ไม่อยากให้คุณเกลียดผม

1366 คำ
“ฉันไม่ใช่ที่รักของคุณ ไม่ต้องมาเรียก มันกระดากหู ไม่ต้องอ้างด้วย ฉันดูแล้ว สามคนนั้นไม่ได้อยู่แถวนี้แน่” เธอพูดฉะฉาน ไม่เกรงกลัว สู้สายตาเขาอย่างเปิดเผย “ส่วนเรื่องพี่เป๊ก กลับถึงเมืองไทยแล้ว ฉันจะหาทางออก หาทางเอาตัวรอดของฉันเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วง” เขายกไหล่ “ผมไม่ได้เป็นห่วงคุณ ผมแค่เสียดายน่ะ” “เสียดายอะไร” “ถ้าคุณจำเป็นต้องเสียมันจริงๆ ในสักวัน” “หมายความว่ายังไง” “สักวันเมื่อคุณจนตรอก บางทีคุณอาจจำเป็นต้องใช้ของที่มีอยู่ดี” เขาใช้สายตาหยามมองตั้งแต่ดวงตาของเธอลงไปจนถึงส่วนล่างของเธอ หญิงสาวรู้สึกปากคอสั่นขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าเขากำลังดูถูกเธออยู่ “ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอกนะคุณ เงินกับความก้าวหน้าในอาชีพต่างหาก ที่ทำให้คุณไม่อด” หญิงสาวรู้สึกโกรธจนตัวสั่น “สรุปคือ ฉันควรจะขายตัวเพื่ออนาคตใช่ไหม” “เปล่าเลย คุณไม่ควรขาย ถ้าคุณฉลาด คุณควรจะให้ฟรีด้วยซ้ำไป แบบแฟร์ๆ น่ะ” ขวัญชนกทนไม่ไหว ห้ามฝ่ามือไม่อยู่ เงื้อมือขึ้นจะตบชายหนุ่มสักฉาดให้หายปากเสีย แต่เขารู้ทันจับแขนเธอไว้แล้วดึงร่างแบบบางเข้ามาแนบลำตัว จนใบหน้าเกือบชิดกัน ลมหายใจประสานกัน สายตาจับจ้องมองกันแทบจะทะลุเข้าไปถึงสมอง “ถ้าคุณตบผม คุณไม่รอดไอ้พี่เป๊กนั่นแน่” “คุณก็ไม่รอดเหมือนกัน” “ผมกำลังจะกลับเมืองไทย สองคนนั้นไม่ถ่อไปตื๊อผมที่โน่นหรอก คิดดูให้ดีๆ” หญิงสาวกัดฟันกรอด แต่พยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด “ที่คุณพูดตะกี้ก็จริงนะ ฉันควรจะคิดให้ดีๆ ว่าศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้ เงินและอนาคตต่างหากที่สำคัญ เพราะอย่างนั้น ฉันควรจะกลับไปหาพี่เป๊ก ว่าไหม” ขาดคำนั้น เจ้าหล่อนก็กระทืบเท้าลงบนหลังเท้าของชายหนุ่มอย่างแรง แม้รองเท้าหนังราคาแพงก็ไม่อาจลดความเจ็บปวดลงได้ ชายหนุ่มร้องลั่นตัวงอ จับเท้าของตัวเองขึ้นโดยอัตโนมัติ “สมน้ำหน้า” ขวัญชนกยิ้มเหี้ยม เดินถอยห่างเขาหลายก้าว “เราเลิกกันแค่นี้นะคะ...ที่รัก” “ยัยบ้า!!!” จอมทัพกัดฟันกรอด อยากจะตามไปไล่บี้สาวไทยตัวแสบเดี๋ยวนั้นเลย แต่ทำไม่ได้เพราะเจ็บเท้า เขาเห็นสายตาของผู้คนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปมา ต่างแอบยิ้มแอบหัวเราะที่เขาโดนผู้หญิงเล่นงาน เขายิ่งเจ็บใจเข้าไปใหญ่ “ตัวแสบเอ๊ย ลืมไปแล้วรึไงว่าเป็นหนี้ใครอยู่” บ่นพลางกำลังจะเดินต่อ แต่กลับต้องชะงักเพราะสองสาวพุ่งเข้ามาคว้าแขนเขาไว้คนละข้าง แบบไม่ทันตั้งตัว และตั้งสติ “แองจี้...เคส...พวกคุณยังไม่กลับอีกเหรอ” “ในที่สุด คุณก็ทิ้งแม่นั่นจนได้” แองจี้ยิ้มเยาะ “ผมนี่นะ ทิ้งแม่นั่น” เขาล่ะงง เขาโดนตบแล้วเจ้าหล่อนก็ลากกระเป๋าจากไปไม่ใช่เหรอ “ใช่ค่ะ คุณรู้แล้วใช่ไหม ว่าระหว่างอึ๋มๆ อย่างฉันกับแบนแตร๋อย่างมัน ใครถึงใจกว่า ไปค่ะ กลับอพาร์ตเม้นต์สุดหรูของคุณกันค่ะ” “พอก่อนเหอะ ทั้งสองคน กลับไปซะ ผมต้องกลับบ้าน” “กลับไปทำไมคะ อยู่ที่นี่เถอะ เราสองคนตกลงกันแล้วว่าจะยอมอยู่กันสามคน” “สามคน!!!” “สลับวันกันก็ได้” เคสไล้ลูบแผ่นอกของเขาจนเขาสยิว “หรือจะพร้อมกันก็ไม่เกี่ยง” “นะคะที่รัก เรายอมถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังอยากจะหนีพวกเราไปอีกเหรอ” จอมทัพหลับตาแน่น เขาจะทำอย่างไรดี ถึงจะสลัดสองสาวจอมตื๊อนี่ออกไปจากชีวิตได้ เพราะน่ารำคาญทั้งคู่ แถมพูดไม่รู้เรื่องด้วย “ผมไม่ได้หนี และผมยัง...” “ที่รักค่ะ” เสียงนั้นดังมาแต่ไกล เขาหันไปมองพร้อมหญิงสาวหุ่นสะบึมสองนางที่เกาะแขนเขาอยู่ เป็นสาวไทยตัวแสบของเขาที่กำลังเดินหนีวิญญูมาอย่างกับหนีผี “อยู่นี่เอง ตะกี้ขวัญขอโทษนะคะ ที่ขวัญพลั้งมือไป” “ที่รัก” เขาสลัดมือสองสาวออก แล้วพุ่งไปหาขวัญชนก หญิงสาวโผเข้ามาหาเขา หวังว่าจะจับมือ แต่เขากลับคว้าเธอไปจูบอย่างดูดดื่มลืมตาย จนทุกคนมองตาค้าง โดยเฉพาะขวัญชนกที่ช็อกตาตั้ง แองจี้กับเคสสะบัดหน้าใส่จอมทัพพร้อมกันทั้งคู่ ก่อนเดินแยกย้ายไปคนละทาง วิญญูยังยืนมองอยู่ ด้วยสายตาลุกเป็นไฟ ที่เขายังเฝ้ามอง เพราะไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าขวัญชนกมีคนรัก โดยเฉพาะคนรักที่ดูเป็นหนุ่มเพลบอยด์แบบนี้ กระทั่งวินาทีนี้ “ผมคิดว่าคุณจะทิ้งผมไปแล้วซะอีก” เขาผละออก แล้วมองเธอตาหวานเชื่อม เธอทำหน้าแทบไม่ถูก เพราะยังงง ช็อกและตื่นเต้นไม่หาย จูบแรกของเธอถูกเขาขโมยไปเสียแล้ว อย่างหน้าด้านๆ แต่เธอจะทำอย่างไรได้ เธอต้องเอาตัวรอดจากคนอันตรายอย่างวิญญู ที่พร้อมจะฉกชิงความเป็นสาวเธอไปทุกลมหายใจ “ฉันก็แค่...อยากให้คุณง้อ...” เธอแค่นยิ้ม ไม่ทันระวัง เขาก้มลงจุ๊บริมฝีปากเธอซ้ำ “หือมมมม...” “อย่าหนีผมไปอีกนะ อย่าอยู่ห่างผมเด็ดขาด” เธอยิ้มให้เขา แต่สายตาเหี้ยม กระซิบกระซาบรอดไรฟัน “พอแล้วนะ อย่าเยอะ” จอมทัพหัวเราะชอบใจ คว้าเธอมากอดอย่างแรง เอาเปรียบเธอเข้าไว้ เห็นแก่ตัวอย่างเต็มที่เมื่อโอกาสมันเอื้ออำนวย เขาเหลือบไปเห็นวิญญูที่ยังยืนมองด้วยความปวดร้าว ก่อนจะหันหลังแล้วเดินไปอย่างเร็ว คนชมละครตบตาพากันกลับหมดแล้ว นักแสดงก็ควรจะหยุดแสดงเสียที แต่เขาไม่หยุด เรื่องอะไรจะหยุด อากาศยิ่งหนาวอยู่ด้วย เนื้อหนังมังสาจากกายอุ่นและหอมหวานจากหญิงสาว ดีเยี่ยมกว่าเสื้อโค้ทราคาแพงจากห้องเสื้อชื่อดังเสียอีก แล้วเขาจะปล่อยให้เสื้อกันหนาวหลุดมือไปทำไม สวมใส่เสียเองไม่ดีกว่าหรือ “เมื่อไหร่จะปล่อยคะ ปล่อยได้แล้ว” “เขายังไม่ไปเลย คนของคุณ” “เขาไม่ใช่คนของฉัน” “เออน่า คนที่คิดจะงาบคุณนั่นแหละ” “เฮ้อ...ทำไมฉันจะต้องมาเจอเหตุการณ์บ้าบอแบบนี้ด้วย” เธอบ่นด้วยความเจ็บใจ “เพราะคุณสวยยังไงล่ะ” เธอสะดุดคำพูดของเขา ผละตัวออกห่าง แล้วมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้เพียงนิดเพื่อจับความรู้สึกที่แท้จริงของเขา ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งจะเคยได้ยินผู้ชายพูดประโยคนี้กับเธอ เธอฟังมาบ่อย ฟังมาจนชินแล้ว แต่เธอไม่ชินที่ออกมาจากปากของผู้ชายยโสคนนี้ เธอไม่ไว้ใจ เขาต้องการอะไรกันแน่ “ขอบคุณนะคะที่ไม่ตอบว่าเพราะฉันโง่” เขายิ้มเอ็นดู แต่แววตายังร้าย “น่าเสียดายที่เราอาจไม่ได้เจอกันอีก” “ทำไมล่ะคะ” “เพราะผมอยากให้คุณรู้จักผมแค่นี้” “ฉันไม่เข้าใจ” “ก็ถ้าเกิดคุณรู้จักผมมากขึ้น คุณอาจจะเกลียดผมน่ะสิ ผมเลวกว่าที่คุณคิดเยอะ” เธอหน้าตื่น “ถึงขั้นเลวเลยหรือคะ อย่าบอกนะว่าคุณทำเรื่องผิดกฎหมาย” “อืม ผมไม่บอกคุณหรอก เพราะถ้าคุณรู้ คุณก็ตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไง” เขายกข้อมือขึ้นดูเวลาจากนาฬิกาเรือนแสนที่สวมใส่ “ผมควรจะไปขึ้นเครื่องเสียที” “ฉันก็เหมือนกันค่ะ” เธอยังได้ยินเสียงประกาศจากสายการบินเที่ยวที่เธอโดยสารร้องเรียกให้ผู้โดยสารเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในอีกครึ่งชั่วโมง “เราควรบอกลากันตรงนี้รึเปล่า” “ก็ถ้าคุณต้องการ” “ถ้าอย่างนั้น” เธอลังเลอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น “ลาก่อนนะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม