วิญญูเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งกับเธอ ด้วยสายตาที่ไม่พอใจและเคืองแค้น
“ยังอยู่ด้วยกันจริง ๆ พี่ต้องเชื่อแล้วสินะว่าขวัญกับมันเป็นผัวเมียกันจริง ๆ”
“พี่เป๊ก พูดให้มันดี ๆ หน่อยค่ะ เราเป็นแค่...แฟนกัน”
หนุ่มใหญ่เดินมาถึงโต๊ะ ก้มลงมองใบหน้าหญิงสาว ด้วยสายตาเย้ยหยัน “ขามาก็คงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาหรอกนะ แต่ขากลับคง...ไม่เหลืออะไรแล้วมั้ง”
“เหลือไม่เหลือแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” จอมทัพถามแทรกขึ้นด้วยอารมณ์เย็นเยือก ไร้ความฉุนเฉียว ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะพร้อมนับตัวเลขในใจ “ถ้าคุณยังขืนพูดจาดูถูกเธออีกล่ะก็ ผมจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วนะ”
วิญญูหัวเราะหึ ๆ แต่แอบกลัว “ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก แค่แวะมาเตือน อย่าคิดว่าแค่สวยแล้วจะอยู่วงการนี้ได้ เธอไม่กระเด็นหลุดจากวงการในวันสองวันนี้ แต่อีกไม่นานหรอก...ก็แค่นางแบบโนเนม!!!”
“คุณก็เหมือนกัน...อีกไม่นานหรอก”
“อย่าค่ะ” หญิงสาวปรามชายหนุ่มไว้ ก่อนหันมองวิญญู ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พี่เป๊กอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ ถ้ามันจะทำให้พี่มีความสุข ส่วนขวัญ จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป เท่านั้นเอง ขวัญเข้ามาก็ไม่เคยหวังชื่อเสียงอยู่แล้ว ขวัญไม่จำเป็นต้องดังหรอกค่ะ”
จอมทัพอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มมุมปาก ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากนางแบบสักคนบนโลกใบนี้ นางแบบอินเตอร์หลายคนที่เขาเคยนอนด้วย พวกหล่อนกระหายทั้งเงินและงาน ยินดีใช้ร่างกายเป็นสินค้าขายปลีกเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต และดูเหมือนเจ้าตากล้องบ้ากามก็อึ้งไปเหมือนกัน เขาไม่พูดอะไรอีก นอกจากทิ้งสายตาหยามเหยียดแล้วเดินลิ่วออกจากร้านกาแฟไป
“คุณเป็นนางแบบ?”
“ฉันเพิ่งเข้าวงการน่ะค่ะ ยังเป็นแค่มือสมัครเล่น”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ “เป็นอาชีพที่...ผู้หญิงสวย ๆ เป็นกัน”
ขวัญชนกยิ้มบาง ๆ เธอมองไม่เห็นแววตาดูถูกนิด ๆ ของชายหนุ่มที่เธอเผลอรู้สึกดีด้วยในหลายเสี้ยววินาที หากแต่ก็ย้ำเตือนตัวเองทุกครั้งว่ามันเป็นเพียงความฝันเล็ก ๆ ในบอสตันเท่านั้น
“ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉันไว้อีกแล้ว” เขาปกป้องเธอจากหัวงูตัวใหญ่ของวงการ ถึงเธอจะไม่รอดจากน้ำมือของวิญญู ต้องระเห็จออกจากวงการนี้ไปเพราะถูกกลั่นแกล้ง เธอตั้งใจว่าจะลองสู้ให้ถึงที่สุดก่อน หากเธอไม่เหมาะกับวงการนี้จริง ๆ เธอถึงจะยอมแพ้
“ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนี่”
“เขาคงโกรธคุณมาก ถ้าเขาพาลมาเล่นงานคุณ...”
“ผมไม่กลัวหรอก ความจริง ผมไม่รู้จักคำนี้ด้วยซ้ำไป” ความหยิ่งยโสในแววตาของเขาไม่ได้ทำให้ความรู้สึกหลงใหลที่เธอมีต่อเขาลดน้อยถอยลงไปเลย ยิ่งเขาทำท่าทางโอหังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีเสน่ห์ “คนที่คิดจะทำลายหรือทำร้ายเราจริงๆ เขาไม่มาพูดโต้งๆ มาชี้หน้าขู่แบบนี้หรอก หมอนี่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด กระจอกซะด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นผม ผมจะจัดการศัตรูอย่างเงียบเชียบที่สุด ไม่ทำให้ศัตรูตื่นหรือรู้ตัวก่อนหรอก แบบนั้นไม่สนุก”
เขาเผยตัวตนด้านมืดให้เธอรู้อย่างยโสและภูมิใจเสียอย่างนั้น เล่นเอาเธอไปต่อไม่ถูกเลย
“คุณยังไม่รู้จักเขาดีพอ”
“แล้วคุณรู้จักเขาดีเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว แน่ล่ะว่า หากเธอรู้จักเขาดีพอ ก็คงไม่ตกลงมาทำงานกับเขาไกลถึงบอสตัน จนเกือบจะโดนเขาเจาะไข่แดงแลกกับงานหรอก
“ค่ะ ฉันโง่เอง ฉันมองโลกสวย มองโลกในแง่ดีเกินไป ก็เลยหลงเชื่อคนง่ายๆ แต่ต่อไป ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น จะไม่หลงกลผู้ชายคนไหนอีกแล้ว”
“เอาเป็นว่า เก็บไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน คนเรามันก็ต้องเจอเรื่องผิดพลาดกันบ้าง มันถึงจะโต อย่าโง่ซ้ำสองให้ใครหลอกอีกก็แล้วกัน เพราะถึงตอนนั้นจะมีแต่คนเหยียบ”
ขวัญชนกหยิบถ้วยกาแฟขึ้นจิบ เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มร้อนระอุเสียยิ่งกว่ากาแฟของเธอเสียอีก และยิ่งไปกว่านั้น แววตาของเขาที่ดูดุดันยิ่งขึ้น ฉายแววของความเร่าร้อนยิ่งกว่าตอนที่วิญญูมองเธอเสียอีก หากเขาจงใจให้เธอรู้สึกกลัวเขาด้วยล่ะก็ ไม่เลย เธอกลับชอบแววตาแบบนี้ของเขา เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ฉันจะถือว่ามันเป็นบทเรียนราคาแพงก็แล้วกันค่ะ หาซื้อที่ไหนก็ไม่มีขาย”
“ใช่ ไม่มีขายที่ไหนหรอก แต่ต่อไป เมื่อคุณเข้าใกล้ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น คุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นเอง”
เธอเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัยใคร่รู้ “แข็งแกร่ง...แข็งแกร่งยังไงคะ”
“รอเวลาหน่อย ถ้าอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง คุณต้องอยู่วงการนี้ให้ได้ อยู่ต่อไป”
“คุณพูดเหมือนคุณก็อยู่วงการนี้เหมือนกัน”
เขาไม่ได้บอกใคร แม้แต่คนในครอบครัว เรื่องการทำงานฟรีแลนด์ในฐานะตากล้องมืออาชีพที่สตูดิโอใหญ่ในอเมริกา เขาถ่ายภาพนางแบบนายแบบมาเป็นพันคนแล้ว และได้เงินมามากมายกับอาชีพนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะยึดมันเป็นอาชีพหลัก เพราะที่สุดแล้ว เขาต้องกลับไปเป็นผู้บริหารของเอื้ออังกูรไกลกรุ๊ป ตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับบิดามารดา
“ทุกวงการก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ มีทั้งคนดีคนเลว คนเอาเปรียบ คนได้เปรียบ คนฉลาด และคนโง่ มันอยู่ที่เราจะรับมือได้มากน้อยแค่ไหน”
“แล้วคุณเป็นคนแบบไหนคะ”
ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เธอถามได้ตรงประเด็นดี “ผมเป็นคนประเภท...ประสบความสำเร็จในงานที่ทำ...ทุกงาน”
“ประสบความสำเร็จ”
“ผมอยู่ในประเภทฉลาดน่ะ”
และค่อนข้างหลงตัวเองไม่น้อย หญิงสาวแอบยิ้มขำ “ที่คุณประสบความสำเร็จ ฉันคิดว่าเป็นเพราะคุณมั่นใจในตัวเองมากกว่าค่ะ”
“เปล่า แต่เป็นเพราะผมเป็นคนฉลาดที่เลวต่างหาก”
หญิงสาวมองอึ้ง เขาหัวเราะ ยกไหล่ ไม่เห็นเป็นเรื่องประหลาดตรงไหน เขาพูดความจริง
“ฉลาดไม่ได้อยู่ที่ไอคิวอย่างเดียวนะคุณ แต่ต้องฉลาดที่จะเอาตัวรอดด้วย”
“นั่นคือสังคมที่เห็นแก่ตัว คุณกำลังจะบอกว่าฉันควรจะเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่นให้เป็น...”
“สู้กับคนเลว มันก็ต้องเลวกว่าสิ”
เธอไม่เห็นด้วยกับตรรกะบ้าบอคอแตกของเขาจริงๆ “สู้ด้วยความดีไม่ดีกว่าหรือคะ”
“ดีกว่ารึเปล่า คุณก็เห็นแล้วนี่” เขาจ้องมองเธอ เพื่อให้เธอรู้ตัวว่าคนดีถูกกระทำอย่างไร “ต่อไป คุณจะได้เห็นอีกเยอะเลย...เอาล่ะ...ผมไม่อยากคุยซีเรียสกับคุณแล้ว มันเสียเวลาของการเป็นคนรักชั่วคราวกัน”
ขวัญชนกเห็นด้วยกับเขาในข้อนี้ เธอก้มใบหน้าลงนิดหน่อย หยิบแก้วน้ำเปล่ามาดื่มดับคอที่แห้งผาก ก่อนวางลงที่เดิม แล้วเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง
“คุณบอกว่าจะกลับเมืองไทยเหมือนกัน จะกลับไปอยู่เลยหรือว่าไปชั่วคราวคะ”
“ทำไมเหรอ” เขายิ้มร้าย ทำตาหวานเชื่อมแบบล้อเลียนเสียมากกว่า “ทำไมอยากรู้เรื่องผม”
เธอทำหน้าแทบไม่ถูก “ฉันไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอกค่ะ มันเป็นแค่มารยาท คุณจะให้ฉันคุยแค่เรื่องดินฟ้าอากาศกับคุณหรือคะ ไหนๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่”
“ใช่ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันอยู่นี่นา” เขาแสดงเสียเหมือนจริง โดยการยื่นมือมากุมมือเย็นเฉียบของเธอไว้แล้วบีบเบาๆ เธอจะดึงกลับ เขารั้งไว้ ทำตาขวางใส่ “ตอนนี้ไม่ใช่แค่สองสาวที่แอบจ้องเราอยู่ แต่ไอ้หัวงูนั่นด้วย ถ้าคุณไม่อยากให้พวกนั้นจับได้ กรุณาแสดงให้เนียนๆ หน่อย เข้าใจ”
หญิงสาวอ้าปากค้าง หน้าเซียวขึ้นมาทันใจ “จริงหรือคะ พี่เป๊กก็ยังเฝ้าเราอยู่เหรอ กลับไปเนี่ย ฉันต้องรีบไปเข้าวัด ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วจริงๆ”
สีหน้าร้อนใจของเธอทำให้เขารู้สึกตลก ไหนบอกว่าจะฉลาดขึ้นไง เขาโกหกแค่นี้ก็เชื่อเสียแล้ว
“อืม...ทำบุญครั้งใหญ่เลยล่ะ” โดยเฉพาะการที่เธอได้เจอเสือร้ายชอบเอาเปรียบผู้หญิงอย่างเขา “แต่ตอนนี้ ต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน จริงไหม”
ชายหนุ่มดึงมือเธอมาหาตัว แล้วก้มลงจูบบนหลังมือเย็นเฉียบแต่หอมนุ่ม หญิงสาวตกใจมาก เกือบจะดึงมือกลับอีกรอบ เขารู้ทัน รั้งมือเธอไว้แล้วเอามาแนบแก้มสากๆ อุ่นๆ ของเขาแทน
“ทำอะไรของคุณ”
“ผมไม่จูบคุณก็บุญเท่าไหร่แล้ว...ที่รัก”
เธอทำหน้าแทบไม่ถูก “คุณจะบ้าเหรอ แค่อยู่ด้วยกัน พวกเขาก็คงเชื่อแล้วล่ะ ไม่ต้องสมจริงมากก็ได้”
“อย่าอ่อนต่อโลกนักเลย อย่าว่าแต่คนพวกนั้นเลย คนทั้งร้านคิดว่าเราได้กันแล้วด้วยซ้ำไป”
“ว๊าย!” เธอเผลออุทานเสียงดัง ก่อนหันมองโต๊ะข้างๆ เพื่อค้อมศีรษะขอโทษที่รบกวน “คุณไม่ต้องพูดตรงมากก็ได้นะคะ ฉันเป็นแค่เด็กบ้านนอก ไม่ใช่เด็กเมืองนอก ฉันเรียนรู้วัฒนธรรม แต่ไม่นำมาใช้ สาวไทยอย่างฉันไม่นิยมอยู่ก่อนแต่งแน่นอน”
เธอพูดอย่างห้าวหาญ พร้อมดึงมือกลับ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม หลิ่วตาซ้ายขวา ก่อนขยับใบหน้าเข้าใกล้เธออีก
“ไม่นิยมอยู่ก่อนแต่ง แต่มีเซ็กซ์กันบ้างบางคราวได้ไหม”
เธอผึ่งตาโต อายจนแก้มแดงปลั่ง “ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ไปดีกว่า”
ขวัญชนกรีบลุกจากโต๊ะ แล้วเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มนั่งต่อแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น เขายิ้มร้าย ก่อนลุกแล้วเดินตามหญิงสาวไป ทั้งคู่เดินเคียงกันไปตามทางเดินที่ผู้คนเดินสวนกันไปมาพลุกพล่าน อลหม่าน เนื่องจากมีผู้โดยสารตกค้างเยอะ และผู้โดยสารขาออกส่วนหนึ่งที่ยังไม่สามารถออกจากสนามบินได้ เพราะพายุหิมะยังกระหน่ำอยู่อย่างไม่ขาดสาย
“อย่าเดินเร็วนักสิ เดินให้เหมือนคู่รักกันหน่อย”
“คู่รักที่ให้เกียรติกัน แค่เดินใกล้ๆ ปกป้องดูแลแบบสุภาพบุรุษก็ได้ค่ะ”
“คุณอยากได้ผู้ชายแบบนั้นเหรอ ผู้ชายที่ไม่ยอมแตะต้องคุณ ผมจะบอกให้ ผู้ชายแบบนั้นไม่รักคุณจริงหรอก เพราะถ้ารัก ต้องอยากจับอยากจูบกับคุณตลอดเวลา ผมไม่ใช่แฟนแบบนั้นแน่ แบบนั้นเขาเรียกไอ้งั่ง”
เธอหยุดเดิน หน้าหงิก เขาเกือบชนหลังเธอแล้ว แต่เบรกทัน เธอหันกลับมา เพื่อจะด่าเขาสักชุด แต่เขากลับฉวยจังหวะนั้น จุ๊บแก้มนวลปลั่งอย่างแรง
“อุ๊ย!!!” เธอตกใจหน้าเหวอ ปากสั่นระริก “ทำบ้าอะไรของคุณ”
เขายิ้มสดใส ไม่ได้รู้สึกผิดว่าทำเกินไป “บอกแล้วว่าผมไม่ใช่ไอ้งั่ง”
“แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ นะ”
“ผมรู้” เขาพยักหน้า “นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ว่าทำไมนายวิญญูถึงยอมเสียเงินซื้อตั๋วพาคุณมาถึงที่นี่”
“เพราะเขาอยากนอนกับฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้”
“ไม่ใช่เลย” เขาส่ายหน้ายิ้มเย้ย ก้มเข้าใกล้ใบหน้าเธอจนเกือบประชิดกัน “เพราะเขารู้ว่าจะได้เปิดซิงคุณต่างหาก เขาต้องชอบคุณมากเลยล่ะ”
หญิงสาวตกใจตาโต กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ ทำไมเธอจะต้องมาฟังเรื่องแบบนี้ด้วย เธอหันหลังแล้วรีบเดินหนีเสือผู้หญิงตัวฉกาจที่น่ากลัวกว่าตากล้องหัวงูหลายเท่านัก
เขาเดินตามติด รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งหญิงสาวไร้เดียงสา ที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า เธอกำลังแสดงบทแสแสร้งหรืออ่อนต่อโลกของจริง
แต่ตราบใดที่เขายังไม่ได้สมใจอยาก เขาจะไม่เลิกตามตื๊อคุณแน่...ที่รัก