บทนำ ยินดีต้อนรับ1
กลับมาทวงบัลลังก์!
เวย์ เวนิกา ดอดรับงานหนังของผู้กำกับมือรางวัล เศกย์ ศัลย์พิมุก หลังเงียบหายจากวงการไปอย่างไร้สาเหตุนานถึงสี่ปี ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงโว กลับมาคราวนี้รับรองว่านางเอกสาวเซ็กซี่ขวัญใจมหาชนคนนี้จะทวงตำแหน่งควีนกลับมาได้ไม่ยาก
เจ้าของดวงตาแหลมคมที่มีวิสัยทัศน์ละออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาด 27 นิ้ว ที่ระบุเนื้อหาข่าวบันเทิงสุดฮือฮาเหมือนกันแทบทุกเพจ ลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนเอามือล้วงกระเป่ากางเกง ตรงริมกำแพงกระจกที่กรุจากพื้นจรดเพดาน ดวงตาแน่วแน่มองออกไปไกลสุดสายตา
ปล่อยสมองให้ล่องลอยไปในความเวิ้งว้าง...
ทั้งที่อยู่ภายในห้องทำงานโอ่โถงเย็นฉ่ำและเงียบสนิทจนไม่ได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ แต่ชายหนุ่มคล้ายจะได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชังจากผู้หญิงคนนั้นแว่วดังมาตามสายลมแผ่วหวิว แต่บาดลึกไปถึงหัวใจของเขาว่า
“ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณชั่วชีวิต!”
ปรินธรหลับตาลง อยากหยุดความปวดแปลบที่เจ็บลึกเอาไว้เพียงแค่นี้ แต่ห้วงคำนึงกลับผุดภาพใบหน้างามเย้ายวนที่มองกันอย่างเข่นฆ่าราวกับเป็นศัตรูคู่อาฆาต ยิ่งทำให้ปวดใจไปกันใหญ่ อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมความสัมพันธ์ของเราจึงแตกร้าวเดินทางมาสู่ความบาดหมาง กระทั่งแตกหักเกินเยียวยา ถึงขั้นต่อไม่ติด มองหน้ากันไม่ได้
ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจอยู่เต็มอกว่าสาเหตุทั้งหมดนั้นก็คือ...ตัวเขาเอง
หวนนึกกลับไปยังกาลก่อน ตอนที่เขาได้เจอกับสาวน้อยเวนิกาเป็นครั้งแรกในบาร์หรู เธอที่อยู่ในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีดำดึงดูดสายตาผู้คนวิ่งจู่โจมเข้ามาถึงตัวเขา โผเข้ากอดคอจนตัวลอย กระซิบถ้อยคำเชิญชวนด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริกว่า
“คุณสนใจฉันมั้ยคะ ฉันอยากเป็นผู้หญิงของคุณ”
ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงวิ่งมาเสนอตัวให้เขาถึงที่ ปรินธรเจอสาวสวยมากหน้าให้ท่าแทบทุกรูปแบบ มากจนเขาเอียนกับวิธีการเรียกร้องความสนใจของแต่ละคน หนักข้อจนนึกรำคาญ อยากกระชากแม่ปลิงดูดเลือดออกไปให้พ้นตัว ทว่าทันทีที่ผลักเธอออกและทันได้สบตากัน แววตารัญจวนหวามหวานที่ซุกซ่อนแวววิงวอนถึงขั้นหาที่พึ่งพิงทำให้เขาชะงัก หัวใจเหมือนถูกกระตุก ไม่อาจละสายตาและความสนใจไปจากเธอได้เลย
ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดดลใจหรือเป็นความต้องการของเขาเองกันแน่ รู้ตัวอีกทีเขาก็จูงมือสาวน้อยขึ้นมาบนห้องพักวีไอพีที่อยู่เหนือบาร์เสียแล้ว
“เธออายุเท่าไหร่” เขาอดถามไม่ได้ ถึงทรวดทรงสาวน้อยจะสวยสะพรั่งเต่งตึงเต็มวัย ใบหน้าสวยเฉี่ยวมีเสน่ห์น่าดึงดูด รูปลักษณ์ยังเซ็กซี่ยั่วยวนจนใครเห็นก็ต้องของขึ้นแทบตบะแตก แต่แก้มเนียนๆ หน้าใสๆ ดูยังไงนี่มันก็เด็กมัธยมปลายชัดๆ เขาไม่อยากติดคุกเพราะพรากผู้เยาว์หรอกนะ
“ยี่สิบแล้วค่ะ” เธอตอบอย่างฉะฉาน
เด็กกว่าเขาแปดปี...
ปรินธรพยักหน้า แล้วถามต่อในสิ่งที่เขาคาดเดาว่าไม่น่าจะผิดพลาด
“ทำไมถึงจงใจเลือกฉัน เธอต้องการอะไร”
สาวน้อยสบตาเขาอย่างเด็ดเดี่ยว เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า
“เพราะดูแล้วคุณน่าจะเป็นคนรวยที่ช่วยเหลือฉันได้ค่ะ”
ชายหนุ่มเหลือมองตัวเองแล้วนึกชมในความตาถึงของสาวน้อย ชุดสูทที่เขาสวมอยู่ราคาหลักล้านไม่ได้มีขายเกร่อตามร้านทั่วไป ไม่นับรูปร่างหน้าตาและความภูมิฐานที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถือว่าเธอฉลาดใช้ได้ รู้จักเลือกของดีให้กับตัวเอง
“เรื่องเงิน?”
“ค่ะ”
เธอไม่หลบตาหรือก้มหน้าซ่อนความอดสู แต่ยืดอกยอมรับกับเขาอย่างกล้าหาญ ทำให้เขานึกอยากรู้ นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาติดใจดวงตาเย้ายวนคู่นี้
“จะเอาเงินไปทำอะไร”
“พี่ชายฝาแฝดของฉันถูกพวกนักเลงทำร้ายผิดตัว สมองได้รับการกระทบกระเทือนหนัก มีเลือดคั่งต้องผ่าตัดอยู่หลายครั้ง ตอนนี้อาการทรงตัวอยู่ในขั้นโคม่านอนเป็นเจ้าชายนิทรา ไม่รู้จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันเลยต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษา”
ชายหนุ่มพยักหน้าอีกครั้ง ไม่ได้เห็นใจเพราะโลกเราก็โหดร้ายแบบนี้แหละ แต่ก็เข้าใจในความจำเป็นและสิ่งที่เธอทำ สาวน้อยวัยยี่สิบที่ต้องแบกรับภาระหนักเกินตัว ทั้งที่ตัวเองก็ยังเรียนไม่จบ ไม่มีงานมีการดีๆ ทำ คงไม่มีทางเลือกมากนัก
“แล้วครอบครัวเธอล่ะ”
สาวน้อยชะงักปากเม้มแน่น แววตารวดร้าวเพียงวูบเดียวก็ถูกความแข็งกร้าวฉาบฉาย ยักไหล่บอกเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สมว่า
“แม่ฉันเป็นซิงเกิ้ลมัม โดนผู้ชายเลวๆ หลอก พอท้องก็ทิ้ง ท่านทำงานหนักเลี้ยงพวกเราสองพี่น้องจนป่วยตาย ตอนนี้ฉันเหลือแค่พี่ชายฝาแฝดเพียงคนเดียว ฉันจะไม่ยอมเสียเขาไปเด็ดขาด”