บทที่ 2

2264 คำ
หมอนใบเล็กชุ่มหยาดน้ำตา นัยน์ตาบวมเป่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักหน่วง นักศึกษาสาวโบกแท็กซี่กลับห้องพร้อมความชอกช้ำในอก เหมือนน้ำกรดสาดกระเซ็นกัดกร่อนหัวใจดวงน้อยทุกครั้งยามเขาเคียงข้างคนที่เหมาะสม เงื่อนไขของความสัมพันธ์ชั่วคราวเธอไม่มีสิทธิ์ตัดพ้อหรือน้อยใจ สาวน้อยจึงทำได้แค่กลับมาระบายความเจ็บช้ำเงียบๆ มือคู่สวยจิกผ้าห่มขณะหลับตานึกถึงเหตุการณ์วันนั้น เม็ดฝนและความร้าวรานบีบคั้นนกน้อยผู้โง่เขลาโบยบินเข้าสู่กรงขังหมื่นด้วยความบังเอิญ ซ่า! ซ่า! บรรยากาศคืนนั้นเงียบเหงาเช่นเดียวกับคืนนี้ ความเยือกเย็นของฤดูฝนทำให้ทั่วทุกพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำขังเฉอะแฉะ ร่างบางในชุดนักศึกษาตัวโคร่ง เปิดล็อคเกอร์หลังงานกะสุดท้ายจบลง ดวงตาคู่หวานสังเกตความเรียบร้อยของตัวเองผ่านกระจกบานเล็ก ผิวกระจ่างกลายเป็นหม่องคล้ำจากความเครียด ริมฝีปากอมชมพูปริแตกเมื่อไม่ได้ดูแลตัวเองได้ดีเท่าที่ควร แววตาเหนื่อยล้าเพ่งอ่านข้อความจากกลุ่มหางานลับๆ ซึ่งเพื่อนในร้านเป็นผู้ส่งมา ‘รับสมัครพนักงานเสิร์ฟจำนวนจำกัดรายได้ดี!’ คำว่ารายได้ดีเล่นเอาเธอตาลุกวาว ดุจแพรเวลานั้นคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้หาเงินได้มากที่สุด ชีวิตนักศึกษาสาวซึ่งแม่ป่วยเป็นอัมพาตร่อแร่ติดเตียง ส่วนพี่สาวก็กำลังตั้งครรภ์ และคลอดหลานตัวน้อยอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคงไม่มีอะไรสำคัญไป มากกว่างานและเงิน ‘แพรเลิกดึกนะวันนี้ พรุ่งนี้ไปเรียนไหวหรือเปล่าน้องให้พี่ไปส่งไหม’ ‘ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวเพื่อนแพรก็มารับแล้ว’ รอยยิ้มบนริมฝีปากคงไว้เช่นเดียวกับดวงตาเฉยเมย เพราะไม่ต้องการสานต่อ สาวน้อยหน้าหวานจึงพยายามทำตัวเรียบนิ่งทุกวิถีทาง แต่หารู้ไม่ยิ่งต่อต้านยิ่งกระตุ้นให้ผู้ล่ารู้สึกท้าทาย หญิงสาวเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าก่อนจ้ำอ้าวออกไปด้วยความเร่งรีบ แววตาโลมเลียและรอยยิ้มน่ารังเกียจจากชายเบื้องหลังทำเอาเธอขนลุกชันทั่วสรรพางค์กาย นี่สินะที่เขาบอกว่ามนุษย์บางคนน่ากลัวกว่าผี นอกจากเพื่อนร่วมงานเพศผู้ซึ่งน่าขยะแขยง เจ้านายของคนพวกนั้นยังทำตัวไม่ต่างจากลูกน้อง สายลมเย็นเฉียบพัดผ่านผิวขาวราวพระจันทร์เดือนแรม ปลายจมูกโด่งรั้นระเรื่อเป็นสีแดง ขณะกำลังจะหยิบเสื้อคลุมตัวสวยในกระเป๋าผ้า ลำแสงสว่างจ้าของไฟหน้ารถทำดวงตาคู่สวยพร่าเบลอ เธอมองอะไรไม่เห็นได้ยินเพียงเสียงกระซิบที่ลอดมาข้างหู ‘ขึ้นรถมากับพวกพี่ดีกว่า ดึกแบบนี้อันตรายนะสาวน้อย’ ผู้พูดเข้ามาประชิดกาย สัมผัสหยาบโลนกระชากเรียวแขนขาวจนคนตัวเล็กแทบปลิวไปตามพวกมัน ‘ปล่อยนะ บอกแล้วไงเดี๋ยวเพื่อนแพรมารับทำไมพวกพี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไง’ ‘ไหนล่ะจ้ะเพื่อน…โถ่น้องแพรคนสวยอย่าเล่นตัวดีกว่า รังเกียจอะไรพวกพี่นักหนา พี่เปย์หนักนะจะบอกให้ ตัวเล็กๆ แบบหนูพี่เลี้ยงได้สบาย’ ‘พี่เก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเองเถอะ’ หญิงสาวตวัดตาจ้องเขม็ง คนพวกนี้ไม่สมควรเกิดเป็นมนุษย์เลยจริงๆ ความคิดอุบาทว์ในหัวพวกมันน่าขยะแขยงจนเธออยากอาเจียนเวลาเผชิญหน้าใกล้ๆ สวะชั้นต่ำไม่เคยให้เกียรติเพศแม่ ดังนั้นจึงไร้เหตุผลให้พูดดีด้วย ต้องถ่อยมาถ่อยกลับถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ‘ปล่อยมือจากแขนแพรเดี๋ยวนี้ไม่งั้นเรื่องถึงตำรวจแน่!’ ‘ถ้ากลัวตำรวจพี่ไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก จะขึ้นรถกับพวกพี่ดีๆ หรืออยากให้จูบโชว์ตรงนี้ก็เลือกเอานะสาวน้อย’ ‘จูบงั้นเหรอ’ เรียวคิ้วสองข้างกระตุกก่อนจะหันหน้ากลับมาสบตาผู้พูด ‘จูบกับหมัดนี่สิ ไอ้ทุเรศ!’ เมื่อเส้นความอดทนถึงขีดจำกัดดุจแพรไม่รีรอที่จะประเคนหมัดใส่รุ่นพี่ปากหมาหน้าม่อ ผัวะ! ‘อีนี่!’ ปีศาจร้ายอีกคนปากคอสั่นประหนึ่งโดนทำร้ายเสียเอง มันวิ่งไปลากร่างบาง ผลักดุจแพรกลับไปให้เพื่อนซึ่งตั้งหลักได้พอดี ‘พูดดีๆ ไม่รู้เรื่องใช่ไหม ฤทธิ์เยอะแบบนี้สภาพเละขึ้นมาจะหาว่าพวกกูใจร้ายไม่ได้นะ’ เดนนรกกระชากเรือนผมยาวก่อนเหวี่ยงหญิงสาวกระแทกม้านั่งด้วยเพลิงโทสะ ร่างท้วมปรี่ขึ้นคร่อม จังหวะที่นักศึกษาสาวเสียหลักล้มลงบนพื้น ใบหน้าคนชั่วแดงก่ำ แววตาวาวโรจน์ฉายชัดว่าไม่มีทางปล่อยเธอไปง่ายๆ ถ้าไม่ได้เสพสุขกับเรือนร่างที่ฝันถึงมานานแรมเดือน ‘ไอ้สันต์ดูต้นทางดีๆ กูเสร็จแล้วเดี๋ยวมึงค่อยมาต่อ’ ดุจแพรน้ำตาร่วง อดสูใจกับเรื่องเลวร้ายที่พบเจอ ต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ผู้หญิงตัวคนเดียวไม่มีทางสู้แรงชายสองคนได้ หากจุดจบน่าอนาถเช่นตกเป็นเมียไอ้พวกชั่วนี่เธอขอยอมตายเสียดีกว่า ‘มาจ๊ะคนสวยพูดง่ายๆ ยอมเป็นของพี่อย่าขัดขืนดีกว่า’ พูดจบคนชั่วก็กระชากเสื้อตัวบางขาดติดมือ กระดุมสีเงินหลุดกระเด็นไปคนละทาง มันซุกหน้าพรมจูบตามเนินอกจนคนไร้ทางสู้สะอึกสะอื้น มือเล็กไล่ตามพื้นซีเมนแข็งๆ โกยลมหายใจเฮือกสุดท้ายคว้าหินก้อนใหญ่มาช่วยชีวิตตัวเอง อัก! ดุจแพรทุบเข้าไปยังลาดไหล่หนา แล้วอัดหัวเข่าแข็งเข้ากลางเป้าไอ้สารเลว ปีศาจร้ายทุลักทุเลยืนขึ้นพร้อมโอดครวญอย่างลืมตัว มือเลอะเลือดกำมีดท่าทีแข็งกร้าว แม้แท้จริงหวาดผวาใจแทบขาด ‘อย่าเข้ามานะ!’ เธอพยุงตัวเองพลางก้าวถอยหลังทีละก้าว ความปวดร้าวแล่นปราดทั่วร่างกายจนต้องกัดฟันทน ‘ทำอะไรของมึงวะ’ สันต์เลิกลั่กมองรอบข้างเหตุการณ์อุกอาจชักเกินเลยไปไกล ‘มึงคิดว่ากูกลัวอีนี่เหรอ!’ ‘อย่า เดี๋ยวกลายเป็นเรื่องใหญ่’ ‘แล้วคิดว่าถ้าให้อีนี่รอดไป เรื่องจะไม่ใหญ่เหรอวะ ปล่อยกู มันทำขนาดนี้กูจะไปเอาเลือดหัวมันออก’ ‘ถ้ากูปล่อยมึงตอนนี้มึงได้ฆ่าเด็กนั่นแน่’ ใบหน้าหวานซีดเผือดหลังได้ยินบทสนทนาน่าสยดสยอง ดุจแพรสูดลมหายใจลึกๆ พยายามควบคุมอาการขลาดกลัว หยาดน้ำตารินไหลเปื้อนข้างแก้ม เหตุการณ์วันนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตนเองอยู่ปลายปากเหวจะถูกผลักให้ตายเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ คนเลวทั้งสองเถียงกันไม่มีข้อสิ้นสุด เมื่อคนหนึ่งปรารถนาเอาชีวิต เพราะเสียหน้าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำร้ายจนทั้งอายและเจ็บ แต่อีกคนกลับไม่ต้องการให้เลยเถิดไปไกลทั้งคู่จึงฉุดกระชากกันโดยไม่ทันสังเกตเห็นรถคันหรู ผิดกลับหญิงสาวซึ่งรอคอยโอกาสหลุดพ้นมานานแสนนาน ไวเท่าความคิดร่างบางทิ้งมีดแล้ววิ่งหนีคล้ายไม่ห่วงชีวิตตัวเอง เอี้ยด! แรงสะเทือนของวงล้อลู่ท้องถนนยามรถเบรกกะทันหันก้องดังจนเธอแสบแก้วหู ร่างบางทรุดลงกับพื้น ผิวขาวที่โผล่พ้นชายเสื้อผ้าขาดวิ่นนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและร่องรอยถูกทำร้าย ห้วงสติสุดท้ายดุจแพรได้ยินเสียงใครคนหนึ่งจากระยะไกลๆ หลังจากนั้นทุกสรรพสิ่งรอบกายกลับพร่าเบลอ แววตาสั่นไหวมองใบหน้าหล่อผ่านสายตาเลือนราง มืออุ่นนุ่มเหมือนแสงสว่างฉุดรั้งเธอห่างจากความมืดมน “ฮึก…” เธอฝัน… ฝันถึงเรื่องคืนนั้นอีกแล้ว หยาดน้ำตาไหลทะลักม่านขนตาเปียกชุ่ม แก้มใสแดงก่ำผิวเธอบอบบางอย่างที่เป็นมาตลอด ในสายตานรัณกรดุจแพรไม่ต่างจากตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ หญิงสาวคือตุ๊กตาส่วนตัวของเขา… “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” ร่างเล็กขยับพิงหัวเตียง ตั้งแต่ถึงคอนโดก็นอนเน่าปล่อยความเสียใจลำพังฝ่ายเดียว ตัวต้นเหตุกลับไม่รู้อะไร “ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย เดี๋ยวนี้กล้าตั้งคำถามกับฉันแล้วเหรอ” “ร้ายอะไรคะ แพรไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” สาวช่างฝันย่นหน้าใส่ ริมฝีปากอมชมพูบ่นอุบ “เหอะไม่ได้ทำ เธอทั้งดื้อทั้งผิดข้อตกลง” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจพลางเกลี่ยหยาดน้ำตาแล้วดึงดุจแพรมากอด เดิมทีเจ้าพ่อหนุ่มเป็นคนขี้รำคาญ แต่เห็นสาวน้อยตกอยู่ในความหวาดกลัว เขาใจร้ายกับเธอไม่ลงทุกที ตลอดเวลาหลายปีที่ใช้ชีวิตร่วมกันเขารู้ดุจแพรสู้แค่ไหน กว่าจะเข้มแข็งและกลับมายิ้มสดใสได้อีกครั้ง “กินยาอยู่รึเปล่า” “กินค่ะ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ฝันเรื่องคืนนั้นอีกแล้วสงสัยฝนตก” “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นอนซมตั้งหลายชั่วโมงอยากป่วยหรือไงเด็กดื้อ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น “ป่วยก็ดีเหมือนกัน คุณจะได้สนใจแพรเยอะๆ” “พูดอะไร ฉันไม่ใช่หมอรักษาใครไม่ได้” นรัณกรยิ้มขันแล้วส่ายหน้า ดุจแพรคือดุจแพรอยู่วันยังค่ำ เธอใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเด็กน้อยในอดีตไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด “ก็จริงนี่นาไม่มีคุณแพรนอนไม่หลับเลย ถ้าป่วยแพรก็อยากให้คุณดูแล คุณหายไปตั้งหลายอาทิตย์รู้ไหมแพรคิดถึงคุณแค่ไหน แล้วคุณล่ะคะคิดถึงแพรบ้างหรือเปล่า ผู้หญิงวันนี้เธอคือ…” “เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ใช่หน้าที่ที่เด็กต้องรู้” “แต่แพร…” “เฮ้อ…ถ้างอแงแบบนี้ฉันกลับนะ” “ก็ได้แพรไม่ถามก็ได้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นมากับคุณเพราะเรื่องงาน แพรก็ไม่อยากรู้” คนช่างอ้อนสบตาคู่สนทนาแววตาสดใส มือบางโอบเรือนกายกำยำ แนบหน้าสวยบนแผ่นอกแข็งแรง “แพรคิดถึงคุณค่ะ เราอาบน้ำด้วยกันนะคะ” ทันทีที่ดวงตาวาววับช้อนมองนรัณกรพลันอดใจไม่ไหว บดขยี้ริมฝีปากสั่งสอนคนช่างยั่ว ชายหนุ่มจับร่างบางนั่งซ้อนตัก ขณะสอดลิ้นเข้ามาดูดกลืนรสหอมหวานในโพรงปาก สัมผัสอุ่นวาบทำหญิงสาวใจเต้นแรง ลืมสิ้นทุกความกังวลก่อนหน้านี้ “เธอกำลังหาเรื่องใส่ตัวอยู่ รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำถามพร้อมไล่นิ้วข้างกลีบปากนุ่มที่ลองชิมไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ไฟอย่างเขาจุดติดง่ายนิดเดียว ดังนั้นเมื่อเริ่มแล้วไม่มีทางที่สมรภูมิรักครั้งนี้จะจบลงจวบจนรุ่งอรุณ ยิ่งไม่เจอกันหลายสัปดาห์ความปรารถนาเขายิ่งพุ่งพล่านกว่าปกติ “ก็แพรคิดถึงคุณ ไม่ได้หรือคะ” “หึ…จะมาบ่นทีหลังไม่ได้นะเธอยั่วเอง” พูดจบมือหนาจึงปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาเหลือไว้เพียงชั้นในตัวจิ๋ว ทรวงอกอิ่มใต้ผ้าลูกไม้เด่นสง่าล่อตาล่อใจ ความร้อนวาบเข้าสู่ร่างกำยำแล่นลงไปใจกลางความแข็งขืน เจ้าของเลาจน์หนุ่มผ่านสังเวียนรักไม่รู้ต่อกี่กระบวนท่า แต่กลับมาตกม้าตายเสียอาการเอาง่ายๆ แค่สาวน้อยธรรมดาคนหนึ่ง “หุ่นน่าเอาเหมือนเดิม” เสียงแหบพร่าฟังดูเซ็กซี่เช่นเดียวกับนัยน์ตาครามเข้มของเขา มือแกร่งถกกระโปรงตัวสวยจากนั้นก็ทาบทับริมฝีปากดูดดึงนวลเนื้อใกล้หว่างขา ไรฟันคมขบกัดคล้ายหมั่นเขี้ยว “อ๊ะ…คุณรัณ” ดุจแพรครางเสียงแผ่ว เซ็กซ์ครั้งนี้สวนทางกับบุคลิกไฮโซหนุ่มลิบลับ บนสังเวียนรักชายหนุ่มไม่คิดปรานีใคร เขากินเท่าที่เขาอยากกิน เขาเอาเท่าที่เขาอยากเอา นรัณกรกัดฟันกรอดก่อนกระเตงดุจแพรเข้าห้องน้ำ สองเท้าก้าวเคลื่อนไหวขณะกายแกร่งเบียดชิดโพรงอ่อนนุ่มแทบกลายเป็นเนื้อเดียว ชายหนุ่มวางเธอบนเคาเตอร์จูบริมฝีปากอิ่มเร้าอารมณ์ต่อก่อนหยิบคอนดอมออกมา มือแข็งกระด้างรูดกางเกงผ้าดีลงบนพื้นพลางพลิกร่างบางเข้าหากระจก นิ้วยาวเคล้าคลึงติ่งเนื้อหวานจนสาวน้อยพ่นลมหายใจร้อนระอุ เธอกัดริมฝีปากล่างเปล่งเสียงครางเพราะพริ้ง ใบหน้างามสะท้อนบานกระจกเวลานี้ทั้งอ่อนหวานและเซ็กซี่ในคราวเดียวกัน แท้จริงใต้ภาพลักษณ์นิ่งๆ ตัวตนราบเรียบ นกตัวน้อยกลับซุกซ่อนความร้อนแรงเอาไว้ และมีเจ้าของเท่านั้นที่ได้ลิ้มรสห้วงอารมณ์วาบหวาม “ฮึก…คุณรัณแพรไม่ไหว…” “อยากได้อะไรพูดดังๆ ให้ฉันได้ยินสิคนสวย” ริมฝีปากหยักขบกัดข้างใบหูพร้อมรัวนิ้วใส่ช่องทางคับแคบ “อ๊ะ…เอาแพรได้ไหม… เอาแพรแรงๆ นะคะคนดี” สิ้นสุดคำอ้อนวอนนรัณกรก็สอดความแข็งขืนเข้าไปโดยไม่รีรอ มือแกร่งกอดรัดร่างงามแนบกายเขาทุกสัดส่วน จังหวะรักดุดันและรัวเร็วสมฉายานักล่าผู้ทรงเสน่ห์ เสียงหอบหายใจผสมเสียงครางหวานกึกก้องทั่วทุกบริเวณห้องน้ำ จังหวะสุดท้ายก่อนแตะขอบปลายฝั่งฝัน นรัณกรจับร่างบางคุกเข่าลงตรงหน้าดึงถุงยางอนามัยออก แล้วจึงปลดปล่อยหยาดน้ำสีขาวขุ่นบนทรวงอกเธอ “อาบน้ำกันดีกว่าเลอะหมดแล้ว” เจ้าพ่อหนุ่มพูดกับสาวน้อยในปกครองขณะพยุงเธอขึ้นมา แววตาเจ้าเล่ห์จดจ้องใบหน้าหวานจากนั้นก็กอดเกี่ยวกันไปที่อ่างทันที สมรภูมิรักครั้งใหม่เริ่มต้น และไม่มีทางหยุดลงครั้งแล้วครั้งเล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม