ตอนที่ 5 ชีวิตใหม่...(1)

1021 คำ
ในระหว่างที่สองแม่ลูกช่วยกันจับสาวน้อยมอมแมมอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จารุกัญญ์ก็สอนวิธีพูดให้กับจีรชยาใหม่ ให้เธอรู้จักใช้คำว่า คะ/ค่ะ และสอนวิธีการวางตัวเล็กๆ น้อยๆ ต่อหน้าคนอื่นๆ เท่าที่เด็กห้าขวบจะพอทำความเข้าใจได้ เมื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เธอก็จับเด็กน้อยตัดผมใหม่ให้ไม่ดูรุงรังมากเกินไปเพราะเธอมีผมที่ยาวมาก จากนั้นก็ถักเปียสองข้างจนตอนนี้เด็กหญิงแทบจะจำตัวเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ “น้องน่ารักมากเลยค่ะคุณแม่ เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เลย ดูสิ พอได้อาบน้ำแต่งตัวแล้วเหมือนไม่ใช่คนเดียวกันกับก่อนหน้านี้เลยนะคะ” ภูริตานั่งยิ้มเพราะเธอรู้สึกเหมือนได้มีน้องเพิ่มมาอีกคน แถมยังเป็นน้องสาวที่เธออยากได้มานานแต่ก็ดูเหมือนจะหมดความหวังแล้ว “นั่นสิจ๊ะ โตขึ้นมาน่าจะสวยน่าดูเลยล่ะ เอาล่ะ นี่ก็ใกล้จะได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว เราลงไปข้างล่างกันเถอะจ้ะ จะได้ไปแนะนำหนูจีให้คุณพ่อกับน้องพีได้รู้จักซะที” “ค่ะคุณแม่ ไปกันเถอะน้องจี” “จ้ะ เอ่อ...ค่ะคุณพู่” เมื่อได้รับคำชมเธอก็เริ่มมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แถมยังมีคนใจดีอย่างภูริตาคอยเป็นพี่เลี้ยงก็ยิ่งทำให้เธอลดความประหม่าและความหวาดระแวงลงไปได้มาก แต่เมื่อลงมาถึงด้านล่าง เธอกลับไม่ได้เจอแค่ภูผากับภูมิรพี แต่เธอก็ได้เจอกับภูมิภัทรอีกครั้ง ซึ่งแม้เธอจะแปลงร่างจากลูกเป็ดขี้เหร่เป็นลูกเป็ดขนฟูน่ารักแล้ว เขาก็ยังคงทำเมินเธอไม่ต่างจากก่อนหน้านี้เลยสักนิด เด็กหญิงจึงทำได้แค่บอกตัวเองว่า ‘อดทนเอาไว้’ เธอจะได้อยู่กับผู้ชายหน้าดุคนนี้ไปอีกแค่ปีเดียวเท่านั้น พอครบปีเมื่อไหร่พ่อกับแม่ก็จะกลับมารับตามสัญญา หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกไม่กี่วัน พวกเขาก็พากันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และเธอก็ได้ไปเข้าเรียนระดับอนุบาลที่โรงเรียนใกล้บ้านเพราะจารุกัญญ์บอกว่าเธอจะได้รู้จักการเข้าสังคม ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ทำให้ไม่เหงาและไม่รู้สึกเบื่ออีกด้วย ส่วนภูมิภัทรนั้นก็เริ่มเข้าเรียนมัธยมปลายทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลามาสนใจเธอ แม้จะได้เจอหน้ากัน เขาก็แค่ไม่พูดด้วย ถึงจะอึดอัดใจอยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าต้องมานั่งทะเลาะกับเขาโดยไม่จำเป็น ดีที่ภูริตาและภูมิรพีใจดีกับเธอมาก เธอจึงอยู่ที่บ้านหลังใหญ่อย่างมีความสุขในฐานะสมาชิกใหม่ ไม่ใช่เด็กรับใช้ในบ้านแต่ก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนในครอบครัว กระทั่งหนึ่งปีผ่านไป เธอก็เฝ้ารอวันที่บิดามารดาจะมารับกลับ จนล่วงเข้าหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือน ก็ยังไร้วี่แววว่าจะมีใครมาหาเธอที่นี่ แล้ววันหนึ่งจารุกัญญ์กับภูผาก็เรียกเธอเข้าไปคุย โดยมีลูกๆ ของพวกเขาทั้งสามนั่งอยู่ด้วย เธอจึงคิดว่าพ่อกับแม่อาจจะกำลังมารับเธอแล้ว “คุณจ๋าเรียกหนูมามีอะไรรึเปล่าคะ” จีรชยาในวัยหกขวบเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนเอาแต่มองหน้าเธออยู่นานด้วยสีหน้าแปลกๆ แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรกันสักที “หนูจี...ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดจากนี้ให้ดีนะจ๊ะ เพราะมันเป็นเรื่องที่สำคัญมากและมันก็เกี่ยวกับอนาคตของหนูหลังจากนี้ด้วย” “ค่ะคุณจ๋า” จารุกัญญ์หันมองหน้าสามีและลูกทั้งสามที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เหลือแค่เพียงแต่เด็กน้อยไร้เดียงสาคนนี้เท่านั้นที่ไม่รู้อะไรเลย เธอจึงเลือกที่จะบอกข่าวดีก่อนที่จะให้ฟังข่าวร้ายหลังจากนั้น “ฉันปรึกษากับคุณภูและลูกๆ ทุกคนแล้ว พวกเรายินดีและเต็มใจรับหนูเข้ามาเป็นสมาชิกอีกคนในครอบครัวของเราจ้ะ จากนี้ไปหนูจะไม่ใช่แค่เด็กในบ้านและไม่ต้องคอยเป็นลูกมือฉันในครัวอีกแล้วนะ แต่หนูจะเป็นลูกสาวอีกคนของฉันกับคุณภู เป็นน้องสาวของพี่ภูมิ พี่พู่แล้วก็พี่พีด้วยจ้ะ หนูดีใจรึเปล่าจ๊ะ” จารุกัญญ์ส่งยิ้มให้ก่อนจะประคองเธอที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นขึ้นมานั่งตรงกลางระหว่างเธอกับสามี “แต่...เดี๋ยวพ่อกับแม่ของหนูก็จะมารับแล้ว หนูคง...ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อหรอกค่ะ” “เด็กดี ฟังฉันนะจ๊ะ คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูน่ะท่าน...มีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถกลับมารับหนูไปอยู่ด้วยได้แล้ว พวกท่านจึงได้ยกหนูมาให้เป็นลูกคนเล็กของฉัน และฉันก็ดีใจมากที่จะได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง” ได้ยินอย่างนั้นจีรชยาก็ถึงกับน้ำตาคลอ “พ่อกับแม่...ไม่รักหนูแล้วเหรอคะ” คำถามนั้นสร้างความสะเทือนใจให้คนฟังได้อย่างมากมาย ภูผาที่นั่งเงียบอยู่นาน จึงได้ยกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กน้อยเอาไว้ “ฟังนะหนูจี ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนที่ไม่รักลูกของตัวเองหรอก และที่ท่านยกหนูมาให้เป็นลูกสาวพวกเราก็เพราะท่านรักหนูมากนั่นแหละ พวกท่านอยากเห็นหนูมีอนาคตที่ดี ได้เรียนหนังสือ ได้มีสังคมที่ดี พอหนูโตขึ้นหนูก็จะมีงานที่ดีทำ นี่คือสิ่งที่พวกท่านอยากให้หนูได้รับ” เด็กน้อยนิ่งฟังทั้งน้ำตา ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “แล้ว...หนูจะได้เจอพ่อกับแม่อีกมั้ยคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม