ตอนที่ 2
หรือตั้งใจ
ยาหยีเดินตรงมาที่ห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ เพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังศุนย์เสียการควบคุมจากผู้ชายคนนั้น
“ใจเย็นๆ หน่อยสิยาหยี แกเป็นบ้าไปแล้วรึไง” ยาหยียกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเองเพื่อปลอบประโลบให้มันเต้นช้าลง ทว่ามันกลับไม่ได้ผล จนเธอต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองให้กลับมาเป็นปกติได้
ร่างบางหยิบเครื่องสำอางในกระเป๋าออกมาเต็มลงบนใบหน้าสวยหวาน เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้ง ยาหยีสำรวจเช็กความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ
ปึก!
“โอ๊ย!” ยาหยีร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บ เพราะมัวแต่เดินก้มหน้ารีบออกจากห้องน้ำทำให้เธอไม่ทันสังเกตุว่ามีคนเดินสวนมาจนเดินชนกับคนที่เดินมาเข้าห้องน้ำอย่างจัง
“ขอโทษครับ เป็นอะไรมากไหมครับ” น้ำเสียงทุ่มต่ำที่เอ่ยขึ้น ทำให้ยาหยีลืมความเจ็บปวดรีบเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของแผงอกแกร่งที่เธอเดินชนเมื่อสักครู่อย่างจัง
“คะ...คุณ”
“อ้าว คุณนี่เอง เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“อ่าค่ะ” ยาหยีตอบกลับด้วยน้ำเสียงประหม่ายิ่งได้มองดวงตาสีเทาคู่สวยใกล้ๆ ยิ่งทำให้เธออยากทำความรู้จักเขามากกว่านี้ เพราะนัยน์ตาของเขาเหมือนมีอะไรบางอย่างรอให้เธอไปค้นหา
“เจ็บตรงไหนไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นยาหยีเงียบไป
“อะ...อ๋อ ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่เดินไม่ดูทาง” ยาหยีตอบ พลางขยับตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มที่ประคองร่างของเธอเอาไว้
“ไม่เป็นไรครับ ผมลูเซียโน่ คุณ...”
“ฉันชื่อยาหยีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ยาหยีพยายามปรับน้ำเสียง และสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นว่าเธอสนใจในตัวเขา มือเรียวยื่นไปจับทักทายกับมือหนาที่ยื่นมาตามธรรมเนียมต่างชาติอย่างเป็นกันเอง
“ยาหยี แปลว่าอะไรเหรอครับ”
“แปลว่าที่รักค่ะ” ยาหยีตอบด้วยน้ำเสียงเขินอาย เพราะมันเหมือนเธอกำลังบอกรักเขาอยู่ไปโดยปริยาย
“ชื่อน่ารักจังเลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“จริงๆ ผมมีคำถามอยากจะทำความรู้จักกับคุณยาหยีอีกหน่อย แต่คุยตรงนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่ คุณยาหยีจะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะชวนคุณยาหยีไปดื่ม เพื่อพูดคุยทำความรู้จักกันสักแก้วสองแก้ว”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ แต่ฉันมากับเพื่อนนะคะ คงคุยได้แค่แป๊บเดียว”
“ขอบคุณครับ”
ยาหยีมองรอยยิ้มแรกที่ปรากฎบนใบหน้าคมคายด้วยแววตาหลงไหล ก่อนจะดึงสติกลับมาเดินนำลูเซียโน่ไปยังโต๊ะวีไอพีมุมที่เป็นส่วนตัวมุมหนึ่ง ลูเซียโน่ตามมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามยาหยีเพียงลำพัง โดยให้ลูกน้องของเขาที่ติดตามมาด้วยยืนรออยู่บริเวณรอบๆ
“สั่งเครื่องดื่มก่อนแล้วกันนะครับ คุณยาหยีอยากดื่มอะไรเป็นพิเศษไหม”
“เอาบลูฮาวายก็ได้ค่ะ”
ลูเซียโน่พยักหน้ารับคำเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเรียกบริกรมารับออเดอร์ รอไม่นานบริกรก็เดินกลับมาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม
“คุณลูเซียโนพูดไทยเก่งจังเลยนะคะ”
“ผมย้ายมาอยู่ที่ไทยได้สักระยะแล้วครับ แต่จริงๆ แล้วแม่ผมเป็นคนไทย”
“จริงเหรอคะ ถ้าคุณลูเซียโน่ไม่บอกฉันไหมรู้เลยนะคะว่าคุณเป็นลูกครึ่งไทยด้วย”
“หน้าผมออกฝรั่งจ๋ามากเลยใช่ไหมครับ ฮ่าๆๆ”
“ใช่ค่ะ โดยเฉพาะตาคุณสีเทาสวยมากเลยค่ะ”
“ผมดีใจที่คุณยาหยีชอบนะครับ”
“เออ...”
“ผมหมายถึงสีตาของผมน่ะครับ”
“ค่ะ ตาคุณลูเซียโน่สวยมากจริงๆ” ยาหยียิ้มแห้งๆ ส่งกลับไปแก้เขิน ก่อนจะยกขึ้นดื่มมาจิบเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“เรียกผมลูเซียสก็ได้ครับ”
“ค่ะคุณลูเซียส”
“ตอนนี้คุณยาหยีทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“ฉันเปิดแบรนด์เสื้อผ้าอยู่ค่ะ”
“จริงเหรอครับ มีเสื้อผ้าผู้ชายไหมครับ เพื่อผมจะแวะเข้าไปใช้บริการ”
“ฮ่าๆๆ จริงๆ งานผู้ชายก็มีบ้างประปรายค่ะ แต่ไม่เยอะ ถ้าคุณลูเซียนสนใจฉันจะออกแบบให้เป็นพิเศษเลยค่ะ” ยาหยีตอบด้วยท่าทางสบายๆ
“ถ้างั้นคงต้องฝากคุณยาหยีแล้วล่ะครับ งั้นผมขอนามบัตรคุณยาหยีไว้หน่อยได้ไหมครับ เพื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกัน”
“อ๋อ ได้ค่ะ” ยาหยีตอบตกลง เพราะรู้สึกว่าคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ลูเซียโน่เองจากที่พูดคุยก็ดูเป็นคนที่ไม่น่ามีพิษมีภัยอะไร หน่ำซ้ำยังเป็นคนสุภาพและอารมณ์ดีอีกต่างหาก บวกกับความที่เธอสนใจ และอยากทำความรู้จักกับเขาเป็นเดินทุนอยู่แล้ว เธอจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฎิเสธช่องการติดต่อกับเขา “นี่ค่ะ” ยาหยียื่นนามบัตรสีโรสโกลว์ที่เธอหยิบออกมาจากกระเป๋าให้กับลูเซียโน่
“Darling” ลูเซียโน่อ่านชื่อแบรนด์เสื้อของยาหยีด้วยท่าทางสนใจ ก่อนจะเก็บนามบัตรนั้นใส่กระเป๋า
ทั้งสองคนใช้เวลาพูดคุยทำความรู้จักกันอีกสักพัก ก่อนที่ลูเซียโน่จะอาสาเดินไปส่งยาหยีที่โต๊ะของเธอ ก่อนที่ทั้งสองคนจะแยกย้ายกันไป