บทที่ 3 บีบคั้น 2

858 คำ
หล่อนจงใจใส่ไฟเวนิกาต่อหน้าปรินธร หลังรู้จากปากลลิตาตอนเข้ากองใหม่ๆ ว่าแม่นั่นเป็นอดีตเด็กเลี้ยงของเขา แถมยังอยู่ด้วยกันมานาตั้งสามปี น่าอิจฉา! ทีหล่อนพยายามทอดสะพานให้เขา ยั่วแล้วยั่วอีก ปรินธรก็ยังใจแข็งไม่ยอมเดินข้ามมาสักที ทั้งที่หล่อนเองก็มีดีสวยแซ่บลีลาเด็ดเหนือใคร หล่อนมั่นใจว่าหากเขาได้นอนกับหล่อนสักครั้ง หล่อนจะปรนเปรองัดลีลาทุกท่วงท่ามาสนองตอบความเร่าร้อนของเขาได้ รับรองว่าปรินธรจะสมสุขจนร้อนฉ่า แถมจะติดใจจนลืมหล่อนไม่ลงเลยเชียว “ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะจบกันที่ไหนนะคะ” มิ่งกมลหัวเราะคิกๆ ไม่ทันสังเกตเลยว่าดวงตาคมกล้าบัดนี้เต็มไปด้วยพยับหมอกมืดครึ้มอัดแน่นอยู่นั้น หัวคิ้วยิ่งขมวดมุ่นเป็นปมเดียวกัน สันกรามขบแน่นจนนูนเด่น เมื่อเวนิกาเผยรอยยิ้มขี้เล่นพูดอะไรบางอย่างกับคนในรถ ก่อนจะหัวเราะร่า แล้วก็ก้าวขึ้นรถไป “คุณพูดถูก” นั่งนิ่งอยู่นาน เป็นคำแรกที่ปรินธรปริปาก เขาหันมาบอกคนนั่งข้างโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า “ลงไป!” “เมื่อกี้บอสพูดว่าอะไรนะคะ” มิ่งกมลนิ่วหน้า ไม่แน่ใจว่าเมื่อกี้ได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชาย มีแต่คนอยากจะเล้าโลมนัวเนียหล่อน อยากได้หล่อนจนแทบจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว หล่อนไม่เชื่อหรอกว่าปรินธรเองจะต่างจากคนอื่นๆ “ลงไป!” น้ำเสียงเข้มลึกที่เค้นผ่านลำคอออกมา ทำเอามิ่งกมลเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ทำไมคนที่ชวนหล่อนไปดินเนอร์ถึงไล่กันไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยอย่างนี้ล่ะ... “มะ มิ้งค์ทำอะไรผิดเหรอคะบอส มิ้งค์ขอโทษ” หล่อนรีบละล่ำละลักถาม ถึงไม่รู้ตัว แต่การทำให้บอสใหญ่ขุ่นเคืองใจไม่ใช่เรื่องดีกับหล่อนเลย “รถผมไม่ใช่รถสาธารณะ จะเที่ยวรับใครต่อใครมั่วซั่วไม่ได้” “แต่ว่าบอสเป็นคนชวนมิ้งค์...” ไปทานข้าวนะคะ ยังพูดไม่จบก็ถูกน้ำเสียงติดเหี้ยมตวาดกร้าวด้วยความรำคาญเต็มทีว่า “ลงไป! อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำ” ปรินธรปรายตามองหล่อนเยียบเย็นชนิดที่แทบจะแช่แข็งได้ทั้งตัว ทำให้คนหวาดกลัวจนลมหายใจติดขัด ไม่ต้องรอให้เขาจ้องเขม็งอีกรอบ มิ่งกมลก็รีบลนลานคว้ากระเป๋าสะพายแบรนด์หรูเปิดประตูลงจากรถทันที หล่อนยังไม่อยากจะหมดอนาคตในแวดวงบ่อเงินบ่อทองนี้ เพราะเผลอขัดใจชายผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขา “ตามไป” เขาสั่งคนสนิทให้ออกรถทันที ไม่สนใจเลยว่าแทบจะเฉี่ยวโดนร่างของคนที่เพิ่งตะเพิดลงไปหยกๆ เอาแต่ต่อว่าคนเจ็บที่ยังมีแก่ใจเที่ยวร่อนไปทั่วด้วยความเข่นเขี้ยวว่า “เจ็บแล้วยังจะซ่า ไม่รู้จักกลับไปพักผ่อนให้ดีๆ” “ผมให้คนส่งยาทาแก้น้ำร้อนลวกไปให้คุณเวย์แล้วครับ” “อืม” ปรินธรขานรับเป็นอันรับรู้ สีหน้าดีขึ้นนิดหนึ่งเมื่อคิดว่าเวนิกาคงจะทายาจนดีขึ้นแล้ว รอยแดงบนหน้าเธอคงไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ ธนัตน่าจะจัดการส่งยารักษาที่ดีที่สุดไปให้เธอแล้ว “แต่...” เห็นเจ้านายขมวดคิ้ว ธนัตก็ชะงักเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดต่อดีไหม แต่พอปรินธรปรายตามองมาดุๆ จึงเอ่ยต่อว่า “คุณเวย์โยนยาทิ้งถังขยะทันทีโดยที่ไม่แตะเลยครับ” ธนัตลอบกลืนน้ำลาย ไม่กล้าสบตาเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เพราะสายตาเจ้าตัวเหี้ยมโหดเกินไปจนเขาใจคอไม่สู้ดี “ช่างมัน!” ปรินธรสะบัดเสียงเกือบจะเป็นกระโชก “เธอจะเป็นจะตายทีหลังไม่ต้องมาบอกฉัน ไร้สาระ กลับรถ!” ผู้หญิงบ้า!!! อยากทำตัวให้ลำบากนักก็ตามใจ รู้อย่างนี้เขาไม่แสร้งหาเรื่องชวนมิ่งกมลไปทานข้าวเพื่อยกกอง แล้วให้เธอได้กลับไปนอนพักที่บ้านสบายๆ เสียก็ดี คนไม่รู้จักบุญคุณ! “แกเองก็เหมือนกัน ทำงานมานานไม่รู้รึไงว่าเรื่องไหนสำคัญไม่สำคัญ ถ้าคราวหน้ายังทำงานไม่ได้เรื่องแบบนี้อีกละก็ วางใบลาออกไว้บนโต๊ะฉันได้เลย” ธนัตหักพวงมาลัยเลี้ยวรถตามคำสั่งแทบไม่ทัน พูดไม่ออก นอกจากกะพริบตาปริบๆ แอบสงสารตัวเองชะมัดที่พลอยซวยโดนฟาดงวงฟาดงาใส่ ทั้งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับเขาเลย ปรินธรสั่งเองแท้ๆ ให้เขารายงานทุกเรื่องของเวนิกา ตอนนี้ดันกลายเป็นว่าเขาทำงานไม่ได้เรื่องซะอย่างนั้น หัวจะปวด... เกิดเป็นเลขาคนเอาใจยากอย่างเจ้านายเขา มันเป็นกรรมของได้นัตแท้ๆ เลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม