ตอนที่ 1 คุณพ่ออยู่บนสวรรค์...(1)

1010 คำ
“คนเยอะไม่มีที่นั่งเลย เรากลับบ้านกันดีกว่ามั้ยคะเด็กๆ จะได้ไม่รบกวนเวลาของคุณลุงด้วย” จีรชยาหันมาคุยกับลูกทั้งสองเมื่อมาถึงร้านอาหารที่มีไอศกรีมจำหน่ายด้วย แต่นักท่องเที่ยวกลับยืนต่อคิวจนแน่นร้านไปหมด “คุณลุงรีบกลับเหรอคะ” พุดดิ้งที่ดูจะสนใจคุณลุงมากรีบหันไปถามทันที “ไม่รีบครับ วันนี้ลุงว่างทั้งวันเลย เอาอย่างนี้มั้ย เดี๋ยวลุงกลับบ้านไปกับพวกหนูดีกว่า ตั้งแต่เช้าลุงยังไม่ได้กินอะไรเลย ไม่รู้ว่าที่บ้านของพุดดิ้งมีของอร่อยๆ ให้ลุงกินรึเปล่าครับ” แม้ว่าเด็กทั้งสองจะสวมเสื้อคนละสีทำให้แยกฝาแฝดหน้าเหมือนคู่นี้ออกได้ชัดเจน แต่บุคลิกของสองพี่น้องก็ต่างกันมากเพราะพริกหวานดูจะเรียบร้อยและขี้อายกว่า ส่วนพุดดิ้งกล้าพูดกล้าแสดงออกมากกว่า คิดว่าต่อให้จะสวมเสื้อผ้าแบบเดียวสีเดียวกันเป๊ะ เขาก็สามารถแยกพวกเธอออกได้อย่างง่ายดาย “มีเยอะแยะเลยค่ะ บ้านเราเป็นร้านอาหารค่ะ คุณแม่ทำอาหารเก่งมากเลยนะคะ” “จริงเหรอครับ งั้นถ้าไม่รบกวนเธอเกินไป ฉันขอไปกินข้าวด้วยคนละกันนะ หวังว่าคงไม่รังเกียจ” เขาละสายตาจากแฝดน้องไปมองแม่ของเธอแทน และเขาก็ได้เห็นแววตากังวลใจอยู่ในนั้น คล้ายว่าเธอไม่อยากให้เขาไปที่บ้านเพราะมีความลับที่ต้องปกปิด “เอ่อ...จีไม่รังเกียจหรอกค่ะ ถ้าคุณภูมิหิวงั้นเราไปกินข้าวที่บ้านก็ได้ค่ะ จีจะได้ฝากของไปให้แม่จ๋าด้วย” “งั้นก็ไปกันเถอะ ฉันหิวแล้วล่ะ” “ค่ะ” “เรานั่งแท็กซี่ไปละกันนะ น่าจะสะดวกกว่านั่งรถไฟใต้ดิน” “จริงๆ นั่งรถไฟใต้ดินก็สะดวกดีนะคะ ปกติเวลาพาลูกมาที่นี่จีก็นั่งรถไฟใต้ดินมาค่ะ แค่ต้องเดินไปที่สถานีไกลหน่อยเท่านั้น ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวน่ะค่ะ” “แต่เธอก็พาลูกเดินมานานแล้วไม่ใช่เหรอ เด็กๆ คงเมื่อยแย่แล้ว ฉันว่านั่งแท็กซี่ไปเลยดีกว่านะ ตอนนี้รถไฟฟ้าก็คงแน่นเหมือนกันนั่นแหละ” “เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ เด็กๆ จับมือแม่ไว้นะคะจะได้ไม่หลงกัน” “ให้หลานจับมือฉันดีกว่า เธอจะได้เดินสะดวก” บอกแล้วเขาก็ย่อตัวลงแล้วยื่นมือทั้งสองข้างไปหาหลานทั้งสองคน “เด็กๆ จับมือลุงคนละข้างนะครับ เดี๋ยวลุงพาเดินเอง” “ค่ะ” พุดดิ้งรีบจับมือเขาทันที แต่พริกหวานกลับหันไปมองหน้าคนเป็นแม่ก่อน เมื่อเห็นจีรชยาพยักหน้ารับเพราะไม่อยากให้พี่ชายต้องเสียใจ พริกหวานจึงได้เอื้อมมือไปจับกับคุณลุงบ้าง แล้วสองสาวน้อยกับหนึ่งหนุ่มใหญ่ก็เดินนำหน้าเธอไปยังจุดจอดรถแท็กซี่ ปล่อยให้จีรชยาเดินตามทั้งสามคนไปพร้อมกับความรู้สึกตื้นตันใจ อย่างน้อย...เขาก็ไม่ได้รังเกียจลูกของเธอ แม้เขาจะยังไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กก็ตาม และเธอจะไม่มีวันบอกให้เขารู้อย่างเด็ดขาด เพราะไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะมีเด็กตัวน้อยๆ คอยเขาอยู่ที่ประเทศไทยก็ได้ ในเมื่อเขาเองก็แต่งงานไปตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว ตลอดทางที่นั่งมาในรถแท็กซี่ จะมีเสียงของหนูน้อยพุดดิ้งดังขึ้นอยู่ตลอดโดยส่วนใหญ่เธอจะเป็นคนตั้งคำถามกับคุณลุงเสียมากกว่า และจะเป็นคำถามเกี่ยวกับประเทศไทยเพราะเธออยากไปเมืองไทยสักครั้ง ส่วนพริกหวานกับคนเป็นแม่นั้นได้แต่นั่งฟังทั้งสองคนคุยกันไปเงียบๆ จนกระทั่งรถแท็กซี่พาพวกเขามาส่งที่หน้าร้านอาหารของเธอ “เชิญค่ะ” เธอหันไปบอกเขาหลังจากไขกุญแจเข้าไปในร้านแล้ว “ชื่อร้านน่ารักดีนะ ตอนแรกฉันนึกว่ามันหมายถึงมีทั้งอาหารคาวหวานซะอีก ที่แท้ก็เป็นชื่อเด็กๆ นี่เอง” ปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่พอโดนสาวน้อยพุดดิ้งชวนคุยมากๆ ก็ดูจะพูดจาได้คล่องปากขึ้น อาจเพราะจีรชยาเองก็ค่อนข้างเงียบ หากเขาทำเงียบอีกคน บรรยากาศคงน่าอึดอัดมากกว่านี้ “ค่ะ หลังจากทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมได้สี่ปีและพวกเด็กๆ ก็อายุสามขวบกันแล้ว จีก็อยากมีเวลาดูแลพวกเค้ามากขึ้น เลยลาออกจากการเป็นเชฟในโรงแรมมาเช่าที่นี่แล้วเปิดร้านเล็กๆ นี้น่ะค่ะ จนถึงตอนนี้ร้านของจีก็เปิดมาได้เกือบปีแล้ว แล้วก็พอจะมีลูกค้าประจำอยู่พอสมควร จีก็เลยสามารถเลี้ยงดูพวกเค้าได้ไม่ลำบาก” “แล้วตอนที่เป็นเชฟในโรงแรม เธอให้ใครดูแลลูกแทนล่ะ” “ตอนนั้นจีอยู่พอพักก็เลยจ้างคุณป้าข้างห้องค่ะ ท่านเป็นแม่หม้าย ลูกท่านโตหมดแล้วก็เลยแยกย้ายกันไปทำงานที่อื่น ท่านอยู่คนเดียวและเป็นคนใจดี จีก็เลยจ้างให้ท่านช่วยเลี้ยงในตอนกลางวันตอนที่จีไปทำงานน่ะ” “ทำไมเธอไม่บอกพวกเราว่าเธอมีลูก ชีวิตเธอไม่ควรต้องมาลำบากที่นี่คนเดียวนะ แล้ว...พ่อของเด็กๆ ไปไหนล่ะ” “เอ่อ...” “คุณพ่ออยู่บนสวรรค์ค่ะ” พุดดิ้งเป็นคนตอบ “บนสวรรค์งั้นเหรอ?” ภูมิภัทรจ้องหน้าจีรชยานิ่ง ความรู้สึกขุ่นเคืองใจแล่นพล่านอยู่กลางอก แต่เขาก็คือเขาที่ยังควบคุมสีหน้าของตัวเองไม่ให้คู่สนทนารู้ว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหนได้เป็นอย่างดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม