MY MAFIA. 8

1578 คำ
MY MAFIA. 8 Vegus talk. ก็อกๆๆ "เข้ามา" พอผมพูดจบ คนที่เคาะประตูห้องทำงานผมเมื่อสักครู่มันก็เปิดประตูแล้วเดินเข้ามา ก่อนจะก้มศีรษะให้ผมเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น "ขออนุญาตครับนาย" "มีอะไร?" ผมถามไอ้หยางพร้อมกับก้มหน้าเซ็นเอกสารบนโต๊ะต่อ "นายท่านให้ผมเอาประวัติว่าที่นายหญิงมาให้ครับ แล้วพรุ่งนี้นายก็ต้องไปดูตัวตามคำสั่งของนายท่านด้วยครับ" พูดจบไอ้หยางมันก็เดินเอาแฟ้มประวัติมาวางบนโต๊ะทำงานตรงหน้าผม "อีกแล้ว?" ครับ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อหาผู้หญิงมาให้ผม และผมก็ไปดูตัวตามคำสั่งพ่อทุกครั้ง การแต่งงานสำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมไม่จำเป็นต้องแต่งกับคนที่ผมรักก็ได้ เพราะชีวิตนี้ผมไม่คิดจะรักใครมากกว่าตัวผมเองอยู่แล้ว แต่ที่ผมยังโสดอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะว่าผู้หญิงที่พ่อหามาไม่ถูกใจผม พูดง่ายๆ คือจืดชืด! ผมแต่งก็ใครก็ได้ก็จริง แต่เรื่องบนเตียงผมคงต้องขอแบบเด็ดๆ ซึ่งผมก็ลองกับผู้หญิงที่พ่อหามาให้ทุกคนนั่นแหละ แต่มันยังไม่มีใครเด็ดถูกใจผมสักคน... และก็ไม่ใช่ว่าพอแต่งงานไปแล้วผมจะมีแค่ภรรยาคนเดียวหรอกนะ...แต่ที่ผมต้องเลือกคือผมรู้ว่าผมต้องอยู่กับภรรยามากกว่าคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นผมก็ต้องเลือกแบบเด็ดๆ หน่อย เพื่อความไม่จืดชืดของชีวิตผม "แต่คนนี้นายท่านกำชับมาว่ายังไงก็ต้องแต่ง ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ห้ามปฏิเสธเด็ดขาดครับ" "ผมขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่ไอ้หยางพูดจบ พ่อถึงกับกำชับมาเลยเหรอวะ ความสงสัยที่เริ่มก่อตัวขึ้น มันทำให้ผมรีบหยิบแฟ้มประวัติของผู้หญิงที่ผมต้องแต่งด้วยขึ้นมาดูว่าเธอเป็นใคร... "!!?" "เรื่องที่ผมจะแจ้งให้ทราบมีแค่นี้ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ" ไอ้หยางพูดจบก็โค้งตัวให้ผมแล้วหมุนตัวจะออกจากห้องผมไป แต่ก่อนที่มันจะได้ก้าวเท้าออกไป ผมก็เรียกมันไว้ก่อนหลังจากที่ผมรู้แล้วว่าผู้หญิงคนที่ผมจะต้องแต่งด้วยคือใคร... "เดี๋ยว!" "ครับนาย?" หยางหันหน้ากลับมาหาผมอีกครั้ง "บอกพ่อไปว่ากูตกลง กูจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้" "ครับ?" "และพรุ่งนี้กูก็จะไม่ไปดูตัว รอเจอกันทีเดียววันหมั้นเลย" ก็ในแฟ้มประวัตินี้มันระบุไว้ด้วยว่าต้องหมั้นกันก่อนสองปี ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่โอเค มีสิทธิ์ถอนหมั้นได้ทันที แต่ถ้าโอเคก็ดำเนินการแต่งงานได้เลยเช่นกัน แต่อย่างน้อยต้องอยู่ด้วยกันในฐานะคู่หมั้นสองปี "รับทราบครับ" จากนั้นไอ้หยางก็ออกจากห้องผมไป ในห้องก็เหลือแค่ผมคนเดียว ผมนั่งไล่อ่านประวัติของผู้หญิงที่พ่อหามาให้โดยละเอียด รวมถึงสาเหตุของการแต่งงาน... "บริษัทครอบครัวกำลังจะล้มละลายงั้นเหรอ แต่งเพื่อเงินสินะ?" ผู้หญิงแม่งก็เป็นเหมือนกันหมด เห็นแก่เงิน ผมไม่เคยมีความรักฝังใจกับผู้หญิงประเภทนี้หรอกนะ แต่ส่วนมากผู้หญิงที่เข้าหาผมทุกวันนี้ก็เข้ามาเพื่อเงินและอำนาจทั้งนั้น มันเลยทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนกับผู้หญิงประเภทนี้ไปเลย เอาได้แค่บางครั้งบางคราว แต่ไม่คิดจะสานต่อ แต่กับผู้หญิงคนนี้...ผมคงต้องเอานานๆ ซะละ ให้มันสมกับเงินที่พ่อต้องเสียไปให้ครอบครัวเธอหน่อย หึ! และผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่าเธอจะรู้หรือเปล่า ว่าคนที่เธอต้องแต่งด้วยคือผม แต่ถ้าให้ผมเดา...ผมว่าเธอต้องไม่รู้ เพราะถ้าเธอรู้เธอคงไม่ยอม แล้วก็นะ...ผมอุตส่าห์จะไม่สนใจ และจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยแล้ว ตามคำขอของไอ้วินเซนต์ ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกถูกใจพี่สาวมันมากแค่ไหนก็เถอะ! แต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ในเมื่อพี่สาวของมันเข้ามาหาผมเอง Vegus talk end. หนึ่งเดือนต่อมา… และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่ฉันต้องหมั้นกับใครก็ไม่รู้ เพื่อรักษาบริษัทของพ่อเอาไว้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะว่าตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคนที่ฉันต้องหมั้นด้วยคือใคร และฉันก็ไม่ได้สนใจอยากจะรู้ด้วย เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็จะหมั้นอยู่ดี มันเลยไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ฉันจะต้องรู้ "ต้นหอม...คิดดีแล้วใช่มั้ยลูก" แม่เปิดประตูห้องนอนของฉันแล้วเดินเข้ามาก่อนจะเอ่ยถามขึ้น เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่แม่ถามฉันด้วยประโยคนี้ เพราะแม่จะค่อนข้างเป็นห่วงฉันมากๆ เรื่องที่ฉันตัดสินใจแบบนี้ คือแม่ไม่เห็นด้วยหรอก แต่ในเมื่อฉันเลือกแล้วแม่ก็ทำอะไรไม่ได้ "ค่ะแม่ หนูคิดดีแล้ว" ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้แม่ไป และถ้าสังเกตดีๆ จะรู้เลยว่าเป็นยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจ มันเป็นยิ้มที่ฉันโคตรฝืนเลย แต่ฉันก็ต้องพยายามทำไม่ให้แม่รู้ เพราะกลัวแม่จะเป็นห่วงไปมากกว่านี้ "ถ้างั้นก็เตรียมตัวเถอะ จะใกล้เวลาแล้ว เดี๋ยวแม่จะลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่างก่อน" "ค่ะแม่" จากนั้นแม่ก็เดินออกจากห้องไป แล้วพวกช่างแต่งหน้าต่างๆ นาๆ ก็กลับเข้ามาแต่งตังแต่งหน้าให้ฉันต่อ งานหมั้นครั้งนี้เป็นงานเล็กๆ เชิญแค่ญาติที่สนิทจริงๆ แค่นั้น เพราะฉะนั้นงานวันนี้เลยไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก เรียกง่ายๆ ว่าจัดพอแค่ให้รู้ว่าจัดเฉยๆ "พี่หอม! พี่คิดดีแล้วใช่มั้ยที่ยอมหมั้น" พอแม่ออกไปได้สักพัก ก็เป็นวินเซนต์ที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามาแล้วตรงเข้ามาถามฉันเลยทันทีพร้อมกับสีหน้าที่ดูเคร่งเครียดมาก "อืม พี่คิดดีแล้ว" ฉันมองหน้าวินเซนต์ผ่านกระจกแล้วตอบไป "แล้วพี่รู้มั้ยว่าคนที่พี่ต้องแต่งด้วยคือใคร" "ไม่รู้ พี่ยังไม่เคยเจอหน้าเขาเลย" วันนัดดูตัวเขาก็เบี้ยวนัด ไม่ยอมมา ฉันก็เลยไม่รู้ว่าเขาคือใคร และก็อย่างที่บอกว่าฉันก็ไม่ได้สนใจจะอยากรู้ขนาดนั้นด้วย "เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะพี่ บอกตรงๆ ผมไม่อยากให้พี่หมั้นเลย" "...ไม่ทันแล้วล่ะ พี่เซ็นยินยอมไปแล้ว" ก่อนหน้านี้สองวัน มีหนังสือเกี่ยวกับสัญญาเรื่องการหมั้นส่งมาให้ฉันเซ็นที่บ้าน ซึ่งฉันก็งง ๆ นะว่าทำไมต้องเซ็น แต่ด้วยตอนนั้นฉันกำลังยุ่งอยู่ จึงยอมเซ็นไปโดยไม่ได้อ่านรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะคิดว่ายังไงฉันก็ตัดสินใจไปแล้ว "ไม่พี่ ถ้าพี่บอกว่าพี่จะไม่หมั้นแล้ว ผมก็สามารถทำให้พี่ไม่ต้องหมั้นได้" "ทำไมดูเหมือนเราจะไม่อยากให้พี่หมั้นขนาดนั้นล่ะ เรารู้เหรอว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นคนไม่ดีเหรอ" ดูจากท่าทางของวินเซนต์ตอนนี้แล้ว มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ ว่าวินเซนต์ไม่เห็นด้วยอย่างมากที่ฉันจะหมั้น แต่ฉันอยากรู้เหตุผล "ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกพี่ แต่เป็นคนที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย" "เราหมายความว่ายังไง พี่ไม่เข้าใจ" สรุปเขาดีหรือไม่ดีกันแน่ "พี่ฟังผมนะ คนที่พี่จะต้องหมั้นด้วยวันนี้น่ะ คือ..." "คุณต้นหอมคะ ได้เวลาแล้วค่ะ" และยังไม่ทันที่วินเซนต์จะพูดจบ ก็มีสาวใช้ในบ้านขึ้นมาตามให้ฉันลงไปเข้าพิธีข้างล่าง เพราะได้เวลาแล้ว และฝ่ายนั้นก็คงจะมาแล้ว "เขาคือใครวินเซนต์" แต่ฉันก็เลือกที่จะสนใจคำตอบจากวินเซนต์มากกว่า บอกตามตรงว่าพอฉันเห็นท่าทางวินเซนต์แล้ว มันก็ทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าคนที่ฉันต้องหมั้นด้วยคือใคร "ผมว่าฝ่ายนั้นคงจะมาแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่ลงไปพี่ก็จะรู้เอง..." แต่แล้ววินเซนต์ก็ไม่ได้ตอบคำถามฉัน แล้วพูดขึ้นมาด้วยเสียงนิ่งๆ แทน "??" "ไหนๆ ฝั่งนั้นก็มาแล้ว แถมในงานก็มีแต่แขกผู้ใหญ่อีก พี่ก็หมั้นไปก่อนแล้วกัน ถ้าไม่โอเคก็มาบอกผม...เดี๋ยวผมจะช่วยพี่เอง" พูดจบวินเซนต์ก็เดินออกจากห้องไปทันที หมายความว่ายังไง ทำไมต้องคิดว่าหมั้นไปแล้วจะไม่โอเค จริงๆ แล้วเขาอาจจะดีก็ได้... พอเช็กความเรียบร้อยเสร็จแล้ว ฉันก็เดินลงไปห้องโถงของบ้าน เพื่อเข้าพิธีหมั้น แต่พอฉันก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในพิธี... ไอ้บ้าเวกัส!! 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม