ตอนที่4 | ผมไม่หมั้น

1537 คำ
“เรียบร้อยแล้วนะครับ” ประกันทางฝั่งมายูได้เดินเข้ามายืนหยุดตรงหน้าเธอที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเพื่อฆ่าเวลาไปพลางๆ “ขอบคุณมากนะคะ มีอะไรก็ให้ทางเขาเคลียร์กับทางคุณเลยนะคะ ฉันขอตัวก่อนค่ะ” มายูยิ้มขึ้นพร้อมกับหันไปบอกกับทางพนักงานประกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแม้ว่าในใจจะหงุดหงิดมากสักแค่ไหนก็ตาม “เสียเวลาชะมัด อยากมากทำไมไม่แวะหาโรงแรมเอากันซะเลย พูดแล้วของขึ้นเลย ทุเรศอ่า รถลูกรักของฉัน!” ใบหน้าสวยหวานพูดบ่นกับตัวเองอีกครั้งเมื่อมองไปทางมิวนิคที่กำลังยืนคุยอยู่กับทางพนักงานประกันของเธอ มายูไม่รอช้ารีบสตาร์ทรถและขับออกมาจากตรงนั้นทันทีถ้าขืนยังอยู่มีหวังได้ลงไปด่าสองผัวนั่นอีกแน่ๆ -มิวนิค- ครืด~ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของเขาดังขึ้นในตอนนี้ชายหนุ่มได้เคลียร์จบกับทางประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วและเขากำลังนั่งอยู่ภายในรถ เขากดรับสายผู้เป็นแม่ทันที (ฮัลโหลลูกว่างหรือเปล่าเข้ามาหาแม่ที่บ้านที) “ครับแม่ ให้เข้าไปหาตอนนี้เลยเหรอครับ” เขาถามย้ำกับแม่อีกครั้งว่ามันสำคัญถึงขนาดที่ต้องเข้าไปในวันนี้เลยหรือ (ใช่จ้ะ ว่าแต่เรามีอะไรหรือเปล่าน้ำเสียงดูเหนื่อยๆยังไงก็ไม่รู้) “ไม่มีอะไรหรอกครับ คือรถผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยแต่ถ้าเสร็จแล้ว ผมจะเข้าไปหานะครับ” (แล้วเราเป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ยลูก) “ผมไม่เป็นอะไรครับเอาไว้เจอกันที่บ้านนะครับ” (แม่จะรอนะ) “ครับแม่” มิวนิคกดวางสายผู้เป็นแม่และหันไปมองน้ำตาล หญิงสาวข้างกายที่กำลังมองจ้องเขาอยู่ “มีอะไรเหรอคะ?” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เขาได้วางสายแม่ของเขาไปแล้ว “วันนี้ฉันคงไปห้องเธอไม่ได้แล้ว” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆพอมาเจอเรื่องแบบนี้เข้าทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่อยากจะทำเรื่องอย่างว่าต่อแล้ว มิวนิคจึงเลือกที่จะปฏิเสธเธอไปเสียดีกว่าและไหนแม่ของเขาจะเรียกให้เข้าไปพบที่บ้านในตอนนี้อีก “ทำไมคะ!!” น้ำตาลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจะหงุดหงิดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น “นี่เธอไม่ได้ยินที่ฉันคุยโทรศัพท์หรือไง แม่ฉันโทรมาท่านบอกว่ามีธุระด่วนให้รีบเข้าบ้าน” มิวนิคเค้นเสียงตอบกลับไปยังสาวสวยข้างกายด้วยความดุดันพูดเสร็จก็เบือนหน้าหนีหันไปทางอื่น “น้ำตาลไปด้วยได้มั้ยคะ?” “เธอจะเข้าไปทำไม รู้จักแม่ฉันหรือไง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันกลับมาถามเธอกลับทันทีอย่างคนที่รู้ทันว่ายัยนี่กำลังคิดอะไรอยู่ ดูแล้วคงอยากที่จะไปแสดงตัวกับแม่ของเขาสินะ “ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่เผื่อว่าในอนาคตพวกเราแบบว่า” น้ำตาลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย เธอพูดไปแบบนั้นเผื่อว่าเขาอาจจะใจดี พาเธอเข้าไปพบแม่ของเขาก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย “ฉันแค่อยากเอาเธอเฉยๆ! เอาแล้วจบ! เอาแล้วแยกน่ะ! เธอไม่เข้าใจเหรอ?” เขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เริ่มไม่ชอบใจไปกับสิ่งที่เธอคิดที่จะจับเขา “มิวนิคไม่รู้เลยเหรอคะว่าน้ำตาลรู้สึกยังไง” เธอจ้องมองไปในนัยน์ตาชายหนุ่มหวังอยากจะให้เขาหันมาสนใจในตัวเธอบ้างไม่ใช่เพียงสนใจแค่ร่างกายของเธอแค่เพียงเท่านั้น “ไม่รู้และไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย ฉันแค่ต้องการมีเซ็กส์กับเธอ ไม่ได้รักได้ชอบเธอสักหน่อย เข้าใจเอาไว้ด้วยนะ ถ้าเธอรับไม่ได้ งั้นพวกเราแยกกันตรงนี้เลยจะดีกว่า เธอว่ามั้ย?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความดุดัน “มิวนิคใจร้ายมากเลยรู้ตัวบ้างมั้ยคะ?” เธอหันไปมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูกแล้วแสร้งตัดพ้อหาว่าเขาใจร้าย “ไม่ต้องมาบอก อะนี่เงิน ฉันคงไปส่งเธอที่ห้องไม่ได้เลย โทษทีนะฉันต้องไปก่อน” คำพูดแสนเย็นชาออกมาจากปากของชายหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับยื่นแบงค์พันยัดใส่มือเธออย่างลวกๆ ร่างเล็กพยักหน้ารับนิ่งๆแล้วเลือกที่จะเปิดประตูแล้วออกมาจากรถของเขา เมื่อเห็นว่าเธอลงไปจากรถเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วมิวนิคจึงได้ขับรถออกไปทันที “คอยดูนะสักวันฉันจะทำให้นายชอบฉันให้ได้เลย!” บ้านกิจขจรเลิศชัย “แม่มีอะไรเหรอครับถึงได้เรียกผมเข้ามาที่บ้านแบบนี้” มิวนิคเดินเข้าหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแม่ของเขาแล้วเลือกหย่อนก้นลงที่โซฟาด้านข้างกับโซฟาของผู้เป็นแม่ “แม่มีเรื่องอยากบอกลูก ว่าแต่เป็นอะไรหรือเปล่าที่บอกว่ารถเกิดอุบัติเหตุน่ะ” แม่ของเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงในตัวของลูกชายคนเล็ก “ผมไม่เป็นไรครับ รถไปชนท้ายเขานิดหน่อย แม่มีเรื่องอะไรครับ” มิวนิคยิ้มกว้างให้กับผู้เป็นแม่ อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขาเป็นแผลแม้แต่นิดเดียวแค่เพียงตกใจก็เท่านั้น “ลูกมีแฟนหรือยัง?” แม่ถามย้ำลูกชายให้แน่ใจอีกครั้งถึงเรื่องแฟน ถ้าสมมุติว่าลูกชายของเธอมีแฟนอยู่แล้วเธอจะได้หาทางอื่น เธอไม่ต้องการให้ลูกต้องมีปัญหากับหญิงสาวคนรัก “ผมยังไม่คิดที่จะชอบใครครับ!” มิวนิคเน้นน้ำเสียงหนักแน่นบอกกับผู้เป็นแม่และเมื่อบอกออกไปแบบนั้นก็ทำให้แม่ของเขายิ้มกว้างออกมาได้ในทันทีอย่างน้อยมันก็ทำให้สบายใจได้ว่าลูกชายของเธอยังไม่คิดที่จะชอบหรือรักผู้หญิงคนไหน “งั้นก็ดี คือแบบนี้นะ คุณปู่ของลูกท่านได้ทำสัญญาเอาไว้กับทางเพื่อนของท่านว่าถ้าหากเพื่อนของท่านมีหลานสาวจะให้หลานของท่านหมั้นกับทางเราซึ่งนั่นก็คือลูก” “เดี๋ยวก่อนนะครับ แล้วทำไมถึงเป็นผม พี่แมทธิวละครับ” คิ้วหน้าขมวดขึ้นอย่างลืมตัวเมื่ออยู่ดีๆก็ได้รับรู้เรื่องสัญญาของคุณปู่ของเขาที่จะให้หมั้นกับหลานสาวของเพื่อนท่าน “ตอนนั้นในตอนที่ทำสัญญากัน ลูกเกิดตอนนั้นพอดี สัญญานั้นจึงหมายถึงลูกจ้ะ” แม่อธิบายให้มิวนิคได้ฟังอย่างละเอียดว่าการหมั้นในครั้งนี้มันต้องเป็นลูกแต่เพียงเท่านั้น “สมัยนี้มันยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอครับ ผมไม่หมั้น!” เสียงเข้มของมิวนิคดังขึ้นเขาไม่ยินยอมที่จะหมั้นกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ หน้าตาก็ยังไม่ได้เห็น นิสัยใจคอเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้เลยแล้วจะหมั้นจะแต่งกันไปได้ยังไง “ทางนั้นเขาไม่รู้หรอกครับว่าหลานชายคนไหนคือคนที่จะได้หมั้น ให้พี่แมทธิวไปหมั้นแทนผม” แล้วอยู่ดีๆมิวนิคก็คิดแผนการณ์ร้ายขึ้นมาได้ซึ่งนั่นก็คือส่งพี่ชายของเขาไปหมั้นแทนเขา “มันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองไปดูตัวเธอก่อน อาจจะถูกใจนายก็ได้นะ” แมทธิวที่เดินเข้ามาได้ยินคำพูดของน้องชายเข้าก็รีบทักท้วงขึ้น น้องชายของเขาคนนี้นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบเอาใจ เขาเป็นลูกคนเล็กอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ชอบอะไรก็จะรีบผลักไสออกไปให้กับคนอื่น “ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยครับพี่แมท” มิวนิคที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อจึงทำได้เพียงทำเสียงอ้อนพี่ชายตัวเองดูเผื่อว่าพี่แมทอาจจะใจดียอมหมั้นแทนเขา “ค่อยๆคิดลองไปดูตัวกันก่อนสิ” แมทธิวพี่ชายของมิวนิคเดินเข้ามานั่งลงข้างน้องชายพลางใช้มือปลอบโยนน้องชายคนเล็กของบ้าน เขาอยากให้น้องชายได้ลองไปนัดดูตัวกับทางว่าที่คู่หมั้นดูก่อนไม่แน่ว่าน้องชายเขาอาจจะชอบเธอก็เป็นได้ “อยู่ทานข้าวกับแม่ก่อนนะลูก” แม่ที่เห็นว่าแม่บ้านเดินเข้ามาบอกว่าจัดโต๊ะอาหารเสร็จพอดีจึงได้เอ่ยชวนลูกชายทั้งสองให้อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนกลับ “ก็ได้ครับ” มิวนิคพยักหน้ารับตกลงที่จะอยู่ทานข้าวกับครอบครัวก่อนที่จะกลับไปนั่งเครียดอยู่ที่คอนโด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม