- ช่วงค่ำของวัน -
น้ำมนต์ยังนอนหลับไม่ยอมตื่นพยาบาลถืออาหารมื้อเย็นมาวางไว้ให้จนเย็นชืดดินแดนก็ไม่คิดที่จะปลุกให้อีกคนตื่นขึ้นมากินข้าว ร่างหนาเอาแต่นั่งอ่านงานในมือเงียบๆเพราะความรู้สึกเบื่อที่จะต้องมานั่งเฝ้าไข้อยู่เฉยๆเลยโทรบอกให้เลขาเอางานมาส่งให้ที่โรงพยาบาล…
Rrrrr…Rrrrr
เสียงมือถือราคาแพงดังขึ้นดินแดนหยิบมันมาดูพบว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง
สายเรียกเข้า
คราม
“ อืม…ว่า ”
“ มึงออกมาไหมคืนนี้กูกับไอ้ราชันย์กำลังไปส่วนไอ้เหี้ยอเล็กซ์ไปคั่วสาวรออยู่แล้ว “ ครามเอ่ยบอกเพื่อนในขณะที่เขากำลังเดินทางไปดื่มที่ร้านประจำ
” ….. “ ดินแดนเงียบไปทันทีก่อนจะปรายตาไปมองยังน้ำมนต์ที่หลับอยู่บนเตียง
พรึบ!
” อืม…เดี๋ยวกูตามไป “ ดินแดนเอ่ยบอกและตัดสายเพื่อนไปทันที มือหนาเก็บเอกสารต่างๆกลับเข้าแฟ้มก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูงและสาวเท้าเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยทิ้งน้ำมนต์ไปอย่างไม่คิดใยดี
” เห้ย! ไอ้ดินมึงไปไหนวะ “ หมอธันที่กำลังจะเดินเข้าห้องผ่าตัดเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนเดินผ่านไปคิ้วคมเลิกขึ้นอย่างต้องการคำตอบเวลานี้มันควรอยู่เฝ้าคนป่วยไหม
” ไม่ใช่เรื่องของมึง “ ดินแดนเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยพอใจนักและสาวเท้าเดินตรงไปยังรถหรูของเขาที่คนขับรถขับมาจอดทิ้งไว้ให้
” หมอธันค่ะ ห้องผ่าตัดพร้อมแล้วค่ะ“ พยาบาลเดินมาเอ่ยเรียกหมอให้ไปทำหน้าที่แต่ใจแกร่งกลับนึกเป็นห่วงน้ำมนต์ที่นอนป่วยอยู่ในห้องพักมากกว่าเขากลัวว่าดึกๆเมื่อหมดฤทธิ์ยาแล้วน้ำมนต์จะมีไข้ขึ้นอีก
” ครับ “ เมื่อภาระหน้าที่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้หมอธันรับคำพยาบาลสาวและสาวเท้าเดินตามเข้าไปในห้องผ่าตัด ก่อนจะละทิ้งความเป็นห่วงเป็นใยทั้งหมดมาตั้งหน้าตั้งตาผ่าตัดให้คนไข้วิกฤตจนเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง
“ อือ ! หนาว ” เสียงแหบแห้งเอ่ยเบาๆในลำคอเมื่ออาการร้อนๆหนาวๆเกิดขึ้นกับตัว แขนเรียวนอนกอดตัวเองไว้แน่นเพราะน้ำมนต์รู้สึกเจ็บปวดเข้าไปถึงกระดูกอุณหภูมิความร้อนพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อหมดฤทธิ์ยา
“ แม่ พี่กร ” น้ำมนต์เอาแต่นอนเรียกผู้เป็นแม่และพี่ชายแต่ทว่ามันกลับเงียบครั้นจะลืมตาลุกขึ้นมาหายากินเองอย่างเช่นทุกเธอกลับทำมันไม่ได้น้ำมนต์เอาแต่นอนสะลึมสะลือทนเจ็บปวดอยู่นานสองนาน
แกร๊ก…
เสียงประตูห้องเปิดเข้ามาตามด้วยร่างหนาของหมอธันที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดก็ตรงมาหาคนป่วยในห้องนี้ทันที
“ น้องน้ำมนต์ ! ” หมอธันเอ่ยเรียกเสียงหลงเมื่อเห็นคนป่วยใบหน้าซีดเซียวอีกครั้งก่อนจะมองไปยังถาดอาหารและยาที่ยังวางอยู่ที่เดิม มันไม่ผิดไปจากที่เขาคิดเอาไว้เลยว่าน้ำมนต์ต้องไข้ขึ้นอีกแน่
“ น้องน้ำมนต์ น้องน้ำมนต์ได้ยินที่พี่เรียกไหม ” หมอธันเอ่ยเรียกน้ำมนต์หลายครั้งแต่คนป่วยเหมือนกำลังจะหมดสติเพราะพิษไข้กำลังเล่นงานเธออย่างหนัก
“ ขอยาลดไข้มาห้อง 355 ด่วน “ มือหนาของหมอธันกดปุ่มเนิสคอลเรียกพยาบาลใบหน้าหล่อเหลาได้รูปดูเคร่งเครียดขึ้นมาในใจเอาแต่ด่าทอดินแดนที่ทิ้งให้น้ำมนต์นอนเป็นไข้จับสั่นอยู่คนเดียว
” ยามาแล้วค่ะคุณหมอ “ พยาบาลสาวรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมถาดอุปกรณ์ที่ภายในมือเข็มฉีดยาและยาลดไข้สำหรับผู้ป่วย หมอธันไม่รอช้าลงมือฉีดยาเข้ากระแสเลือดให้คนป่วยในทันทีอุณหภูมิความร้อนที่พุ่งสูงครั้นจะให้กินยาคนป่วยคงต้องนอนทนอีกพักใหญ่กว่าไข้จะลดลงการฉีดคงรวดเร็วกว่า
“ ญาติคนไข้ไปไหนคะ ” พยาบาลสาวหันมองทั่วห้องก็ไม่เห็นญาติคนไข้จึงเอ่ยถามหมอออกไป
“ ผมก็ไม่รู้ ”
“ ดีนะคะคุณหมอแวะเข้ามาไม่งั้นคนไข้อาจจะช็อกได้เลยนะคะ “ พยาบาลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอาการไม่สู้ดีของคนไข้บนเตียง
” คุณหมออกเวรแล้วจะกลับเลยไหมคะ“ พยาบาลสาวเอ่ยถามเพราะเคสผ่านตัดที่เพิ่งผ่านไปคือเคสสุดท้ายของหมอธันในวันนี้ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วถึงเวลาที่หมอจะต้องกลับไปพักผ่อนอย่างเช่นทุกวันจึงเอ่ยถามออกไปตามหน้าที่
” คืนนี้ผมจะนอนที่นี่เดี๋ยวผมเฝ้าคนป่วยเอง“ หมอธันเอ่ยตอบอย่างไม่ต้องคิดเห็นแบบนี้จะให้เขาทิ้งเธอไปเขาทำไม่ลงจริงๆ
” ห๊ะ! เฝ้า ? “ พยาบาลสาวแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินถึงแม้หมอธันจะดูแลคนไข้ดีมากแต่นี่คงเป็นเคสแรกที่หมอเอ่ยปากเฝ้าเอง
” ผมรู้จักกับคนไข้ คุณพยาบาลมีงานอะไรก็ไปทำเถอะผมฝากเสื้อไปเก็บที่ห้องทำงานด้วย “ หมอธันถอดเสื้อกราวน์สีขาวส่งให้พยาบาลๆสาวเดินออกจากห้องคนไข้ไปอย่างว่าง่าย
“ ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ยาก็ไม่ได้กิน ไอ้เหี้ยดินมึงมันใจร้ายใจดำเกินคนไปแล้วไอ้สัส! ”
หมอธันเอ่ยพึมพำออกมามือหนาดึงผ้าห่มมาห่มให้คนป่วยและสาวเท้าเดินไปนั่งยังโซฟาแม้เขาจะเหนื่อยมากจากการเข้าเวรมาแต่ด้วยความเป็นห่วงร่างหนาก็ยังคงนั่งสังเกตุอาการคนป่วยไม่ลุกไปไหน ไม่ยอมหลับจนดึกจนดื่นและคิดว่าถ้าดินแดนกลับมาเขาก็จะกลับไปพักที่บ้านจนเวลาผ่านไป
- ตี 2:45 น. -
ก็ยังไร้วี่แววของดินแดน
- อีกด้าน -
@Cinderella Pub (ซิลเดอเรลล่า ผับ)
ชั้น 2 ห้อง VIP
ร่างหนาของนักธุรกิจหนุ่มที่พ่วงไปด้วยตำแหน่งมาเฟียยังนั่งกระดกดื่มเครื่องดื่มสีอำพันแก้วแล้วแก้วเล่าพร้อมกับสาวสวยอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกาย
“ ไอ้ดินมึงเรียกน้องเขามาก็สนใจน้องเขาบ้างสิวะเป็นเหี้ยอะไรของมึงเอาแต่ยก ” ครามเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนดื่มอย่างเดียวปล่อยให้สาวน้อยข้างกายนั่งเหงาจนจะเฉาตายอยู่แล้ว
“ กูไม่มีอารมณ์ไอ้สัส! เธอจะไปไหนก็ไป ” ดินแดนเอ่ยตอบเพื่อนและหันไปไล่หญิงสาวให้ลุกออกไป เขาหมดอารมณ์ไปกับทุกอย่างโดยที่เขาก็ไม่ทราบสาเหตุทั้งที่ความเป็นจริงเขาควรจะสบายใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องทนนั่งเฝ้ายัยเด็กนั่นที่นอนป่วยอยู่
“ ชิ! แล้วจะเรียกขึ้นมาทำไม ” หญิงสาวลุกเดินออกไปอย่างรู้สึกไม่ค่อยพอใจเพราะใครๆก็อยากโดน 4 หนุ่มที่แสนจะหล่อเหลาและกระเป๋าหนักเรียกใช้ทั้งนั้น
“ เป็นเหี้ยอะไรของมึง หงุดหงิดอะไรใครมาวะ ” อเล็กซ์เอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนนั่งหน้าบึ้ง หน้าตึง
“ …… ” ดินแดนก็เอาแต่เงียบใส่เพราะเขาไม่อยากเล่าอะไรให้เพื่อนฟังทั้งนั้น
“ อือ…พี่ครามหวานๆไม่ไหวแล้วนะคะเราไปต่อข้างบนกันไหม ” หญิงสาวที่ครามกำลังนั่งนัวอยู่เอ่ยขึ้น
“ ได้สิครับ กูไปก่อนเว้ยถ้ามึงอยากหายเครียดก็เรียกเด็กขึ้นมาจะนั่งเครียดทำเหี้ยไร ” ครามเอ่ยบอกดินแดนและควงสาวสวยเดินออกจากห้องไปทันที
“ กูก็ไปด้วยเว้ย “ อเล็กซ์เมื่อเห็นครามเดินออกไปตัวเขาเองก็ควงสาวน้อยข้างๆเดินตามเพื่อนออกไป
” กูก็ต้องไปก่อนวะเพื่อนมึงก็ไม่ต้องคิดนานเรียกเด็กมาสักคนทุกอย่างจบเชื่อกู ไปครับเราไปต่อกันที่เตียงดีกว่านั่งตรงนี้แตกยาก “ ราชันย์เอ่ยบอกดินแดนและหันไปบอกสาวด้านข้าง ทุกคนควงสาวขึ้นไปยังชั้น 3 ของผับที่มีห้องให้ใช้บริการเหลือเพียงดินแดนที่ยังนั่งนิ่งอยู่คนเดียว
แกร๊ก…
จู่ๆเสียงประตูห้องก็เปิดเข้ามาตามมาด้วยร่างบางของเชอรีนเจ้าของผับเธอเห็นเพื่อนของดินแดนทยอยเดินกันออกไปเธอเลยถือวิสาสะเดินเข้ามา
“ ทำไมนั่งคนเดียวละคะ ” เชอรีนเอ่ยถามพร้อมทิ้งสะโพกนั่งลงข้างๆร่างหนาที่เธอแสนคุ้นเคย
“ ฉันอยากอยู่เงียบๆเธอจะไปไหนก็ไป ” ดินแดนเอ่ยบอกพร้อมกระดกดื่มเข้าไปทีเดียวจนหมดแก้ว
“ ยังไม่ทันจะได้คุยกันเลยเอ่ยปากไล่เชออีกแล้วใจร้ายจังเลยนะคะ ไม่คิดถึงเชอบ้างเหรอเชอคิดถึงคุณตลอดนะ ” เชอรีนเอ่ยพูดนิ้วเรียวลากอยู่บนอกแกร่งผ่านเสื้อเชิ้ตราคาแพงที่ดินแดนสวมใส่อยู่
“ ฉันบอกให้เธอออกไปเธอก็ควรออกไปนะเชอรีนแล้วไม่ต้องมาคิดถึงฉันเพราะฉันไม่เคยคิดถึงเธอเลยและไม่ได้ติดใจในตัวเธอด้วย ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้ ” ดินแดนเอ่ยเสียงลอดไร้ฟันตาคมจ้องมองเชอรีนอย่างเอาเรื่อง ทำให้ร่างบางที่เห็นสายตาคมดุต้องลุกเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก
^^