“หนู...ชื่อจีจ้ะ”
“จีเหรอ มาจากชื่อจริงรึเปล่าจ๊ะ ชื่อจริงหนูชื่ออะไรล่ะ”
“จีรชยาค่ะ”
“จีรชยา...ชื่อเพราะจริง พ่อแม่หนูเข้าใจตั้งนะ แล้วหนูอายุเท่าไหร่จ๊ะ”
“ห้าขวบแล้วจ้ะ”
“แล้วหนูได้เรียนหนังสือมั้ยจ๊ะ”
“หนู...” เธอส่ายหน้าน้อยๆ แทนคำปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ตอนนี้แม่เลี้ยงดายกหนูให้อยู่ในความดูแลของฉันแล้ว ฉันจะดูแลหนูให้ดี ให้เหมือนกับลูกของฉันเอง อ้อ ลืมแนะนำตัวไปฉันชื่อจ๋านะจ๊ะ ฉันมีลูกๆ อีกสามคน คนเล็กอายุมากกว่าหนูสองปีน่ะ น่าจะพอเล่นด้วยกันได้นะ แต่ฉันว่าเราไปอาบน้ำแต่งตัวกันก่อนดีกว่านะ ดูสิ หน้าตามอมแมมเหมือนลูกแมวตกน้ำเลย เสื้อผ้าของหนูมีติดตัวมาด้วยมั้ยจ๊ะ”
“มีจ้ะ อยู่ในกระเป๋านี้”
เด็กน้อยดึงกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ มาข้างตัว
“ขอฉันดูหน่อยนะ” จารุกัญญ์ขยับเข้าไปนั่งกับพื้นข้างเด็ก แล้วเธอก็ยื่นกระเป๋าใบนั้นให้กับผู้ปกครองคนใหม่ท่าทางใจดีคนนี้
และเมื่อเธอเปิดกระเป๋าออกมาดู ก็พบว่ามีเสื้อผ้าของเด็กอยู่ไม่กี่ชุดแถมยังมีหลายตัวที่ขาดจนไม่น่าใส่เลยด้วยซ้ำ เห็นอย่างนั้นเธอก็ปิดกระเป๋าเอาไว้ดังเดิม แล้วหันมายิ้มให้เด็กในอุปถัมภ์อย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนชุดพวกนี้จะไม่ค่อยพอดีตัวหนูเท่าไหร่ เดี๋ยวฉันจะเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ของลูกสาวคนกลางมาให้หนูยืมใส่ก่อนนะจ๊ะ น่าจะมีหลายตัวที่หนูพอใส่ได้”
“ขอบคุณจ้ะคุณนาย”
“อย่าเรียกฉันว่าคุณนายเลยจ้ะ เรียกว่าคุณจ๋าก็พอแล้วนะ”
“จ้ะ คุณจ๋า”
“งั้นหนูขอตัวพาเด็กคนนี้ไปอาบน้ำก่อนนะคะแม่ดา จะได้พาไปแนะนำตัวกับทุกคนอีกที”
“จ้ะ ไปเถอะ แม่จะนั่งจิบชาอยู่แถวนี้ต่ออีกสักหน่อย ไว้เจอกันมื้อเที่ยงก็แล้วกันนะ”
“ค่ะ”
“อ้อ แล้วก็ให้แม่หนูนี่นอนกับยัยแสงไปก่อนนะ ไว้กลับกรุงเทพฯ แล้วหนูค่อยหาห้องให้แกอีกที”
“ได้ค่ะแม่ดา ไปเถอะจ้ะหนูจี ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่กัน”
“จ้ะ” เด็กน้อยพยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้คุณคนสวยจูงมือเธอเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่นั้น
แต่ยังไม่ทันที่พวกเธอจะได้ไปอาบน้ำ เธอก็เจอกับเด็กผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีหน้าตาหล่อเหลาแต่ก็ดูเคร่งขรึมจนทำให้เธอรู้สึกกลัว จีรชยาจึงได้รีบขยับไปยืนหลบอยู่ด้านหลังของจารุกัญญ์เอาไว้
“คุณแม่จะไปไหนครับ แล้วเด็กนี่...ใครเหรอครับ”
“อ๋อ น้องเค้าชื่อจีจ้ะ เดี๋ยวเค้าจะไปอยู่กับพวกเราที่กรุงเทพฯ ประมาณหนึ่งปีน่ะ จีสวัสดีคุณภูมิสิจ๊ะ คุณภูมิเป็นลูกชายคนโตของฉันเอง” จารุกัญญ์หันไปบอกเด็กน้อยขี้กลัว เธอจึงค่อยๆ ยกมือขึ้นพนมไหว้เขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“สะ...สวัสดีจ้ะคุณภูมิ”
“พูดค่ะไม่เป็นเหรอ” คำถามของเด็กหนุ่มเล่นเอาสาวน้อยถึงกับพูดไม่ออก
“น้องเค้ายังไม่ได้เข้าอนุบาลน่ะ เอาไว้แม่จะสอนน้องพูดอีกทีนะจ๊ะ แล้วภูมิมาทำอะไรแถวนี้ล่ะลูก”
“ผมอยากไปสวัสดีคุณยายน่ะครับ”
“งั้นก็ไปเถอะจ้ะ คุณยายอยู่ที่ศาลาในสวนน่ะ เดี๋ยวแม่จะพาน้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่สักหน่อย แล้วเจอกันมื้อเที่ยงนะจ๊ะ”
“ครับ” ภูมิภัทรพยักหน้ารับก่อนจะจ้องหน้าเด็กใหม่ครู่หนึ่งแล้วเดินผ่านพวกเธอไป จารุกัญญ์จึงหันมาบอกเด็กน้อยเมื่อคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
“หนูจีนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะจ๊ะ ฉันจะไปขออนุญาตเจ้าของชุดสักหน่อยก่อนที่จะเอามาให้หนูใส่”
“จ้ะ” เธอพยักหน้ารับแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ ตามที่จารุกัญญ์บอก ก่อนจะมองผู้ปกครองคนใหม่เดินไปอีกทางหนึ่ง
ขณะที่นั่งอยู่ ภูมิภัทรก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน ทำให้เธอได้เจอกับเขาอีกครั้ง เด็กน้อยจึงได้รีบลุกขึ้นมายืนทันทีราวกับว่าการนั่งอยู่มันคือความผิดอย่างนั้น
“มานั่งทำอะไรตรงนี้ คุณแม่ของฉันไปไหน”
“คุณจ๋าบอกว่าจะไปขออนุญาตเจ้าของชุดจ้ะ” เธอก้มหน้าก้มตาตอบเพราะไม่กล้าสบตากับเขา
“หมายความว่ายังไง”
“คือหนู...หนูไม่รู้จ้ะ”
“ชื่ออะไรนะเราน่ะ”
“จีจ้ะ”
“เงยหน้า ไม่มีใครสอนเหรอว่าคุยกับผู้ใหญ่ต้องสบตา”
“แต่คุณไม่ใช่ผู้ใหญ่นี่จ๊ะ คุณก็เด็กเหมือนกัน” เธอตอบเสียงอ่อย
“กล้าเถียงเหรอ”
“เอ่อ...หนู...ขอโทษจ้ะ” เธอรีบยกมือไหว้เพราะกลัวเขาจะโกรธ แต่ก็ยังไม่ยอมสบตาเขาอยู่ดี
“มีอะไรกันจ๊ะเด็กๆ เสียงดังไปถึงในบ้านเชียว” จารุกัญญ์เดินออกมาพร้อมกับภูริตา จึงได้เห็นบุตรชายมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก ส่วนสมาชิกใหม่ก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่แล้ว
“ไม่มีอะไรครับ เด็กของแม่พูดไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะ งั้นผมไปก่อนนะครับ”
“แล้วลูกจะไปไหนจ๊ะ”
“ไปขี่ม้าเล่นครับ”
“งั้นกลับมาให้ทันมื้อเที่ยงนะลูก”
“ครับ”
เขาตอบก่อนจะเดินไปทางที่มารดาและน้องสาวก้าวออกมา
“คนนี้เหรอคะที่คุณแม่จะเอาชุดของหนูให้เค้าใส่” ภูริตาหันมาถามมารดา
“จ้ะ หนูจีจ๊ะ คนนี้คือคุณพู่ ลูกสาวคนกลางของฉันเองจ้ะ เดี๋ยวฉันจะเอาชุดเก่าของคุณพู่ให้หนูใส่ก่อนนะ ไว้เรากลับกรุงเทพฯ แล้วฉันจะหาเสื้อผ้าใหม่มาให้จ้ะ”
“ขอบคุณจ้ะคุณพู่” เด็กน้อยเงยหน้ามายกมือไหว้คนที่กำลังยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอจึงกล้ายิ้มตอบไป
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปเลือกชุดให้จีนะ ชุดพี่มีสวยๆ เยอะแยะเลยจ้ะ ไปกันเถอะ” ภูริตาเดินไปจูงมือของจีรชยาแล้วพากันเดินขึ้นไปชั้นบนโดยมีจารุกัญญ์เดินตามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน และดีใจเมื่อเห็นทั้งสองคนเข้ากันได้ดี