ตอนที่ 12

1960 คำ
“ว่าไงเรา มีอะไรจะบอกยายก็ว่ามา” ลดาวดีตัดสินใจเล่าเรื่องราวระหว่างเธอและธีรภัทรให้ผู้เป็นยายฟังโดยไม่ปิดบัง เมื่อหญิงชราได้ฟังจบแล้วก็อดเปรยอย่างเป็นกังวลไม่ได้ “เขาดูดีเพียบพร้อมมากนะลดา มากซะจนน่ากลัวว่าเราจะไม่ดีพอสำหรับเขาเพราะเขามีสิทธิเลือกใครที่ดีกว่าเราได้ มากมาย” สิ่งที่ผู้เป็นยายเอ่ยออกมากระทบใจเธอเข้าอย่างจัง “ลดาก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะยาย แต่ในเมื่อลดาตัดสินใจไปแล้วลดาก็จะยอมรับกับผลที่ตามมาค่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม” หญิงชราได้ฟังดันนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าหลานสาวของตนคงจะรู้สึกดีๆ กับผู้ชายคนนั้นมากทีเดียว นางก็ได้แต่ภาวนาขอให้เขาจริงใจและรักหลานสาวของนางจริงๆ อย่าได้ทิ้งขว้างให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเลย เพราะแค่นี้หลานสาวของนางก็อาภัพมากพออยู่แล้ว “ในเมื่อลดาแน่ใจยายก็ไม่ว่าอะไร จำไว้นะลูกถึงใครจะไม่รักเราแต่เราต้องรักตัวเอง อย่าดูถูกตัวเองแม้ว่าในวันหนึ่งใครจะไม่รักไม่เห็นคุณค่าของเราเราก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อสร้างคุณงามความดี และหนึ่งชีวิตของเราก็สามารถสร้างประโยชน์ให้คนอื่นๆ ได้อีกมาก” ยายชื่นสอนหลานสาวอย่างคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย หวังว่าหลานสาวของนางจะจำคำสอนของนางไว้ยึดถือหากในวันหนึ่งข้างหน้าต้องเจอกับอุปสรรคและความทุกข์กายทุกข์ใจในชีวิต “ค่ะ ลดาจะจำไว้ แต่ตอนนี้ลดารักตัวเองแล้วก็รักยายชื่นของลดามากที่สุดในโลก” ลดาวดีบอกรักผู้เป็นยายและสวมกอดเอาไว้แน่น “จริงเร้อ ตอนนี้คงไม่ได้รักแค่ยายแล้วกระมัง” ยายชื่นเอ่ยกระเซ้าหลานสาวอย่างผู้ที่ผ่านโลกมามากมองอะไรได้ทะลุ ปรุโปร่ง แล้วก็รู้ว่าหลานสาวของนางรักผู้ชายคนนั้นเข้าเต็มเปา “ยายอะ ห้ามล้อลดานะ ไม่เอาแล้วลดาไม่คุยกับยายเรื่องนี้แล้ว” ลดาวดีเฉไฉผู้เป็นยายอย่างเขินอาย ยายชื่นยกมือเหี่ยวย่นลูบศีรษะหลานสาวอย่างแสนรัก อย่างน้อยนางก็ยังพอมีหวังว่าหลานสาวของนางจะมีคนมารับช่วงดูแล นางอยากเห็นหลานสาวเป็นฝั่งเป็นฝามีคนดีๆ มาดูแล นางจะได้นอนตายตาหลับเพราะรู้ตัวเองดีว่าคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นานเนื่องจากสังขารโรยราและมีโรคภัยต่างๆ รุมเร้า ทางด้านธีรภัทรเมื่อแยกจากลดาวดีก็ตรงเข้าบริษัททันทีเพราะมีงานมากมายรออยู่ แต่เมื่อก้าวเข้ามาในบริษัทเขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆ ของเหล่าพนักงานที่มองมาที่เขาและหันไปซุบซิบกันเมื่อคิดว่าหลบพ้นสายตาของเขาแล้ว ธีรภัทรรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลจึงเอ่ยถามกับเลขาสาวใหญ่ทันที่ที่เจอ “มีอะไรกันเหรอคุณปราณี ผมว่าทุกคนมองผมแปลกๆ ” ปราณีเลขาสาวใหญ่ที่ร่วมงานกับธีรภัทรมานานมีท่าทีอึกอัก “เอ่อ...คือ...เอ่อ” “มัวแต่เอ่ออ่าอยู่นั่นแล้ววันนี้ผมจะรู้เรื่องไหม มีเรื่องอะไรก็ว่ามา” ธีรภัทรกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นอาการอ้ำอึ้งของเลขา “ดิฉันว่าท่านประธานดูเองดีกว่าค่ะ” ปราณีบอกออกไปพร้อมกับยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้ให้ท่านประธานของเธอ ธีรภัทรรับไปอย่างงงๆ แต่ไม่นานก็ถึงบางอ้อเพราะสิ่งที่เขาข้องใจปรากฏอยู่บนหน้าข่าวสังคมที่ถูกพับไว้โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดหา ‘เห็นทีสาวน้อยสาวใหญ่คงต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตากันเป็นแถวเมื่อไฮโซสุดหล่อ ธีรภัทร อัครโยธิน ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับหนุ่มนิรนามที่บังอาจมายุ่งกับสาวน้อยหน้าหวานของตนที่ผับหรูย่านทองหล่อ ออกอาการหวงขนาดนี้สงสัยจะเป็นตัวจริง ดังนั้นจึงขอแจ้งให้บรรดาแฟนคลับสาวแท้ไม่แท้ทั้งหลายโปรดเตรียมซับน้ำตาเป็นการด่วนเดี๋ยวจะหาว่าศรีไม่เตือน...มาดามศรี.’ ธีรภัทรหน้านิ่วด้วยความไม่ชอบใจทันทีที่อ่านจบ “บ้าจริง” ลำพังตัวเขาไม่เท่าไหร่เพราะเป็นข่าวบ่อยๆ จนชิน แต่เขาห่วงลดาวดีที่ต้องมาตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแถมมีรูปหราซะขนาดนี้ เขาไม่อยากให้ลดาวดีต้องโดนรุมทึ้งจากบรรดานักข่าวผู้หิวกระหายที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ข่าวมาขายโดยไม่สนใจเลยว่าผู้ถูกพาดพิงถึงจะรู้สึกอย่างไร เขาไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายกับเธอ ปราณียืนตัวลีบเพราะนานๆ ทีจึงจะเห็นเจ้านายหนุ่มออกอาการหงุดหงิดแบบนี้เพราะปรกติธีรภัทรเป็นคนใจดีมีน้ำใจกับพนักงานเสมอทำให้เธอตั้งรับไม่ค่อยถูกเมื่อเจอโหมดโหดของเจ้านายสุดหล่อเข้าอย่างจัง “เอาหนังสือพิมพ์พวกนี้ไปทิ้งให้หมดอย่าให้ผมเห็นว่ามีใครเอามาอ่านอีก ถ้าใครฝ่าฝืนก็ไล่ออกได้เลย”ธีรภัทรสั่งเสียงเฉียบขาดแล้วเดินเข้าห้องไปทันที ปราณีเป่าปากอย่างโล่งอกที่รอดพ้นพายุเฮอริเคนจากเจ้านายหนุ่มมาได้ “เกือบไปแล้วไหมล่ะยัยปลาเอ๊ย” ปราณีพึมพำออกมาเบาๆ พลางรีบเก็บหนังสือพิมพ์เจ้าปัญหาไปทิ้งตามคำสั่งท่านประธาน อีกคนที่เต้นเป็นเจ้าเข้าเมื่อเห็นข่าวธีรภัทรวันนี้ก็คือ ณิชานางแบบสาวคู่ควงหรือคู่นอนคนล่าสุดของธีรภัทรนั่นเอง หญิงสาวได้รับสายจากเพื่อนนางแบบแต่เช้าตรู่ซึ่งยังไม่ถึงเวลาตื่นนอนของเธอเลยด้วยซ้ำ “ฮัลโหล” ณิชากรอกเสียงตามสายไปอย่างงัวเงีย “ต๊าย ยัยณิชา หล่อนยังไม่ตื่นมารับข่าวสารอีกเหรอยะมัวแต่นอนอยู่นั่นแหละเลยไม่รู้ว่าตอนนี้เทพบุตรสุดหล่อของเธอน่ะเขาไปชกต่อยแย่งสาวในผับเมื่อคืนนี้ ระวังจะตกกระป๋องโดยไม่รู้ตัว” ณิชาตาสว่างทันทีเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากมินนี่เพื่อนนางแบบคนสนิท “อะไรนะ หมายความว่ายังไงมินนี่” ณิชาลำล่ำละลักถามออกไป “เธอก็หยิบหนังสือพิมพ์มาดูสิยะ เดี๋ยวก็รู้เองแค่นี้นะ” ณิชารีบถลาลงจากเตียงเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหารของคอนโดหรูที่ได้รับเป็นของกำนัลจากอดีตคู่ควงคนหนึ่ง ผู้จัดการส่วนตัวของเธอที่พักอยู่อีกห้องมักจะรับหนังสือพิมพ์มาวางไว้ที่โต๊ะรับประทานอาหารเป็นประจำ หญิงสาวรีบหยิบขึ้นมาดูแล้วเปิดไปที่หน้าสังคมที่เธอและธีรภัทรเคยเป็นข่าวคู่กันมาแล้ว “กรี๊ด” นางแบบสาวปาหนังสือพิมพ์ลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบย่ำอย่างโกรธแค้นเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะถูกแย่งของรัก ถึงแม้ว่าแรกเริ่มความสัมพันธ์ธีรภัทรจะตกลงกับเธอว่าเป็นแค่ความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายไม่มีการผูกมัดใดๆ ต่อกันทั้งสิ้นแล้วเธอก็ตอบตกลงเพราะคิดว่าความสาวความสวยของเธอจะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้ และเธอก็ได้รู้ในเวลาต่อมาว่ามันไม่ได้ผลธีรภัทรไม่เคยสนใจเธอมากไปกว่ายามต้องการตามประสาผู้ชายนับครั้งได้ที่เขาจะค้างกับเธอ ส่วนมากเมื่อได้ปลดปล่อยจนพอใจแล้วเขาก็จะกลับทันที แม้เธอจะพยายามออดอ้อนเหนี่ยวรั้งก็ไม่เป็นผล นางแบบสาวทรุดลงร้องไห้กับพื้นด้วยกลัวว่าจะต้องสูญเสียผู้ชายสุดแสนเพอร์เฟกต์อย่างธีรภัทรไป เธอต้องการจะครอบครองเขาแต่เพียงผู้เดียวเพราะถ้าได้แต่งงานกับเขาเธอก็จะสุขสบายไปทั้งชาติ “เกิดอะไรขึ้นณิชา” ผู้จัดการสาววิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องนอนเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของนางแบบในสังกัด “พี่ริต้า ธีเขากำลังจะมีคนอื่นฮือๆ ณิชาไม่ยอม” ผู้จัดการสาวหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นข่าวนักธุรกิจหนุ่มซึ่งเป็นคู่ควงคนล่าสุดของเด็กในสังกัดกับสาวนิรนามก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจเพราะรู้ดีว่าณิชาคลั่งไคล้หลงใหล ธีรภัทรมากขนาดไหน เธอเตือนก็ไม่ฟังว่าธีรภัทรเจ้าชู้ไม่มีทางหยุดที่ใครง่ายๆ แล้วด้วยสายตาของคนที่ผ่านโลกมามากกว่าเธอมองออกว่าไฮโซหนุ่มไม่ได้คิดอะไรกับณิชามากไปกว่าเรื่องเซ็กส์ตามประสาหนุ่มโสดที่จะเลือกคบกับใครก็ได้ แล้วยิ่งหล่อครบสูตรแบบธีรภัทรยิ่งมีทางเลือกมากมายนัก “ณิชาใจเย็นๆ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะ” ริต้าเอ่ยปลอบไปทั้งๆ ที่รู้ว่านางแบบสาวกำลังจะถูกทิ้งในไม่ช้า “จะใจเย็นได้ไงกันคะ แฟนตัวเองไปคั่วหญิงอื่นแบบนี้” ณิชาตวาดแหวออกไปทันที เมื่อโดนขึ้นเสียงผู้จัดการสาวก็ชักจะไม่พอใจ “แล้วโวยวายไปมันได้อะไรขึ้นมาล่ะ พี่เตือนณิชาแล้วใช่ไหมว่าคุณธีน่ะเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับณิชาหรอก พี่บอกให้เตรียมใจไว้บ้างอย่าให้มันถลำลึกณิชาก็ไม่เชื่อ” ริต้าต่อว่าออกไปอย่างเหลืออด “ใช่สิ พี่ริต้าไม่มาเป็นณิชาไม่มีทางเข้าใจหรอก อยู่มาจนป่านนี้ไม่เห็นจะมีใครเอาเป็นแฟนสักคน แล้วพี่ริต้าจะมาเข้าใจ ณิชาได้ยังไง” “มันจะมากไปแล้วนะณิชา” เมื่อโดนจี้จุดสาวใหญ่ก็ของขึ้นทันที ใช่ว่าเธอจะไม่อยากมีแฟนแต่มีคนไหนไม่เกินสามเดือนก็พากันหายหน้าไปหมดไม่รู้ว่าเพราะอะไร สาวใหญ่ผู้ไม่รู้ตัวว่าที่ผู้ชายพากันหนีหน้าก็เพราะทนกับนิสัยจู้จี้จุกจิกจอมบงการของเธอไม่ได้ “ทำไมคะ ก็ณิชาพูดเรื่องจริง” นางแบบสาวผู้เอาแต่ใจยังเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ “เออดี ในเมื่อเก่งนักก็จัดการเอาเองก็แล้วกัน” ผู้จัดการสาวว่าอย่างเหลืออดพร้อมเตรียมจะเดินหนี “จะไปไหน ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ออกไปเลย ขนข้าวของของพี่ออกไปด้วยแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก” “อ๋อ...นี่เธอไล่ฉันเหรอ” “ใช่” “อีนังเด็กเนรคุณ ฉันเป็นคนปลุกปั้นแกมานะ” ริต้าเต้นเป็นเจ้าเข้า “แล้วไง แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าแกแอบอมเงินฉันไปตั้งเท่าไรแล้ว พอกันทีจะไปไหนก็ไป ต่อไปนี้เราไม่เกี่ยวข้องกันอีก” ณิชาต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้า “เออ...ไปก็ได้วะ แล้วฉันจะรอฟังข่าวนางแบบชื่อดังโดนไฮโซหนุ่มเขี่ยตกกระป๋อง” “กรี๊ด อีบ้า ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ ไป๊” นางแบบสาวหยิบฉวยของใกล้มือขว้างใส่ผู้จัดการสาวใหญ่อย่างไม่ยั้งจนผู้จัดการตัวแสบรีบเผ่นออกจากห้องแทบไม่ทัน เมื่อไล่ริต้าออกไปแล้วณิชาก็ได้แต่ร่ำไห้ออกมาอย่างคับแค้นใจ “ไม่มีทาง ณิชาไม่มีวันยอมให้ใครมาแย่งคุณธีไปจากณิชาเด็ดขาดไม่มีวัน” นางแบบสาวกล่าวด้วยดวงตาวาวโรจน์พร้อมกับหยาดน้ำตาที่หลั่งรินไม่ขาดสาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม