ตอนที่ 10 เธอยังมีพี่พาย

1268 คำ
หลายชั่วโมงต่อมา... พชรวิชญ์โกรธจนจำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอสบถคำหยาบไปกี่ครั้ง แต่ที่แน่ๆมันมากกว่าที่เขาสบถด่าเพื่อนสามคนรวมกันทั้งเดือนแน่นอน เขาไม่คิดว่าชีวิตของนิรดาจะลำบากถึงเพียงนี้ จากเด็กสาวที่เคยถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี เคยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากไม่ต่างจากลูกคุณหนูคนหนึ่งต้องมาตกระกำลำบากอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็ก ทำงานบ้านทุกอย่าง แถมยังต้องทำงานหาเงินใช้เองตั้งแต่อายุสิบหก ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมากจนเขานึกไม่ถึง เขาไม่คิดว่าอดีตน้องสาวข้างบ้านที่เคยวิ่งเล่นด้วยกัน คนที่เขาเคยเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่งจะมีชีวิตที่รันทดได้มากขนาดนี้ แต่ทว่านั่นมันยังไม่เท่ากับความโกรธที่เขามีต่อ... น้าสาวของเธอ ที่ทำให้เขาโกรธจนเผลอกำมือแน่น สบถคำหยาบออกมานับครั้งไม่ถ้วน ผู้หญิงคนนั้นใจดำอำมหิตเหมือนไม่ใช่คน เพราะคงไม่มีคนดีๆที่ไหนกล้าทำกับหลานสาวตัวเองได้ขนาดนี้ มันโหดร้ายเกินไป “ถ้าเรายังไม่มีที่อยู่ ก็อยู่ที่นี่กับพี่ไปก่อนสอบเสร็จแล้วค่อยมาคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ” อดีตพี่ชายข้างบ้านของนิรดาสรุป ก่อนจะชี้มือไปที่โซฟาเบดตัวยาวที่เธอนั่งอยู่ “โซฟาเบดตัวที่เรานั่งสามารถดึงออกมาเป็นที่นอนได้” อ้อ... ลืมบอกไปว่าตอนนี้เขาพานิรดามาที่คอนโดตัวเองเรียบร้อยแล้ว ถึงเธอจะบอกว่าเจ๊แดงอนุญาตให้เธออยู่ที่บ้านหลังนั้นจนถึงพรุ่งนี้แต่เขาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่เธอจะต้องอยู่ที่นั่นต่อ ยังไงก็ต้องย้ายออกอยู่แล้วก็ย้ายมันออกมาเลย บ้านที่มีแต่ความทรงจำแย่ๆแบบนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียเวลาอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว นิรดามองคนที่พาเธอมาที่คอนโดหรูด้วยสายตาไหววูบ ก่อนจะถามในสิ่งที่ตัวเองกังวล “พี่พายจะไม่อึดอัดใช่มั้ยคะถ้ามีหนูนิ่มอยู่ในห้องนี้ด้วย หนูนิ่มรู้ว่าพี่พายสงสารหนูนิ่ม แต่หนูนิ่มก็ไม่อยากทำให้พี่พายต้องลำบาก ไม่ใช่ว่าช่วยหนูนิ่มแล้วตัวเองต้องเดือดร้อน” แม้ว่าห้องของพี่พายจะกว้างมาก แม้ว่าเมื่อก่อนเธอกับเขาจะสนิทกันมาก แต่เราก็ไม่ได้เจอกันนานเกือบสิบปี ไม่เคยติดต่อหากันแม้แต่ครั้งเดียว เธอกลัวว่าเขาจะอึดอัดถ้ามีเธอมาอยู่ในห้องด้วย ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆเธอก็ไม่อยากให้เขาลำบาก “ตัวเราไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดที่จะทำให้พี่อึดอัด” พชรวิชญ์ยังยืนยันคำเดิม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องให้เธอมาอยู่ที่คอนโดด้วยแทนที่จะพาเธอไปเช่าห้องใหม่ เขาสามารถจ่ายค่าเช่าห้องล่วงหน้าให้เธอเป็นปีแบบไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแต่เขาก็ไม่ทำ ยังเลือกที่จะชวนเธออยู่ด้วยกัน อาจจะเป็นเพราะเขาไม่อยากให้นิรดารู้สึกว่าเธอไม่เหลือใคร ไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวบนโลก ความสัมพันธ์ในวัยเด็กของเราทำให้เขาไม่กล้าปล่อยให้เธอไปเช่าห้องอยู่คนเดียว อย่างน้อยก็ช่วงนี้ที่เขาคิดว่าสภาพจิตใจของเธอน่าจะพังไปมาก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเธอเก่งมากที่สามารถผ่านเรื่องราวเลวร้ายพวกนั้นมาได้ ตอนที่ช่วยหนูนิ่มเก็บข้าวของเขาเห็นกรอบรูปครอบครัวของเธอสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก มันเป็นของเพียงชิ้นเดียวที่นิรดาเก็บใส่กระเป๋าผ้าที่เธอมักสะพายไปไหนมาไหนด้วย มันบ่งบอกว่ารูปครอบครัวเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเธอ เป็นของมีค่าเพียงชิ้นเดียวที่เธอมี นั่นอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาไม่กล้าปล่อยให้เธอไปเช่าห้องอยู่คนเดียว “ขอบคุณพี่พายมากนะคะที่ช่วยหนูนิ่ม” นิรดายิ้มให้เขาจากใจจริง เป็นครั้งแรกในรอบสามปีนับจากวันที่สูญเสียมารดาที่เธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างโดดเดี่ยว เธอยังมีพี่พาย อย่างน้อยก็ตอนนี้ที่เธอมีเขา “หนูนิ่มสัญญาถ้าสอบเสร็จหนูนิ่มจะรีบกลับไปทำงาน แล้วจะรีบย้ายออกให้เร็วที่สุดค่ะ หนูนิ่มจะพยายามไม่รบกวนพี่พายนาน” “อย่าเพิ่งคิดไปถึงเรื่องนั้นเลย” เขาไม่อยากให้เธอคิดมาก เรื่องที่เพิ่งเจอมาก็บั่นทอนจิตใจมากพอแล้ว เขาอยากให้เธออยู่ที่นี่อย่างสบายใจ โฟกัสแค่เรื่องเรียนที่กำลังจะสอบในอีกไม่กี่วันกับเรื่องที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากกว่า พูดถึงเรื่องเรียนต่อมหาวิทยาลัยพชรวิชญ์เองก็มีเรื่องที่จะพูดกับนิรดาเหมือนกัน แต่คงไม่ใช่วันนี้ ก็อย่างที่บอกว่าวันนี้เขาอยากให้เธอได้พักผ่อน ยังไม่อยากให้เธอคิดอะไรมาก “หิวหรือเปล่า?” เอ่ยถามหลังจากที่ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วเห็นว่าเลยเวลาสี่ทุ่มมาแล้วสิบนาที “ค่ะ” นิรดาพยักหน้าตอบอย่างอายๆ ตอนที่รู้เรื่องบ้านและยังไม่มีที่อยู่ก็เธอก็มัวแต่เครียด กังวลสารพัดจนไม่รู้สึกหิว ทว่าพอทุกอย่างเริ่มคลี่คลายกอปรกับถูกพี่พายถามเท่านั้นแหละท้องของเธอก็ประท้วงขึ้นมาทันที “อยากกินอะไร?” “อะไรก็ได้ค่ะ” เธอแล้วแต่เขา พี่พายกินอะไรเธอก็กินได้หมด “อะไรก็ได้ไม่มีขายหรอกนะ” พชรวิชญ์ยกยิ้มมุมปาก หยิบสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาเปิดเข้าแอพพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ใช้บริการประจำ ถึงจะใช้บริการบ่อยทว่าก็มีร้านอาหารแค่ไม่กี่ร้านที่เป็นร้านประจำจริงๆ “ข้าวมันไก่มั้ย?” “ค่ะ” พยักหน้า “หรือจะเป็นผัดไทยห่อไข่?” “ค่ะ” พยักหน้าอีก “หือ?” อดีตพี่ชายข้างบ้านของนิรดาเลิกคิ้วมอง มุมปากยกยิ้มเอ็นดูคนตรงหน้าที่ถามอะไรก็ค่ะหมด “ตกลงเราอยากกินอะไร? ข้าวมันไก่หรือผัดไทยห่อไข่? หรือว่าจะกินทั้งสอง?” นิรดาตาโต เมื่อรู้ว่าถูกแกล้งก็หน้าแดงเขินอาย “ข้าวมันไก่ก็ได้ค่ะ” “ตกลงข้าวมันไก่?” “ค่ะ” “เรายังไม่ชอบกินหนังไก่กับเครื่องในเหมือนเดิมใช่มั้ย?” “ค่ะ... ไม่ชอบ” ความรู้สึกอิ่มเอมหัวใจพองฟูกลับมาอีกครั้งเมื่อถูกถามอย่างเอาใจใส่ ตั้งแต่มารดาจากไปก็ไม่มีใครถามเธอแบบนี้อีกเลย เธอไม่คิดว่าพี่พายจะยังจำได้ว่าเธอชอบกินหรือไม่ชอบกินอะไร แน่นอนว่าผัดไทยห่อไข่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดที่เธอชื่นชอบ นิรดามองอดีตพี่ชายข้างบ้านที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์ด้วยสายตาทอประกาย ก่อนจะกระพริบตาถี่เพื่อไล่น้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา ขอบคุณที่ทำให้เราสองคนกลับมาเจอกัน ขอบคุณที่พาพี่พายกลับเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม