ขอให้ง่ายทีเถอะ

1471 คำ
หญิงสาวมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มด้วยความหวั่นไหว ดวงตาคู่คมงดงาม บางคราวก็ดูอบอุ่นสดใส แต่บางทีก็ดูเลือดเย็นจนน่าขนลุก สองสิ่งที่ผสมกันอย่างลงตัว แต่เธอต้องยอมรับว่าความเลือดเย็นของเขาดึงดูดเธอได้มากกว่าความอบอุ่นเสียอีก “มองนานไปแล้ว” เขาสะกิดเตือนผ่านคำพูดยโสนิดๆ เธอคืนสติ รีบปั้นหน้าให้ดูรนรานน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เขาจับได้ว่าหัวใจเธอกำลังสั่นเพราะความหล่อลากดินของเขา ถอนสายตา แต่ไม่อาจถอนใจกลับมาได้ “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณมีจุดเด่นอะไรบ้าง ฉันจะได้เรียกคุณจากสิ่งนั้น” “จุดเด่นเหรอ แล้วอะไรบ้างที่เด่น” “อืม...ตาโตเต็มไปด้วยประกาย จมูกโด่งสวย ริมฝีปากบางเฉียบแดงแปล๊ด ใบหน้ารูปไข่ ตัวสูง หุ่นกำยำ” เธอบรรยายลักษณะใบหน้าเขาและลามไปถึงเรือนร่างด้วยความเพลินโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งหันไปสบดวงตาคู่ร้ายของเขาเข้าอย่างจัง เธอจึงหยุด “เอ่อ...ฉัน...ฉันเลยคิดว่าอาจเรียกคุณว่า...” “ว่าอะไร” เขาจ้องเธอ ด้วยสายตาประหลาด ดูเร่งเร้าและร้อนแรงแฝงเร้น “แววตาของคุณเหมือนเสือ” เขายิ้มมุมปาก “เสือผู้หญิงเหรอ” “นิดหน่อย” เธอยอมรับ ก่อนจะเอ่ยต่อ “แล้วก็...” ดูมีอำนาจอย่างลึกลับ เธอรู้สึกตัวเล็กเท่ามดเมื่ออยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ เสื้อผ้าสุดเซอร์เก่ากึกราคาถูกที่เขาสวมใส่อยู่ ดูไม่เข้ากับคำว่าสมาร์ทเลยสักนิด แต่เขาเป็นเช่นนั้น เขาสมาร์ทตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูดีทุกการเคลื่อนไหว แม้แต่ตอนที่เขาพูดจาดูถูกเธอตอนเจอกันครั้งแรกก็เถอะ “ดูเป็นผู้นำ ปกป้องทุกคนได้” “ไม่เลว” คำตอบของหญิงสาวทำให้หัวใจเขาสั่น “ถ้าอย่างนั้น ผมควรเรียกคุณว่าอะไรดี” “ไม่แฟร์เลย คุณรู้จักชื่อฉันแล้ว” “ผมลืมชื่อคุณไปแล้ว” แต่เขาจำใบหน้าสวยกับดวงตากลมโตซ่อนเศร้าคู่นี้ฝังใจเลยล่ะ “ผมจะเรียกคุณจากจุดเด่นของคุณด้วย” เขาไล่สายตามองใบหน้านวลสวยอย่างสนใจ ขยับเข้าใกล้อย่างลืมตัว จนกระทั่งอยู่ในระยะอันตราย ลมหายใจร้อนฉ่าประสานกัน หัวใจเต้นรัวแทบพร้อมเพรียงกัน “ดวงตาเศร้าแต่สวยที่สุด จมูกรั้น แก้มแดงปลั่ง ริมฝีปากอิ่ม...สวย” ชายหนุ่มบรรยายพร้อมกับก้มเข้าหาหญิงสาวทีละนิด เธอเกือบเผยอรับริมฝีปากของเขาเข้าแล้ว หากสัญญาณลิฟต์ไม่ดังขึ้นเสียก่อน เสียงติ๊ง ปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากความฝัน ละใบหน้าหนีอย่างนุ่มนวล ขยับตัวห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย เขายิ้มบางๆ แม้ไม่ได้เชยชิมริมฝีปากเจ้าหล่อน แต่เขาก็รู้ว่าไม่ยากในครั้งต่อไป ประตูลิฟต์เปิดออก ภายนอกคือลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงแรม หญิงสาวก้าวนำออกไปก่อน ชายหนุ่มก้าวตามจนถึงตัว คว้าจับหูลากกระเป๋า แต่จงใจจับมือเจ้าหล่อน เธอรีบละไปเพราะความอาย “รถผมอยู่ทางโน้น” เขาเดินนำไปอีกทาง หญิงสาวมองตามแผ่นหลังเขาไป แต่ยังไม่ยอมก้าว “จะไว้ใจเขาได้เหรอ” คำถามนี้กระทุ้งอยู่ในหัวตลอด “เราเสี่ยงเกินไปรึเปล่า กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คนที่แม้แต่ชื่อ เขาก็ยังไม่ยอมให้เรารู้” “ไม่ไปเหรอ” เขาหันมาตะโกนถาม เมื่อเห็นเธอยืนนิ่ง “ไปค่ะ” ไม่รู้ว่ามือที่ไหนมาฉุดเธอไปหาเขา แล้วยอมขึ้นนั่งในรถสปอร์ตคันหรูของเขาอย่างง่ายดาย เธอนั่งนิ่งเหมือนหุ่นไร้ลมหายใจ ในชีวิตไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวระคนปนเปไปหมด “รัดเข็มขัดด้วย” เธอสะดุ้ง ไม่ทันจะเอี้ยวตัวไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยออกมา ชายหนุ่มผู้นั่งประจำเบาะคนขับ เลื่อนตัวมาหาเธอ จนใบหน้าเกือบประชิด จนหน้าอกแนบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาจัดการรัดสายเข็มขัดนิรภัยให้เธออย่างชำนาญและรวดเร็ว แน่ล่ะ ก็นี่มันรถของเขา แต่เขาทำเธอเกือบหัวใจวายนะ “คุณมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหม” ขวัญชนกพยักหน้า “และอาจเป็นครั้งสุดท้าย” “ทำไมล่ะ” “ฉันคงไม่มีปัญญามาที่นี่อีกแล้วล่ะ กลับไปคราวนี้ ฉันคงเจอเรื่องซวยอีกเยอะ อาจต้องออกจากงานด้วย” “ไอ้แก่นั่นใหญ่โตขนาดนั้นเลยเหรอ” “ไม่ใหญ่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่เผอิญเขาแอบกิ๊กกับเจ้าของบริษัทต้นสังกัดของฉัน” “ผัวเจ้านายคุณว่างั้น” “ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ล่ะค่ะ” หญิงสาวมีสีหน้าเซ็ง แต่เปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเขาออกรถด้วยความแรง เธอก้มหน้าลง ปิดตาแล้ว... “กรี๊ดดดดดด” เขาหัวเราะสนุก ยิ่งเห็นเธอกลัวก็ยิ่งแกล้ง “ปิดตาอย่างนั้นแล้วจะดูข้างทางได้ยังไง” “คุณลดระดับความเร็วลงสิ” “ตกลงๆ ผมขอโทษที่ทำให้กลัว” เขายอม เพราะไม่อยากทรมานหญิงสาว “ตอนนี้ยังเย็นอยู่ บรรยากาศไม่สวยเท่าตอนกลางคืน ผมจะไปหาของอร่อยกินแถวนอกเมืองก่อน คุณโอเคไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเส้นทางเบื้องหน้า ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงสายใหญ่ที่วางอยู่ระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยตึกเก่าแก่สุดคลาสสิกลดหลั่นอัดแน่นสลับซับซ้อน “สวยจัง” “ถนนนิวบูรี่ มีทุกอย่าง ตั้งแต่เก่ายันใหม่ ถ้าคุณอยากช็อปปิ้งล่ะก็...” “ไม่ค่ะ ฉันไม่ชอบช็อปปิ้ง” เธอไม่มีเงินมากกว่า “ร้านอาหารที่คุณจะไปกิน อยู่ไกลจากที่นี่มากไหมคะ” “ทำไม คุณไม่ไว้ใจผมเหรอ” “ค่ะ” เธอตอบตรงจนเขาตกใจ “ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า” ถึงคิดจะทำก็หมดอารมณ์ตั้งแต่วินาทีนี้แล้ว ทำหน้าทำตาอย่างกับนั่งรถมากับฆาตกรโรคจิต “สบายใจได้ ผมไม่เคยบังคับใคร” “ที่คุณบอกว่าไม่ได้ช่วยฉันฟรีๆ แต่ให้ฉันมานั่งรถเล่นกับคุณเป็นการตอบแทน ฉันแอบคิดว่าคุณอาจจะ...” “อาจจะขออึ๊บคุณในรถอย่างนั้นเหรอ” เธอหน้าแดงเถือก “ก็สายตาคุณหื่นตลอดเวลา” “ผมหื่นตลอดเวลา แล้วคุณก็ยังมากับผมนี่นะ” “ฉันไม่มีทางเลือกนี่ แต่คุณเห็นแล้วใช่ไหม ที่ฉันเตะผ่าหมากไอ้บ้านั่น” เขากลืนน้ำลายเฮื้อก “เห็นสิ” “ฉันขอเตือนนะคะ อย่าทำอะไรฉันเด็ดขาด ฉันไม่อยากทำร้ายผู้มีพระคุณ” ชายหนุ่มหน้าเหวอ เขาไม่พูดอะไรอีกเลย กระทั่งเลี้ยวรถเข้าจอดบริเวณหน้าผับแห่งหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศภายนอกดูไม่พลุกพล่านสักเท่าไหร่ เวลานี้ท้องฟ้าระบายด้วยสีดำไปแล้ว “ไปดื่มกันหน่อยนะ” “ฉันไม่ดื่มค่ะ” “เต้นก็ได้” “ฉันเต้นไม่เป็น” ชายหนุ่มหน้าเหวอ นี่เขาพาแม่ชีมาเที่ยวผับใช่ไหม “แล้วคุณจะเอายังไง” “ฉันอยากไปนั่งเล่นที่อ่าวแบ็กมากกว่า อยากเห็นบรรยากาศสวยๆ อบอุ่นๆ ยามค่ำคืน” “แต่ผมหิว” “ฉันก็หิว เราแวะซื้อของกินในร้านสะดวกซื้อก็ได้นี่คะ” ในที่สุด เขาก็ยอมทำตามคำร้องขอจากหญิงสาว โดยไม่รู้ตัว เขาลืมปฏิเสธหญิงสาวไปได้อย่างไร จอมทัพขับรถพาหญิงสาวกลับมาที่อ่าวแบ็ก แล้วจอดรถใกล้กับสวนสาธารณะ เพื่อให้หญิงสาวได้สัมผัสบรรยากาศเมืองบอสตันยามค่ำคืน ก่อนหน้านี้เขาจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อริมทาง เขาเข้าไปซื้ออาหารฟาดฟู๊ดสองสามอย่างและน้ำดื่มสองขวดสำหรับล้างปาก และหนึ่งในสินค้าที่เขาซื้อมาพกไว้เล่นๆ เผื่อต้องใช้งานฉุกเฉินในค่ำคืนนี้ก็คือ...ถุงยางอนามัย!!! “อธิษฐานสิ เขาว่าถ้าขอกับอ่าวแบ็กจะได้มาบอสตันอีก” “ขี้โม้ ฉันไม่เห็นเคยได้ยินเลย” “ตามใจ ผมแค่บอกให้ฟัง” หญิงสาวหลับตาลงแล้วอธิษฐานทันที ชายหนุ่มหันมองด้วยหัวใจหวั่นไหว ไม่รู้เขาเป็นอะไรไป ถึงได้รู้สึกหายใจติดขัด สติไม่อยู่กับร่องกับรอยตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อได้จ้องมองเธอในขณะที่เธอไม่รู้ตัว ‘น่าจูบชะมัด’ ริมฝีปากของหญิงสาวยามขยับขึ้นลงเล็กน้อย แผ่วเบา ทว่า เขากลับเห็นความเย้ายั่วยวนใจ อยากตรงเข้าไปฉก งับ ดึงแล้วเคี้ยวเล่นให้แหลกคาปาก ‘ขอให้ง่ายทีเถอะ’ เขาแอบภาวนาให้ตัวเองสมหวัง อย่างไรเสีย คืนสุดท้ายก่อนบินกลับเมืองไทย เขาควรได้รับความสุขจากสาวไทยคนนี้อย่างถึงพริกถึงขิงเป็นรางวัล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม