ลดาวดีตรงไปยังแผนกร้านขายยาร้านประจำที่แวะเวียนมาทุกเดือนเพื่อซื้อวิตามินบำรุงร่างกายต่างๆ สำหรับยายและของตัวเอง เนื่องจากเธอต้องทำงานกลางคืนเวลากินนอนอาจะผิดจากคนปรกติทั่วไปจึงต้องดูแลบำรุงร่างกายเป็นพิเศษ
เธอมีเภสัชกรที่คุ้นเคยคอยให้คำแนะนำเนื่องจากแวะมาอุดหนุนสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน และเหตุที่ต้องมาวันนี้ก็เนื่องจากอีกหลายวันกว่าจะถึงวันหยุดของเธอ แล้วก็โชคไม่ดีที่ต้องมาเดินซื้อของคนเดียวเพราะเพื่อนสนิทดันมาประสบอุบัติเหตุไม่สามารถมาด้วยได้ ลดาวดีเดินเลือกซื้อวิตามินและเครื่องสำอางบำรุงผิวต่างๆ หลากหลายชนิดที่เธอใช้เป็นประจำลงตะกร้าใบใหญ่ที่หยิบมาจากด้านหน้าร้าน
การชอปปิงก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ให้ความเพลิดเพลินเจริญใจนี่แหละหนาที่เขาว่าช็อปปิ้งกับผู้หญิงเป็นของคู่กันแค่ได้เดินดูก็มีความสุข ลดาวดีก็จัดอยู่ในประเภทนั้นด้วยเช่นกัน
“บำรุงดีอย่างนี้นี่เองผิวคุณถึงได้สวยนักลดา” ธีรภัทร ชื่นชมแกมหยอกเย้าเมื่อเห็นว่าในตะกร้าของลดาวดีเต็มไปด้วยวิตามินและเครื่องสำอางบำรุงผิวชนิดต่างๆ มากมาย ลดาวดีหันขวับไปมองด้วยความตกใจ
“คุณธี...มาได้ยังไงคะ” ลดาวดีถามอย่างตกใจที่เห็นเขาโผล่มายืนอยู่แนบชิดด้านหลังตัวเอง
“ผมก็เดินตามลดามาไง” ธีรภัทรตอบพลางยิ้มหวานใส่ทำเอาเธอรู้สึกใจสั่นแปลกๆ
“คุณธีกลับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวลดาซื้อของเสร็จก็จะไปทำงานแล้ว” ลดาวดีรีบไล่ทันทีโดยหวังว่าเขาจะยอมล่าถอยแล้วปล่อยเธอไว้ตามลำพัง
“ลดาก็รู้ว่าไล่ผมไม่สำเร็จหรอก เพราะฉะนั้นรีบซื้อของดีกว่าครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่ผับ” ลดาวดีได้แต่ยืนอึ้งจนเขาต้องหันมาย้ำ
“เอ้า...เร็วๆ สิครับ ขืนชักช้าไปทำงานสายผมไม่เกี่ยวนะ” ลดาวดีเห็นลางแพ้ของตัวเองมาแต่ไกลก็ต้องจำใจยอมทำตามที่เขาบอก แต่ก็ยังมิวายขว้างค้อนวงโตใส่คนข้างๆ แล้วรีบเลือกซื้อของที่ต้องการโดยไม่ทันได้เห็นคนที่เจ้ากี้เจ้าการสั่งเธออมยิ้มอย่างชอบอกชอบใจในอาการกระฟัดกระเฟียดของเธอ ลดาวดีนำสินค้ามาคิดเงินที่เคาน์เตอร์และเตรียมจะควักเงินออกมาจ่ายแต่ก็ไม่ทันคนใจป้ำที่รีบยื่นบัตรเครดิตสีทองให้แคชเชียร์ตัดหน้าเธอ
“ทำอะไรคะคุณธี”
“อ้าว ก็ลดาจะจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ มันเป็นหน้าที่สุภาพบุรุษอย่างผมอยู่แล้วนี่ครับที่จะต้องดูแลจัดการให้”
“อย่าดีกว่าค่ะ ลดาจ่ายเองได้” ลดาวดีรีบปฏิเสธ
“อย่าดื้อน่าลดา เราจะได้รีบไปไง” ธีรภัทรไม่ฟังเสียงรับของจากพนักงานแล้วเดินนำออกจากร้านทันที เธอจึงต้องรีบก้าวตาม
สุดท้ายลดาวดีก็ต้องจำใจให้เขามาส่งที่ผับอย่างเสียมิได้ และขณะที่โดยสารมาในรถเขาไม่มีทีท่าคุกคามใดๆ ต่อเธอ ลดาวดีจึงพอเบาใจและหายเกร็งไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ไอ้อาการใจสั่นแปลกๆ ยามอยู่ใกล้เขานี่ทำไมจึงไม่ยอมหายสักทีนะ แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำใจกันง่ายๆ เสียเมื่อไหร่กับการต้องมาใกล้ชิดกับหนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ครึ่งค่อนประเทศแถมเขายังดูดีจนเกินบรรยายขนาดนี้ “ลดาเอ๋ย อย่าได้หลงคารมเขาเชียวนะถ้าไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่า” ลดาวดีบอกตัวเองและลอบมองร่างสูงสมาร์ตซึ่งอยู่ในสูทเต็มยศสีดำสวมแว่นกันแดดสีชาดูแวบเดียวก็รู้ว่าแบรนด์เนมราคาแพงหูฉี่หัวจรดเท้า แค่เครื่องแต่งกายชุดนี้ของเขาเงินเดือนเธอทั้งเดือนก็อาจจะไม่พอซื้อเสียด้วยซ้ำ ยิ่งอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งรู้สึกห่างไกลจากเขาเข้าไปทุกที
“ขอบคุณค่ะที่มาส่งลดา แล้วก็ขอบคุณสำหรับของพวกนี้ด้วยค่ะ” ลดาวดีกล่าวขอบคุณแล้วทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถหลังจากพยายามคืนเงินให้เขาเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมรับคืน
“เดี๋ยวครับลดา” ธีรภัทรเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวของลดาวดีไว้ก่อนที่เธอจะก้าวลงจากรถ ลดาวดีก้มลงมองมือของเขาที่จับแขนเธอเอาไว้ ธีรภัทรจึงรีบปล่อยมือโดยกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาฉวยโอกาส
“เดี๋ยวคืนนี้ผมมาหานะครับ” ธีรภัทรกล่าวเสียงนุ่มทุ้มจ้องใบหน้าหวานที่ทำเอาเขาสะดุดตั้งแต่แรกเห็น
“เอ่อ..คือ..” ลดาวดีอึกอักพูดไม่ออกด้วยไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไรดี
“ว่าไงครับ ลดาจะอนุญาตให้ผมมาหาได้หรือเปล่า”
“ที่นี่เป็นสถานบันเทิงที่ใครๆ จะมาพักผ่อนก็ได้นี่คะ ถ้าคุณธีจะมาเที่ยวมาเจอเพื่อนๆ เหมือนเคยก็ไม่เห็นจะต้องขออนุญาตใครนี่คะ”
“ก็ผมไม่ได้มาเที่ยวนี่ครับ ผมจะมาหาลดา มาเฝ้าแฟนผมไม่ให้พวกมดแดงแฝงพวงมะม่วงที่ไหนมายุ่มย่าม”
“คุณธี....พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่าคะ ถ้าใครมาได้ยินเข้ามันจะไม่ดีต่อตัวคุณนะคะ” ลดาวดีต่อว่าอย่างตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดทึกทักว่าเธอเป็นแฟน แต่ขณะที่ดุเขาออกไปเธอก็รู้สึกได้ว่าความร้อนซู่ไหลมารวมกันบนใบหน้า แล้วตอนนี้ก็คงจะแสดงออกให้เขาได้เห็นแน่ๆ ว่าเธอหวั่นไหวต่อคำพูดของเขามากแค่ไหน
“เอาเป็นว่าคืนนี้เจอกันนะครับ” ธีรภัทรตัดบทอย่างไม่ต้องการแกล้งคนตรงหน้ามากไปกว่านี้ เมื่อจนด้วยคำพูดลดาวดีก็รีบเปิดประตูลงจากรถเพื่อไปทำงานทันที ธีรภัทรมองตามร่างบางที่เดินหายลับเข้าไปในผับก่อนจะเหยียบคันเร่งจากไป