ตอนที่ 2 First time
ธันวา หนุ่มใหญ่ทายาทเพียงคนเดียว ของตระกูลเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ติดอันดับหนึ่งในสามของเมืองไทย มองหญิงสาวผู้แก่นกล้าท้าทายอารมณ์พลุ่งพล่านของเขา ถึงขนาดเข้ามาในห้องพักส่วนตัว ซ้ำยังยั่วยวนด้วยพวงมาลัยขนาดนี้ ถ้าเขาปล่อยให้แม่สาวคนนี้หลุดรอดใต้หว่างขาไปได้ ก็ถือว่าไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัวแล้ว
“มาสิเบบี๋ มาทำหน้าที่ของคุณ” นิ้วชี้เรียวกระดิกเรียก คนที่ตัวเองเข้าใจว่าเป็นเด็กขายบริการ ร่างกระถดถอยขึ้นไปรอคอยการปรนนิบัติอยู่บนเตียงใหญ่
“หน้าที่ของฉันอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ คืนนี้คุณมีหน้าที่ทำให้ฉันมีความสุข ไม่ใช่หรือไง ไหนมาดูสิว่าจะคุ้มค่ากับการรอคอยหรือเปล่า”
ปลายรองเท้าส้นเข็มแหลมเล็กทั้งซ้ายขวา ถูกขยับแยกห่างถ่างขากว้างออกจากกัน หัวเข่าชันยกสูงจนชายกระโปรงเดรสสั้นร่นขึ้นไปจนเห็นเนินเนื้อสาวน้อย อันถูกเนื้อผ้าลูกไม้สีดำบางเบาเป็นดังผ้าม่านบดบังไม่ให้ธันวามองเห็นส่วนสงวนอันล้ำค่าของสาวรุ่น
ฝ่ามืออุ่นคว้าหมับจับข้อเท้าเล็ก ยกมันลอยขึ้นมาจากนั้นประทับจูบลงไปบนตาตุ่มรูดลิ้นกระดิกเลีย ลากจาหน้าแข้งเรียบเนียนขึ้นไปจนถึงชายกระโปรง
“นี่มันอะไรเนี่ย” สาวน้อยประสบการณ์ต่ำกัดริมฝีปากร้องครางออกมา ไม่คิดไม่ฝันว่าแค่ปลายลิ้นสาก ๆ ที่ยังไม่ได้แตะสัมผัสส่วนสงวนอันเธอหวงแหนแม้แต่ปลายเล็บ จะทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวได้ขนาดนี้
“อะไรกัน เลียแค่นี้ถึงกับอ้าขารอแล้วอย่างนั้นเหรอ” นัยน์ตาคมช้อนมองขึ้นไป เห็นสะโพกบางเริ่มขยับกระสับกระส่าย
“อย่ามัวแต่พูดมากน่า มีทีเด็ดอะไรงัดออกมาเลยดีกว่า”
ลิ้นฉ่ำเลื่อนต่อขึ้นไปยังใต้กระโปรงสั้น สองมือยันจับขาทั้งสองข้างไม่ให้มันขยับหุบเข้าหากัน เบื้องหน้านั้นเนินสวรรค์อวบอูมนูนเด่น เห็นรอยแยกเป็นเส้นบาง ๆ ผ่าลงมาตรงกลางเนินเนื้อรูปทรงสามเหลี่ยม หนุ่มใหญ่ที่ผ่านโลกอันร้อนหนาวมาได้สามสิบแปดปี ผ่านการร่วมรักหลับนอนกับผู้หญิงมามิใช่เพียงคนสองคน
ความโชกโชนเชี่ยวชาญกร้านชีวิต กระตุกรอยยิ้มประดับตรงมุมปาก ก่อนจะลากลิ้นสากทับลงไปบนเนื้อผ้าลูกไม้ โดยมิได้แตะต้องเนื้อสาว
“เบบี๋ ดีจังเลย” นิ้วสอดเข้าไปผ่านกลุ่มผมสั้น มือขยำกำรวบก่อนจะกระชากใบหน้านั้นกดมันให้ฝังจมลงไปใต้หว่างขา
“เลียเป็นมั้ย เลียให้หน่อยสิ” มือว่างข้างหนึ่งกระชากดึงกางเกงในลูกไม้ให้หลบไปด้านข้าง เปิดทางให้ลิ้นเปียกของธันวา
“จะเลียให้ดิ้นทีเดียว”
“อย่ามัวแต่โม้ เอาสิ...เลียตรงนี้” นิ้วชี้ประดับเล็บเจลยาวชี้ลงไปยังติ่งสาวที่กำลังเต้นระริก
กลีบปากขยับขบเม้มบดไตนุ่มลักษณะเป็นปุ่มวงกลมตรงกลางร่องแฉะ สองขาแบะจิกปลายเท้าลงไปบนเตียงนอนก่อนจะขยับร่อนสะโพกโขกขึ้นไปกระแทกใบหน้าหล่อคมคายของผู้ชายที่เพิ่งพบหน้ากัน
“ตรงนั้นแหละเบบี๋ ดีจังเลย” เล็บยาวจิกลงไปบนหัวไหล่แน่น พร้อมทั้งกระแทกเอวสวนลิ้นยาวที่กำลังพยายามสอดผ่านปราการแรก
“ ฉันมีดีมากกว่าลิ้นอีกนะ”
ธันวาสอดนิ้วยาวที่สุดไปชนสะดุดเข้ากับกล้ามเนื้อที่เขาคิดว่ามันควรจะอ่อนนุ่มพอให้สอดใส่ หากแต่เพียงนิ้วเดียวที่แยงเข้าไปขาขาวถึงกับกระตุกเกร็ง
“...!....!....!...” นิ้วชักคืนกลับมาจากนั้นถูกธันวาอมเข้าไป ชโลมน้ำลายเพิ่มให้ความชุ่มและเปียกลื่น
“อื้ออออ” นิ้วเดิมถูกสอดกลับเข้าไปในรอยแยก ส่วนแคบอันตีบตันตอดขมิบบีบรัดนิ้วของเขาจนสัมผัสได้
ดูเหมือนสาวสวยเจ้าของเสียงกระเส่า ที่กระเด้งเอวสู้นิ้วมือของเขาคงอยากให้ธันวายัดสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเข้าไปเต็มที สังเกตได้จากน้ำรักหล่อลื่นไหลออกมาจนชุ่มฝ่ามือใหญ่
“อยากแล้วละสิ ใช่หรือเปล่า” ร่างเปลือยขยับขึ้นมาอยู่ในท่ายืนเข่า ลิ้นยาวลากออกมาเลียลิ้มชิมน้ำหวานที่มันไหลออกมาจนเยิ้มเต็มอุ้งมือ
“ก็เพราะอยากไง ถึงได้มานอนถ่างขาอยู่นี่ คัมออน เบบี๋มาจัดสักทีเถอะน่า”
“ไม่ต้องห่วงคืนนี้ ฉันรับพวงมาลัยเสี่ยงทายมาจากเธอแล้ว เดี๋ยวจะจัดให้ จนเธอต้องคลานออกไปจากห้องทีเดียวล่ะ”
มือซึ่งถูกเลียจนเกือบสะอาดกระชากเดรสสวยดึงมันร่นลงมากองอยู่ตรงเอว หน้าอกทรงสวยใหญ่กว่าตัวทะลักพ้นล้นออกมากระแทกสายตา แผ่นซิลิโคนปิดจุกกันโป๊สำหรับผู้หญิง ถูกธันวาดึงแล้วโยนทิ้งไปทางไหน ทั้งนารินทร์และธันวาเหมือนไม่ได้สนใจมันสักนิด
“มันต้องอย่างนี้สิ” มือบีบขยำเต้านมนั้นจนเนื้อนิ่มทะลักผ่านร่องนิ้วทั้งสิบ
จูบดุอันดูดดื่มจนนารินทร์รู้สึกราวกับเขาจะกลืนลิ้นของเธอหายไปด้วย หน้าอกสองข้างเจ็บเพราะมือหนักเหมือนตั้งใจจะบีบนมเธอให้แตก แต่น่าแปลกที่ยิ่งเขารุนแรงเท่าไหร่เธอกลับยิ่งรู้สึกเสียวสะใจมากไปด้วย
“โอ๊ยยยย” ฝ่ามือพิฆาตฟาดสะบัดตบฉาดเข้าไปเต็มใบหน้า เมื่อธันวากดร่างกายส่วนแข็งแทงเข้าไปในรูลึก
“เจ็บนะ เบา ๆ สิ ฉีกหมดพอดี”
หน้าชาเพราะฝ่ามือไว ดึงสติให้กลับมาเขาลืมไปเสียสนิทว่ากำลังเล่นรักอยู่กับสาวพรหมจรรย์ ธันวาไม่ใช่หรนุ่มรุ่น วัยกระเตาะที่จะมองไม่ออกว่าคนไหนจริง คนไหนปลอม เขาเคยนอนกับผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองยังไม่เคยผ่านมือชาย แต่พอเสียบเข้าไปเขาก็ได้คำตอบว่าเขาไม่ใช่คนแรก แม้แต่สาวน้อยหน้าใสที่แสดงบทสาวแรกรุ่น พอเขาจับต้องส่วนใดก็แสร้งสั่นไปทั้งตัว หากแต่ความลับในรูลึก ยากเกินกว่าจะปกปิด ผิดกับสาวสวยท่าทางกร้านโลกที่หอบพวงถุงยางอนามัยมาให้เขาคนนี้อย่างสิ้นเชิง
ธันวาต้องเสียเวลานานหลายนาที กว่าจะทำให้นารินทร์คุ้นเคยและยอมรับร่างกาย ยอมเปิดทางให้เขาเข้าไปหา สองขาเกี่ยวรัดขยับเอว เด้งสวนขึ้นมา แสดงออกอย่างซื่อสัตย์ต่อความปรารถนาของตัวเอง ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ
ร่างบางสะท้านไปตามแรงสั่น ทุกจังหวะอันเกิดจากแรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วง แต่น่าแปลกที่ต่อให้ก้นขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม หรือรอยบวมเป่งจากแรงเสียดสี ตรงส่วนเนื้ออ่อนนั้นช้ำแดง สาวสวยไฮโซยังคงเอ่ยปากบอกให้เขาทำรักต่อได้อย่างไม่คิดยอมแพ้
“เป็นยังไงบ้าง คืนนี้ฉันทำให้เธอประทับใจหรือเปล่า”
ธันวาโยนปลอกถุงยางอนามัยที่ผ่านการใช้งานแล้วลงไปกองรวมกับของเดิมข้างเตียง เศษซองถุงยางเปล่า ๆ วางเกลื่อนกระจัดกระจาย สายตามองกลับลงไปยังร่างขาวนอนหอบอยู่บนเตียง หน้าตาเปียกชุ่มฉ่ำเต็มไปด้วยเหงื่อ จากนั้นขยับตัวลงไปนอนเหยียด หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ มือลูบไปตามไหล่ลาดเรียบเนียน
“ขอพูดตามตรงว่า ดีกว่าที่หนูรินทร์คิดเอาไว้เยอะค่ะ ถึงลุงจะแก่ไปหน่อย แต่ลีลาจัดว่าเด็ดใช้ได้ ไม่คิดว่าหนุ่มเอเชียจะยาวใหญ่ได้ขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ขมิบจิ๋ม รอกลับมาเสียตัวที่เมืองไทย”
“แก่อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่สิ ในรูปโปรไฟล์ดูเด็กกว่านี้ตั้งเยอะ ยัยพวกนั้นก็แปลกบอกว่าเตรียมเด็กหนุ่มกรุบ ๆ เอาไว้ให้ แล้วทำไมกลายเป็นตาลุงกล้ามโต ตีนกาย่นอย่างคุณได้ก็ไม่รู้ นี่คงไม่คิดแต่งรูปใช้แอปหน้าเด็กเอาไว้หลอกคนใช่มั้ย แต่ก็เอาเถอะ หักลบกลบหนี้กับลีลาเมื่อกี้ ถือว่าคืนนี้ไม่ขาดทุน" ถึงขนาดทำให้เธอร้องครางจนเสียงแหบได้ขนาดนี้ จะไม่เอ่ยคำชมเลยก็กระไรอยู่
“อะไรนะ?” ธันวาหันมาขมวดคิ้ว ดีดขี้บุหรี่ลงไปให้ถาดแก้วด้วยความมึนงง
“นี่กี่โมงแล้ว” นารินทร์เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของร่างกำยำที่คืนนี้พาเธอท่องล่องแดนสวรรค์จนขาสั่นไปหมด
“ตีห้า”
“ตีห้าเหรอ ซวยแล้ว หนูรินทร์ต้องรีบกลับบ้านก่อน” ร่างเปลือยดีดตัวลุกขึ้นมาจากเตียงนอน กวาดตามองหาเสื้อผ้า กางเกงในที่ถูกถอดทิ้งไปแล้วรีบสวมมันกลับเข้าที่
“ทำไม มีอะไรอย่างนั้นเหรอ” ควันบุหรี่สีเทาถูกพ่นออกมา แววตากังวลกับท่าทีรีบร้อนนั้น
“พรุ่งนี้หนูรินทร์ต้องไปทำงานน่ะสิ เอานี่ลุงเงินค่าขนม ถือว่าเป็นทิปพิเศษ” นารินทร์คว้ากระเป๋าถือออกมารื้อหาเงินสดแล้วยัดมันใส่มือคนที่ยังนั่งคอแข็งคาบบุหรี่ค้างเอาไว้ในปาก
“ค่าขนมเหรอ เธอเห็นฉันเป็นคนยังไง”
“อ้อ ถ้าไม่ชอบกินขนมอย่างนั้นก็ เอาไปซื้อยาแก้ปวดเอวนะคะ เมื่อกี้โยกดีใช้ได้ น่าประทับใจมาก”
"เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ"
"ลุงไงคะ"
"แต่เมื่อกี้บนเตียง เธอเรียกฉันว่าเบบี๋..."
"ถ้าอยากให้หนูรินทร์เรียกเบบี๋อีก คงต้องรอรอบหน้านะคะ เอาล่ะคืนนี้หนูรินทร์ต้องไปแล้วนะ" นารินทร์ก้มลงสวมรองเท้าแล้ววิ่งตรงไปยังประตูห้องทันที
“เดี๋ยวก่อน”
“คะ?”
“เราจะเจอกันอีกเมื่อไหร่”
“ถ้าคุณรู้สึกอยากหื่นเมื่อไหร่ ก็โทรมาแล้วกัน...."
“โทรเหรอ? โทรยังไงล่ะ” ธันวาตะโกนถามไล่หลังไปในเมื่อเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าแม่สาวสวยที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘หนูรินทร์’ นี่เป็นใครมาจากไหนแน่