งสองข้างแยกออกจากกัน
"มะ...ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ เดี๋ยวหยีจัดการเอง" ยาหยีรีบปฏิเสธด้วยความเขินอาย
"จะจัดการเองได้ยังไง อย่าดื้อ อ้าขาออก" ลูเซียโน่พูดด้วยน้ำเสียงปนคำสั่ง ทำให้ยาหยีต้องยอมให้ลูเซียโน่ดันเรียวขาสั่นเท่าทั้งสองข้างออกจากกันสู่สายตาของชายหนุ่มที่จ้องมา
"อึก! " ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อลูเซียโน่ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยสัมผัสติ่งเกสรบวมเปล่งเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ ใบหน้าคมคายโน้มลงไปสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหญิงสาวด้วยอารมณ์กระสันที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาทันทีที่ได้เชยชมความงดงามของกลีบเกสรบวมช้ำนี้ ก่อนที่บทรักยาวเช้าจังดังกึกก้องทั่วห้องน้ำสีเหลี่ยม ที่ถูกเปลี่ยนเป็นรังรังชั่วคราว
ตลอดระยะเวลาสามวันสองคืนที่ทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันบนเกาะแห่งนี้ ทุกๆ วินาทีเต็มไปด้วยความสุข และความทรงจำดีๆ มากมายที่เกิดขึ้นที่นี่ มันจึงทำให้ยาหยีรู้สึกเสียดายไม่น้อยที่วันนี้เธอจะต้องเดินทางกลับกันแล้ว
"ไม่ต้องมองอาลัยอาวรณ์แบบนั้นก็ได้ เดี๋ยววันหลังพี่พามาอีก คราวหน้าจะเคลียงานให้มีเวลาเยอะๆ เลยดีไหมคะ" ลูเซียเอ่ยแซวหญิงสาวที่เอาแต่มองไปยังบ้านพักตากอากาศไม่ยอมลงเรือเสียที
"ดีค่ะ" ยาหยีหันไปยิ้มรับด้วยความดีใจ ก่อนจะหันมามองบ้านพักที่เต็มไปด้วยทรงจำดีๆ ของเธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหมุนตัวเดินลงเรือไปในที่สุด โดยมีลูเซียโน่ยื่นมือหนามาให้จับรออยู่ก่อนแล้ว
"เรามาถ่ายรูปกันไหมคะ" ยาหยีเอ่ยขึ้น
"มาสิคะ" ลูเซียโน่ตอบรับคำอย่างไม่เรื่องมาก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูออกมากดถ่ายรูปคู่ระหว่างเขากับยาหยี
แชะ! แชะ! แชะ!
"รูปนี้น่ารักจังเลยค่ะ" ยาหยีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ขณะที่มองดูรูปภาพที่ถ่ายกันเมื่อครู่นี้ ก่อนจะอมยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย เมื่อลูเซียโน่กดบันทึกภาพนั้นเป็นภาพพื้นหลังโทรศัพท์
"ทีนี้ก็จะได้เห็นรูปน่ารักๆ ตลอดเวลาแล้ว"
"ปากหวานอีกแล้วนะคะ"
"ไม่ชอบเหรอคะ"
"ชอบค่ะ หยีชอบทุกอย่างที่เป็นพี่"
"แล้วถ้าพี่ไม่ได้เป็นแบบที่หยีเห็นอยู่ตอนนี้ล่ะ"
"หมายความว่ายังไงคะ"
"ถ้ามันเป็นแค่เรื่องโกหก หยีจะรักพี่อยู่ไหม"
"หยีจะรักพี่เสมอ ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงก็ตาม ขอแค่พี่เป็นพี่ลูเซียสคนเดิมก็พอแล้วค่ะ" ยาหยีบอกด้วยท่าทีจริงจัง ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ ในใจที่เขาถามเธอแบบนี้ โดยที่ก่อนหน้านี้เขาก็เคยพูดทำนองนี้กับเธอไปแล้วครั้งหนึ่ง
"พี่ก็เป็นลูเซียสคนเดิมนั้นแหละ พี่ไม่เคยเปลี่ยนไปอยู่แล้ว และก็จะไม่มีวันเปลี่ยนไปด้วย" ลูเซียโน่บอกกับยาหยีด้วยรอยยิ้ม ทว่าความหมายที่เขาต้องการจะสื่อไม่ได้หมายถึงเขาในตอนนี้ แต่หมายถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาที่มันจะไม่มีวันเปลี่ยนไปต่างหาก