นี่ไง...แฟนผม

2081 คำ
หญิงสาวลืมตาขึ้น แล้วหันมายิ้มให้เขา ชายหนุ่มรีบละสายตาหวานเชื่อม แล้วหันไปมองอ่าวสวยเบื้องหน้าแก้เก้อ “อธิษฐานนานจัง” “ฉันขอให้ได้กลับมาที่นี่อีก และก็ขอให้ตัวเองรอดปลอดภัยจากคนคิดร้ายด้วย” เขาอ้าปากค้าง คำภาวนาของเขาถูกเธอแก้เสียแล้วเรียบร้อย “อืม ขอให้สมหวังล่ะกัน ว่าแต่คืนนี้คุณนอนที่ไหน” “สนามบิน ฉันเล็งที่เอาไว้แล้ว น่าจะนอนหลับสบายอยู่ พรุ่งนี้เช้า ฉันถึงจะบิน” เธอกลับเมืองไทยเวลาเดียวกับเขาเลย ต่างกันแค่เธอกลับเครื่องบินพานิชย์โดยสาร ส่วนเขาเช่าเครื่องบินส่วนตัวสุดทันสมัยจากบริษัทของเพื่อนสนิท “คุณไปนอนที่ห้องผมก็ได้นะ” เธอหันขวับมองเขา ชายหนุ่มรีบแก้ตัวอย่างงงๆ “ผมหมายถึงนอนจริงๆ ผมไม่แตะคุณหรอก บอกแล้วไง ไม่ยุ่งกับคนที่ไม่ยอม” หญิงสาวพยักหน้า ก่อนยกน้ำขึ้นซดไปหลายอึก “ฉันขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณพลอยลำบากไปด้วย” “ผมผิดเองที่เดินผ่านหน้าห้องคุณพอดี” ขวัญชนกยิ้มสดใส แววตาเป็นประกายครั้งแรกที่เขาเห็น เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าที่สุกสกาวไปด้วยดวงดาวนับพัน การมาที่นี่อาจเป็นเรื่องโชคร้ายสำหรับเธอ แต่การที่เธอได้มานั่งอยู่ตรงนี้ เวลานี้ ก็ถือว่าเธอยังโชคดีไม่น้อย “แต่เป็นเรื่องโชคดีของฉัน” ทั้งคู่นั่งชมดาว สูดกลิ่นอายทะเลจากอ่าวแบ็กอีกสักพักใหญ่ๆ ก็พากันกลับมาที่อพาร์ตเม้นต์หรูใจกลางเมืองของชายหนุ่ม นี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมให้ผู้หญิงใช้เตียงนอนส่วนตัวของเขา “คุณนอนเตียง ผมจะนอนโซฟาเอง” มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เธอคิดในใจ “ขอบคุณนะคะ แต่คุณควรจะออกจากห้องไปได้แล้ว” เขาอ้าปากหวอ ก่อนหุบฉับ “ไล่เจ้าของห้องเลยนะ” เธอยิ้มให้เขา หนุ่มเจ้าของห้องที่ใจดีและมีน้ำใจกับเธอ เธอจะจดจำเขาไว้ในความทรงจำ แม้การมาเยือนบอสตันในครั้งนี้คือความโชคร้าย แต่เขาคือความโชคดีสำหรับเธอ ขวัญชนกนอนหลับไปเกือบห้าชั่วโมง เธอสะดุ้งตื่นตอนฟ้ายังไม่ทันสางดี เธอลุกเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเองจนเรียบร้อย จากนั้นก็ลากกระเป๋าออกจากห้องนอน ชายหนุ่มหายไปจากโซฟาแล้ว เธอมองหาเขา เพื่อจะกล่าวคำขอบคุณก่อนจากไป ทว่า เขาไม่ได้อยู่ในห้องแล้วจริงๆ เขาเขียนโน้ตแปะไว้ที่ตู้เย็น...ผมต้องออกไปหาเพื่อนด่วน ตื่นแล้วหาอาหารเช้ากินเองนะ ล็อคประตูห้องให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง...ขอบคุณที่ใช้บริการ “แสดงว่าเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้นอนอยู่ที่นี่สินะ นี่เรานอนระแวงทั้งคืนเลย” เธอยิ้มนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกดีไม่น้อย ก่อนก้มลงอ่านข้อความในส่วนของ..ปล. “เงินอยู่ในซองบนโต๊ะอาหาร ใช้คืนโดยให้คุณกลับมาที่บอสตันเท่านั้น ไม่รับการโอน ส่งหรือฝาก...เข้าใจนะ” เธอเก็บโน้ตแผ่นเล็กไว้ในกระเป๋าสะพาย ตั้งใจจะเก็บเอาไว้ เธอดื่มกาแฟแก้วเดียวเท่านั้น ก่อนออกจากอพาร์ตเม้นต์หรูมาด้วยหัวใจที่อิ่มเอมและพองโต... ขวัญชนกโบกแท็กซี่ให้ไปส่งยังสนามบิน เธอนำเงินที่ชายหนุ่มวางไว้ให้บนโต๊ะอาหารมาใช้จ่าย เขายินดีให้เธอยืมเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท โดยมีข้อแม้ว่าให้เธอใช้เงินคืนในวันที่เธอได้กลับมาที่บอสตันอีกครั้งเท่านั้น “ฉันจะกลับมาที่นี่อีกครั้งให้ได้ ฉันสัญญา” เธอลากกระเป๋าเดินทางเดินเข้าสนามบิน หากแล้วก็ต้องสะดุดกึก เพราะเห็นใครบางคนที่เธอรู้จัก ยืนอยู่ในมุมไกลๆ “สิริวิไล!” หญิงสาวที่มีความสวยและสง่าสมกับเป็นลูกสาวจากครอบครัวอบอุ่นที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เธอเป็นนางแบบอยู่ในสังกัดของบริษัทคู่แข่ง และเธอเป็นตัวเต็งในการเข้าร่วมประกวดสุดยอดนางแบบแห่งประเทศไทยที่กำลังจะมีการประกวดในอีกสองวันข้างหน้า “เธอดูดีจริงๆ ดูดีตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ว่าแต่...มาถ่ายแบบเหรอ ขึ้นปกหัวไหนนะ” สิริวิไลเริ่มมีชื่อเสียงตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ไม่เพียงแค่เพราะความสวยเท่านั้น แต่เธอยังมีผู้สนับสนุนที่ดี ข่าววงในบอกว่าเธอมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งคอยผลักดันอยู่อย่างลับๆ เรียกว่าใครแตะไม่ได้เลยเชียวล่ะ “เธอได้ตำแหน่งแน่” ไม่ต้องเดาเลย ถึงแม้เงินรางวัลนับล้านบาทควรจะเป็นของคนจนอย่างเธอมากกว่าก็เถอะ เธอไม่มีเส้นสาย ไม่มีผู้ใหญ่สนับสนุน แถมยังมีศัตรูตัวใหญ่ที่ตั้งใจจะสกัดและคอยขัดแข้งขัดขาเธอด้วย “ฉันควรจะไปทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแด่เจ้ากรรมนายเวรเสียก่อน อย่างน้อย เผื่อผลบุญจะช่วยให้หลุดรอดจากมารผจญบ้าง ไม่ใช่ประดังประเดมาเป็นชุดแบบนี้” เธอละสายตาจากนางแบบสาวสวยไฮโซ เดินต่อไปยังด้านใน วันนี้บรรยากาศไม่สดใสสักเท่าไหร่ ท้องฟ้าค่อนข้างครึ้ม เธอยังกังวลอยู่ว่าจะบินได้ไหม หากแล้วการคาดเดาของเธอก็เป็นจริง ไฟท์ที่เธอบินและทุกไฟท์ที่จะบินในช่วงเช้าของวันนี้งดทุกเที่ยว เพราะ... “พายุหิมะรึเนี่ย” แต่เธอกลับตื่นเต้นตาโตที่ได้เห็นหิมะแรกในชีวิต แถมยังเป็นหิมะในเมืองในฝันของเธอเสียด้วย “หิมะตกที่บอสตัน” หญิงสาวเห็นมัน ผ่านกระจกใสหนาซึ่งกรุเป็นผนังของตัวอาคารขนาดใหญ่ ผู้โดยสายหลายคนนั่งมองทิวทัศน์ชินตาที่เก้าอี้ และผู้โดยสารหลายสิบชีวิต ยืนจับกลุ่มบ้าง เป็นคู่บ้าง และยืนโดดเดี่ยวเหมือนเธอก็หลายคน ทุกคนจับจ้องออกไปยังนอกอาคาร ด้วยสายตาที่หลากหลาย บางคนเซ็ง บางคนกังวล โมโห บางคนดื่มด่ำ สบายๆ และบางคนตื่นเต้นสนุกสนานซึ่งคนๆ นั้นก็คือเธอ “สวยจัง เหมือนอยู่ในสวรรค์เลย” หิมะสีขาวสะอาดดุจปุยนุ่น ตกลงมาเป็นสาย พลิ้วไหว อ่อนโยน นุ่มนวลอย่างกับละอองหมอก “ถ้ามาคราวหน้า ต้องพาแม่มาด้วยให้ได้” แม้ความสวยของหิมะไม่ได้เป็นผลดีสำหรับการเดินทางสักเท่าไหร่ และไฟท์กลับเมืองไทยของเธออาจจะเลื่อนไปอีกหลายชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เธอต้องนั่งรออยู่ในสนามบินอย่างเงียบเหงาและน่าเบื่อไปอย่างไม่มีกำหนด แต่เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นกับความพลุกพล่านของผู้คนแปลกหน้า และบรรยากาศของความจอแจวุ่นวายท่ามกลางพายุหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างหนักจนหนาแน่นไปทุกแห่งหน ความฝันที่อยากเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ยังกระตุ้นเตือนเธอทุกเมื่อเชื่อวัน การติดต่อค้าขายกับผู้คน การเดินทางเพื่อค้นหาสินค้าแปลกใหม่ หรือการท่องเที่ยวค้นหาประสบการณ์ชีวิตจากทุกซอกมุมของโลก มันเป็นอะไรที่เธออยากจะทำมาทั้งชีวิต วันใดก็ตามที่เธอสามารถปลดแอกให้กับครอบครัวได้สำเร็จ วันนั้นเธอจะเริ่มต้นสานความฝันให้เป็นรูปเป็นร่าง แม้จะเริ่มจากร้านขายข้าวแกงเล็กๆ ก็เถอะ เธอคงจะมีความสุขไม่น้อย “คุณขวัญชนก นักธุรกิจหญิงที่สวยและเซ็กซี่ที่สุดในประเทศไทย เจ้าของร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต...เฮ้อ...ดีจัง” หญิงสาวฝันหวานเพียงลำพัง เธอยิ้มกับความสุขเล็กๆ ที่ได้จินตนาการไปถึง “ไปดูงานดีกว่า” เธอผละจากกระจกบานใหญ่ จุดชมหิมะตกของเธอ เดินกลับมายังโซนร้านค้าขนาดใหญ่สุดทันสมัยและเป็นระเบียบ ทว่า หรูหรา จัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว เธอเห็นร้านกาแฟร้านหนึ่งตรงหัวมุม ร้านขนาดกลาง จัดแต่งสไตล์อินเดียนแดง ผสมผสานกับวัฒนธรรมแบบอเมริกาใต้ ดูแล้วน่าสนใจตั้งแต่ยังไม่ได้ลองชิมรสชาติกาแฟ หญิงสาวเล็งไว้ตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาแล้ว และเธอจะเจียดเงินสักเล็กน้อยเพื่อซื้อรสชาติดั้งเดิมแบบบราซิลเลี่ยนมาลองดื่มชิมดู อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะอร่อยเลิศล้ำอย่างที่เขาล่ำลือกันหรือเปล่า เธอเดินไปหยุดตรงหน้าร้าน ลูกค้าไม่น้อยแต่ก็ไม่มาก ยังพอมีโต๊ะเหลือ “ตกแก้วล่ะ...ร้อยแปดสิบบาท...แพงจัง...เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้ว” เธอพูดพลางกำลังจะย่างเท้าเข้าไปด้านใน หากแล้วก็ต้องชะงัก เกือบหงายหลัง เพราะชายหนุ่มคนหนึ่งเข้าขวางหน้าเธอไว้เสียก่อน เขาไม่ได้พูดกับเธอ แต่พูดกับหญิงสาวที่เดินไล่บี้เขามาตั้งแต่หน้าสนามบิน “พอเถอะแองจี้” ชายหนุ่มคนนั้นบอกกับหญิงสาวผมบลอนด์ที่แต่งชุดแซ็กสวย เผยแผ่นหลังนวลเนียน เจ้าหล่อนปั้นหน้าเหมือนยักษ์ใส่เขา แสดงท่าทางบอกว่าไม่มีวันหยุดและพอ ตามที่เขาขอเด็ดขาด “คุณด้วยเคส” แล้วเขาก็หันไปหาหญิงสาวอีกคนที่ตรงรี่มายืนเคียงคู่กับแองจี้ สาวสวยตาคม ผมสีน้ำตาล เคสอย่างกับนางแบบหลุดมาจากแคทวอล์ค ขวัญชนกแอบเดาว่าเธอน่าจะเป็นสาวจากอเมริกาใต้ “เลิกยุ่งกับผม แล้วกลับไปซะ” ชายหนุ่มชาวเอเชียผู้นี้มีเรือนร่างสูงสง่าพอๆ กับนายแบบฝรั่ง หรือไม่ก็นักฟุตบอลสุดเท่ห์ที่ดึงสายตาคนดูไปได้ทั้งสนาม หุ่นงดงามในเสื้อผ้าสบายๆ เช่นเคย เสื้อหนังสวมทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนซีดเก่ากึก เธอเคยเจอเขามาแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้งในเวลารวดเร็วขนาดนี้ และในสถานการณ์วุ่นวายแบบนี้ เสือร้ายของเธอก่อคดีใหญ่แน่ๆ เขาดูข้นเครียดและเซ็งสุดขีด ขณะกำลังพยายามอธิบายให้สองสาวเข้าใจว่าที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องของความพอใจทั้งสองฝ่าย ไม่ได้บังคับขู่เข็น ไม่ได้บีบคอลากพวกเธอเข้าห้อง พวกเธอปลดกระดุมและถกกระโปรงให้เขาเองด้วยความยินดีปรีดา และทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเน้นความสนุกกับผ่อนคลายเป็นหลัก ไม่เน้นการต่อยอดใดๆ ทั้งสิ้น “เราตกลงกันแล้วไง” “ใช่ เราตกลงกันแล้ว แต่คุณไม่ควรทำแบบนี้...กับผู้หญิงเพอร์ เฟคอย่างฉัน” เคสพูดด้วยน้ำเสียงจิกกัดพอๆ กับสีหน้าท่าทาง พลางปรายตาไปมองหญิงสาวอีกคนที่ยังยืนเชิดหน้า ยิ้มเยาะท้าทาย “คุณทำให้ฉันพะอึดพะอมสุดๆ” “ฉันต่างหากที่พะอึดพะอม ยังไงก็เหอะ ฉันมาก่อน” แองจี้ทวงสิทธิ์ที่ไม่มีอยู่จริง “ไม่สำคัญหรอก เพราะฉันเด็ดกว่า” “พอเถอะน่า” ชายหนุ่มปรามด้วยเสียงกระซิบกระซาบ คนอย่างเขาไม่น่าจะมีความอายหลงเหลืออยู่แล้วนะ ก่อเรื่องเสียขนาดนี้ “มันจบแล้ว กลับไปทั้งสองคน ตอนนี้ผมไม่ว่าง...แฟนผมรออยู่” “ไม่จริง” แองจี้ปากคอสั่น “คุณไม่เคยจริงจังกับใคร” “เพราะงั้น คุณไม่ควรปฏิเสธผู้หญิงที่ดีและเลิศสุดๆ อย่างฉัน” เคสบอกอย่างนั้น เธอมั่นใจว่าเธอดีกว่าผู้หญิงทุกคนในอเมริกา และแน่นอนว่าดีกว่าแฟนของเขาแน่ๆ “เป็นของฉันคนเดียวเถอะ” “ฉันต่างหาก” แองจี้ท้วง “ที่เขาควรจะเลือก ถอยไปเลยยัยเพื่อนชั่ว” “แกน่ะแหละ ชั่วและเซ็กซ์ห่วยแตกจนเขาต้องมานอนกับฉัน” “นังสารเลว” “โอ้ว...” ขวัญชนกอุทานในใจ ที่แท้สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันหรอกรึ แต่กลับแอบใช้ผู้ชายคนเดียวกันอย่างนั้นใช่ไหม เสือร้ายของเธอเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจ ที่แท้เขาคือคนหล่อที่ใช้ผู้หญิงเปลืองและไม่เลือกหน้า เธอไม่อยากชมบทละครรักสามเศร้าของพวกเขาอีกแล้ว จึงคิดจะหลีกหนีแล้วเข้าไปในร้านเสีย แต่เพียงก้าวเดียวเท่านั้นที่เธอย่างเยื้อง เธอกลับถูกมือใหญ่ฉุดไปยืนเคียงข้าง และเขาพูดออกมาหน้าตาเฉย โดยไม่ขอความเห็นเธอสักคำ “นี่ไง แฟนของผม!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม