ขอบคุณสำหรับวันนี้

1153 คำ
เมื่อเคลียร์เฟอร์นิเจอร์เก่าที่ไม่จำเป็นออกจากบ้านไปแล้วช่วงบ่ายน่านนทีก็พาอรณิชามายังร้านเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ของใช้ภายในบ้านขนาดใหญ่ “คุณน่านคะอีฟอยากได้เตียงนอนหลังนี้มันจะเข้าประตูบ้านของอีฟได้มั๊ย” “เข้าได้ไม่มีปัญหาแต่ผมว่ามันหลังเล็กไปหน่อยหรือเปล่า คุณน่าจะเลือกใช้ที่นอนหกฟุตดีกว่านะห้าฟุตถ้านอนสองคนมันจะอึดอัด” “ก็อีฟจะนอนคนเดียวนี่คะ ใจจริงอยากจะได้สามฟุตเลยด้วยซ้ำไปคะ” “แต่ถ้าวันหนึ่งคุณอยากจะเปลี่ยนเป็นหกฟุตจะไม่เสียดายเงินแย่เหรอราคามันต่างกันไม่มาก” “มันก็จริงค่ะ แต่อีฟก็ยังลังเลอยู่ดี” “คุณลองคิดดูนะถ้าวันนี้คุณซื้อห้าฟุตไปแล้วเกิดเปลี่ยนใจอย่างได้หกฟุตขึ้นมาก็เท่ากับต้องทิ้งเตียงอีกหลังหนึ่งไปเลยนะ” น่านนทีรู้สึกแปลกใจว่าทำไมอรณิชาถึงอยากจะเลือกเตียงนอนขนาดเล็กทั้งที่เธอแต่งงานมีครอบครัวแล้ว สามีของเธอก็น่าจะมีโอกาสกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้บ้างชายหนุ่มได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจเพราะไม่อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอ เขายังไม่มีโอกาสถามอรณิชาว่ามีเหตุผลอะไรที่เธอทิ้งเขาไปเมื่อหลายปีก่อนชายหนุ่มคิดว่าจะหาโอกาสเหมาะๆ คุยกับเธอเรื่องนี้เพราะเขาไม่อยากให้มันค้างคาใจอีกแล้ว ถ้าตอนนี้เธอแต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่นน่านนทีก็ไม่อยากเข้าไปแทรกกลางหรือทำลายครอบครัวของใคร เขาจะถอยออกมาเงียบๆ และคิดว่าครั้งนี้ตนเองจะตัดใจจากเธอได้อย่างแน่นอน “จริงด้วยค่ะราคามันต่างกันไม่มากถ้างั้นอีฟเอาหกฟุตแล้วเอาตู้ข้างเตียงเข้าไปด้วยคุณน่านคิดว่าห้องมันจะเล็กไปไหม” “ไม่หรอกห้องนั้นกว้างมาก” “ของพวกนี้เขาจะเอาไปส่งเราวันนี้เลยหรือเปล่า” “ตอนนี้มันบ่ายแล้ว เดี๋ยวผมขอถามพนักงานก่อนนะว่าได้คิวรถตอนไหน” ชายหนุ่มเดินไปถามพนักงานก่อนจะกลับมาบอกกับอรณิชาที่เดินไปเลือกโซฟารับแขกอยู่ “จริงๆ เขาจะไปส่งพรุ่งนี้ถ้าเราอยากให้เขาไปส่งวันนี้ก็จ่ายพิเศษผมเลยตกลงเพราะถ้าเขาไม่ไปส่งคืนนี้คงคุณคงได้ปูผ้าห่มนอนบนพื้นแน่” “ขอบคุณนะคะ แล้วถ้าฉันอยากซื้อชุดโซฟาตัวนี้ด้วยล่ะเขาไปส่งพร้อมกันทีเดียวเลยไหม” “ได้สิแต่ผมว่าสีนี้มันไม่เข้าบ้านกลับบ้านของคุณเลยนะ บ้านของคุณออกมาโทนสว่างโซฟาก็น่าจะเป็นสีอ่อนกว่านี้ สีที่คุณเลือกมันเข้มไป” ชายหนุ่มถ่ายรูปโซฟาสองสีจากนั้นก็เปิดแอปพลิเคชันแต่งภาพในโทรศัพท์แล้วลองเอาโซฟาทั้งสองตัวไปวางในห้องรับแขกแล้วเปรียบเทียบสีของโซฟาให้หญิงสาวดู “จริงด้วยค่ะ ถ้างั้นฉันเอาสีนี้ดีกว่ามันดูเข้ากันดีขอบคุณนะคะคุณน่านถ้าให้อีฟเลือกเองเฟอร์นิเจอร์ก็คงจะออกไปคนละทิศคนละทางแน่” “คุณอยากได้อาร์มแชร์ไว้อ่านหนังสือสักตัวไหม ห้องคุณค่อนข้างกว้างแล้วจะพอมีที่ว่างอยู่” “ก็ดีเหมือนกันค่ะ คุณน่านพาอีฟไปเลือกหน่อย” เขาพสอรณิชามาเลือกอาร์มแชร์สำหรับนั่งอ่านหนังสือ แต่ไม่มีสีที่ถูกใจสุดท้ายหญิงสาวก็เลยเลือกโซฟาเบดขนาด 3 ฟุตไปแทนเพราะบางทีอาจจะเปลี่ยนบรรยากาศมานอนอ่านหนังสือบนนั้นก็เป็นได้ นอกจากของชิ้นใหญ่แล้วหญิงสาวยังเลือกโคมไฟกระถางต้นไม้พลาสติกและของตกแต่งอย่างอื่นอีกหลายอย่างกว่าจะออกจากร้านมาก็เป็นเวลาเย็นพอดี พนักงานของร้านขับรถตามไปที่บ้านจากนั้นก็ช่วยกันยกของใช้เวลาไม่นานบ้านของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ “ขอบคุณมากนะคะคุณน่านวันนี้คุณช่วยอีฟได้เยอะเลยค่ะ” “ถ้าไม่มีอะไรแล้วถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อน” “เดี๋ยวสิคะมีอะไรหรือเปล่า” “วันนี้อีฟใช้งานคุณมาทั้งวันเลย ถ้ายังไงเย็นนี้ให้อีฟเลี้ยงข้าวไหม” “ไม่เป็นไรหรอกครับผมเกรงใจ” “อย่าเกรงใจเลยค่ะตอนนี้อีฟเองก็หิวมากๆ แล้วก็ไม่มีเพื่อนทานข้าว คุณพอจะมีร้านไหนแนะนำไหม” “คุณอยากกินอาหารประเภทไหนล่ะ” “ขอเป็นอาหารไทยรสจัดๆ ก็แล้วกันนะคะ” “ก็ได้ครับ” แล้วน่านนทีก็พาหญิงสาวไปยังร้านอาหารไทยที่อยู่ห่างออกมาไม่ไกล ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟหญิงสาวก็ชวนเขาคุย “ปกติคุณน่านมาทานอาหารที่นี่บ่อยเหรอคะ” “ไม่หรอกนานๆ ครั้งถึงจะมาแต่ส่วนใหญ่ก็จะมากับลูกค้า” “พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์คุณน่านว่างไหม อีฟมีเรื่องจะรบกวนคุณอีกอย่างหนึ่ง” “อะไรครับ” “วันนี้อีฟซื้อแต่เฟอร์นิเจอร์แต่ยังไม่ได้ซื้อผ้าม่านเลย คุณพาอีฟไปร้านผ้าม่านได้ไหมอีฟอยากได้ผ้าม่านที่มันเข้ากับบ้าน แต่ไปซื้อเองก็กลัวจะเลือกมาไม่เข้ากับบ้านเหมือนอย่างตอนที่อีฟเลือกโซฟาวันนี้ แต่ถ้าคุณน่านไม่ว่างอีฟก็รอได้” “พรุ่งนี้ผมมีธุระนิดหน่อย น่าจะว่างช่วงบ่าย” “อีฟรอได้ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ” หญิงสาวพูดแล้วยิ้มรอยยิ้มของเธอมันเหมือนกับรอยยิ้มในอดีตมากๆ และมันทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบจนต้องหันไปมองทางอื่น เมื่ออาหารของทางร้านมาเสิร์ฟเขากับเธอก็นั่งรับประทานอาหารกันอย่างเงียบๆ สอบถามสารทุกข์สุกดิบกันเพียงนิดหน่อยก่อนที่ชายหนุ่มจะขับรถมาส่งหญิงสาวที่บ้าน “ขอบคุณนะคะคุณน่าน” “ไม่เป็นไรครับผมกลับก่อนนะ” “จะไม่เข้าไปดื่มกาแฟหน่อยเหรอคะ” “ดึกขนาดนี้ใครเขาดื่มกาแฟกันน่ะ” “ถ้างั้นเข้าไปนั่งคุยกับอีฟก่อนได้ไหมมันยังไม่ดึกมากเท่าไหร่” “ผมว่าคงไม่เหมาะมั้งครับ” “ทำไมล่ะหรือคุณน่านมีอะไรในใจถึงไม่กล้าเข้าไปคุยกับอีฟข้างใน” “ไม่มีอะไรหรอกถ้าคุณอยากให้ผมเข้าไปผมก็จะเข้าไป” น่านนทีคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นโอกาสที่เขาจะคุยกับอรณิชาอย่างจริงจัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม