หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
อรนลินนั่งจิบไวน์ของตนเองช้าๆ พยายามไม่ให้ตนเองดื่มมากนักเพราะใช่หล่อนจะคอแข็งมากมาย แต่เมื่อมองมาร์คัสแม้เขาจะดื่มไวน์หมดไปเกือบขวดแล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีจะเมาเลยสักนิด เป็นหล่อนเองเสียอีกที่ดื่มไปแค่แก้วที่สามก็เริ่มมึนเจ้าน้ำสีทับทิมนี่แล้ว
อรนลินรู้สึกเหมือนตัวเองอารมณ์ดีกว่าที่เคย หล่อนหัวเราะไปกับเรื่องเล่ามากมายของมาร์คัส ทำให้ชายหนุ่มสังเกตว่าอาการเกร็งของหญิงสาวลดลง เขายิ้มอย่างพึงพอใจ สายตาของเขามันมัวแต่วนเวียนสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวตลอดเวลา วันนี้หญิงสาวอยู่ใน เดรสเกาะอกสีม่วงเข้มขับผิวหล่อนให้ผุดผ่องยิ่งทำให้เขาตาพร่า ปรารถนาจะแนบชิดกับหล่อนตลอดทั้งคืนเลยทีเดียว
“มิสเตอร์ฟาวเลอร์คะ” อรนลินเรียกเขาเสียงใส ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้เขา “จะว่าอะไรไหมคะถ้าฉันจะต้องการอะไรที่มันแรงกว่านี้”
มาร์คัสมองเรือนร่างหล่อนด้วยดวงตาเต็มไปด้วยไฟปรารถนา เขาส่ายหน้าแล้วบอกหล่อนสั้นๆว่า “เอาสิ”
“ขอบคุณค่ะ ฉันแค่ต้องการอะไรที่มันแรงกว่านี้เพื่อย้อมใจตัวเองสักหน่อย”
แม้คำพูดของหญิงสาวจะทำให้เขาขมวดคิ้ว ที่จริงเขาก็ไม่ชอบหรอกนะที่คู่นอนของตนเองจะเมามาย แต่สำหรับอรนลิน ยามหล่อนเมาคงจะง่ายกว่ากระมังเพราะท่าทีหล่อนยามเมื่อเขาแตะต้องตัวก็ออกจะเกร็ง เขาเลยไม่คิดห้ามหล่อน
ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวค้นเหล้าของตนเองตามสบาย ไม่กี่นาทีต่อมาหญิงสาวก็โผล่มานั่งข้างกายเขาพร้อมกับวิสกี้และแก้วในมือ
กลิ่นกายหอมหวานและทรวงอกนุ่มที่เบียดกระชับต้นแขนทำให้สติของมาร์คัสกระเจิดกระเจิง ไม่ยักรู้ว่าในยามที่เมา แม่เสือสาวที่ตอนเจอกันครั้งแรกๆจะเปลี่ยนไปเป็นแม่แมวยั่วสวาทได้ หากอรนลินในเวอร์ชั่นนี้มาร์คัสชักจะติดใจเสียแล้วสิ แล้วนั่นทำให้เขาไม่ปฏิเสธหล่อนในยามที่หล่อนพยายามป้อนเหล้าให้กับเขา จนสุดท้ายแทนที่จะเป็นหล่อนที่ทานย้อมใจกลับกลายเป็นเขากินแทนเสียนี่
มาร์คัสดื่มไปเท่าไหร่ไม่รู้...รับรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ตนเองมึนไปหมด แต่ก็ยังพอมีสติอยู่ แน่นอนว่าเขาจะต้องทำให้ตนเองมีสติจนกว่าจะได้หม่ำแม่แมวยั่วสวาทนี่ก่อนนั่นแหละเขาถึงจะยอมให้ตนเองหมดสติ
ฝ่ายอรนลินมองมาร์คัสที่เริ่มมึนด้วยดวงตาเป็นประกายวาววับ รับรู้ได้ว่าเขาระวังตัวน้อยลง แม้หญิงสาวจะมึนพอสมควร แต่หล่อนก็คิดว่าตนเองยังมีสติกว่าเขามากมายนัก หญิงสาวที่แสร้งทำเป็นจิบวิสกี้รสชาติบาดคอแก้วเดียวกับเขา แท้จริงหล่อนทำเพียงแต่เอาริมฝีปากแตะๆเท่านั้น แล้วที่เหลือก็ป้อนให้มาร์คัสทานทั้งหมด เมื่อเห็นว่าเขามีสติน้อยลง หญิงสาวก็รีบล้วงเอาซองยาป่นเป็นผงสีขาวที่แซนดร้าเตรียมไว้ให้ออกมา เขย่ามันใส่ลงในแก้วแล้วหมุนแก้วเร็วๆหวังให้ยาละลาย แต่สายตาก็ระมัดระวังมาร์คัสตลอดเวลา ด้วยหล่อนอาศัยจังหวะที่เขาลุกขึ้นไปเปลี่ยนเพลงใส่ยานี้ลงไป แล้วเมื่อเขากลับมานั่งลงข้างๆหล่อนอีกครั้ง อรนลินก็ยิ้มรับเขาด้วยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มที่ไม่ได้ปั้นแต่งมากนัก หล่อนเบียดกายแนบชิดมาร์คัสอีกครั้ง จนแทบจะนั่งเกยตักเขาอยู่แล้ว ท่าทางยั่วยวนราวกับเคยทำแบบนี้กับผู้ชายมานับไม่ถ้วนทำให้มาร์คัสพึงพอใจ เขาหัวเราะในลำคอในขณะที่ยอมรับแก้วในมือหญิงสาวมาดื่มอย่างเอาใจ และแน่นอนว่าเขาตั้งมั่นไว้แล้วว่านี่จะเป็นแก้วสุดท้ายแล้ว และหลังจากดื่มมันจนหมดเขาก็แย่งมันจากมือหญิงสาว วางมันไว้ตรงโต๊ะกระจกตรงหน้าแล้วหันมามองหล่อนด้วยสายตาแวววาว ไฟสวาทในดวงตาของเขาลุกโชติช่วงกว่าช่วงเวลาใดๆทั้งสิ้น
มาร์คัสคว้าไหล่เนียนด้วยมือทั้งสองข้าง พลิกเปลี่ยนหล่อนให้เป็นฝ่ายอยู่ใต้ร่างเขา ดวงตาของชายหนุ่มร้อนแรงด้วยไฟปรารถนา สมองกำลังวาดภาพยามเมื่อหล่อนและเขากำลังเริงร่าและเร่าร้อนบนเตียง ในขณะที่อรนลินหัวใจเต้นรัวแรง หญิงสาวประสานสายตากับเขาไม่มีหลบ ดูเหมือนฤทธิ์ของไวน์และวิสกี้ที่จิบเข้าไปจะทำให้ความอายของหล่อนลดลง หญิงสาวรับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตรายต่อความบริสุทธิ์ของหล่อนที่มันมาจากสายตาของมาร์คัส...แต่ หล่อนก้าวถอยหลังไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ชั่วเวลาไม่กี่วินาทีที่ทั้งคู่สบตากัน ดวงตามาร์คัสเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและไฟปรารถนามันทำให้อรนลินถึงกับสั่นสะท้าน และเพียงแค่เปลือกตาหล่อนเริ่มปรือปิดลงเท่านั้น มันก็เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกให้ทุกสิ่งเริ่มต้นขึ้น!
มาร์คัสประทับริมฝีปากของเขาลงบนกลีบปากสวยของหล่อนที่เผยอแยกจากกันน้อยๆราวกับกำลังรอการรุกรานจากเขา ชายหนุ่มขบเม้มริมฝีปากหล่อนอย่างเร่าร้อน ราวกับว่าการทำแบบนี้กับหล่อนคือสิ่งที่เขาอยากจะทำมานานตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตาเสียด้วยซ้ำ แล้วยิ่งเมื่อยิ่งการเจรจากับหล่อนครั้งแรกแล้วหล่อนปฏิเสธเขา มาร์คัสไม่อยากยอมรับกับตนเองว่าเขายิ่งต้องการหล่อนมากขึ้น และเมื่อมาถึงเวลานี้แล้ว เขาก็จะตักตวงมันให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป!
อรนลินสะดุ้งเมื่อรับรู้ได้ถึงเรียวลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของหล่อน แล้วพร้อมกันนั้นฝ่ามือร้อนๆของมาร์คัสเคลื่อนไปทั่วเรือนร่างของหล่อน นั่นคือสิ่งที่อวิลีนรับรู้ได้ และตอนนี้มือข้างหนึ่งของเขาก็อยู่บนแผ่นหลังของหล่อน กอดรัดให้หล่อนแนบชิดกับเขายิ่งกว่าเคยแนบชิดกับชายใด ก่อนฝ่ามือข้างนั้นจะคลำเจอซิปของชุดหล่อนเจอแล้วจัดการรูดมันลงช้าๆ ในขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงเคล้าคลอและบดคลึงริมฝีปากหล่อนไม่ห่าง และอรนลินไม่คิดจะขัดขวางเขาเลยแม้แต่น้อย พยายามแสดงท่าทีเร่าร้อนและยินยอมไปกับความพิศวาสที่เขาสร้างขึ้น ให้เขารับรู้ว่าหล่อนยินยอมกับพร้อมใจไปกับเขา!
น่าแปลกว่าหล่อนกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาอย่างที่เคยคิด...ในสาวเต้นระรัวทุกคราวในยามที่เขาแตะต้องพื้นที่ในร่างกายของหล่อน...หรือที่หล่อนรู้สึกทั้งหมดส่วนหนึ่งจะมาจากไวน์ที่ดื่มเข้าไป ทำให้ความยับยั้งชั่งใจของหล่อนลดลง
อรนลินรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง รับรู้ว่าเขาคงเลื่อนปลดซิปลงจนสุดก่อนจะแปรเป็นร้อนวูบวาบเพราะฝ่ามือที่เคลื่อนไล้สัมผัสแผ่นหลังเรียบเย็นของหล่อน ชั่วขณะหนึ่งมาร์คัสผละจากริมฝีปากหล่อน ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมองสบตากับหล่อน หล่อนเห็นความต้องการในดวงตาเขาแล้วรู้สึกเหมือนลมหายใจของตนเองสะดุดลง ฝ่ามือของหล่อนวางยิ่งอยู่บนไหล่กว้างของเขา ที่หล่อนเพิ่งรับรู้ว่ามันกว้างกว่าที่เห็นมากนัก ในยามที่หล่อนอยู่ใต้ร่างเขาในยามนี้ อรนลินรู้สึกเหมือนหล่อนกลายเป็นคนตัวเล็กนิดเดียวไปเลย
มาร์คัสมองหญิงสาวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ภาพเบื้องหน้าของเขาคือใบหน้าเรียวหวานที่บัดนี้เส้นผมสีน้ำตาลไหม้ยาวสลวยกลับดูยุ่งเหยิงด้วยฝีมือเขา แต่มันกลับส่งเสริมให้หล่อนดูเซ็กซี่และเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น คิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกหล่อนในค่ำคืนนี้ ชายหนุ่มหัวเราะแผ่วๆในลำคอ คิดกับตนเองอย่างอารมณ์ดี แม้ตอนนี้เขาจะรู้สึกวูบวาบ และบางคราก็เหมือนจะหน้ามืดวับไปก็ตาม...แต่เขาเชื่อว่าไม่ว่าอย่างไรค่ำคืนนี้ก็ไม่มีอะไรมาขัดขวางเขาได้ และการตอบสนองอันเร่าร้อนพอๆกันของหล่อนมันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะใช้เวลานับจากนี้ทั้งวันทั้งคืนกับหล่อนภายในห้องนี้เลยทีเดียว
“พร้อมรึยัง...อรนลิน”
ชายหนุ่มกระซิบถามหล่อนเสียงพร่า อรนลินมองเขานิ่ง แล้ววินาทีถัดมาอรนลินก็ยิ้มหวานให้กับคำถามนั้น หล่อนเคลื่อนใบหน้าตนเองไปแนบชิดกับเขาแล้วแทนคำตอบ หล่อนจูบริมฝีปากเขาเร็วๆทีหนึ่งแล้วผละมาส่งยิ้มให้เขาด้วยท่าทียั่วยวน
มาร์คัสหัวเราะอย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มพลิกร่างหล่อนให้เป็นฝ่ายอยู่เหนือตัวเขา แผ่นหลังของเขาสัมผัสกับพนักนุ่มๆของโซฟาตัวใหญ่เต็มแรง ในขณะที่อรนลินตอนนี้หล่อนนั่งอยู่บนตัวชายหนุ่มประหนึ่งแมวตัวเมียที่กำลังคลอเคลียเจ้าของ
ฝ่ามือหนาของเขาโอบกระชับเอวบางของหล่อนแน่น อรนลินหลุดหัวเราะขำเสียงแผ่ว มือข้างหนึ่งยื่นผ่านไหล่ของมาร์คัสไปค้ำกับพนักโซฟาที่อยู่เบื้องหลังเขา มืออีกข้างก็เสยผมยาวสีน้ำตาลไหม้ของหล่อนขึ้นด้วยท่าทียั่วยวน ปลายผมปัดผ่านใบหน้ามาร์คัสราวกับเชิญชวน หญิงสาวสลัดศีรษะไล่ผมตนเองให้ไประแผ่นหลังบางทั้งหมด เผยให้เห็นลาดไหล่เล็กขาวผ่อง และชุดเดรสเกาะอกที่จวนเจียนจะหลุด มิหลุดแหล่ มาร์คัสมองทุกท่วงท่าของหล่อนอย่างพึงพอใจ แล้วเร็วเท่าความคิด มือที่จับกระชับเอวอ่อนเปลี่ยนเป็นรั้งหล่อนให้โน้มลงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มประทับริมฝีปากตนเองกับกลีบปากหล่อนอีกครั้ง บดคลึงและขบเม้มอย่างเร่าร้อนให้สมกับที่หล่อนยั่วยวนเขานัก ก่อนจะไล้ริมฝีปากเคลื่อนต่ำลงมา ขบเม้มและพรมจูบซอกคอขาวหอมกรุ่นและผิวเนื้อเรียบลื่นราวแพรไหม ไล่วนเวียนสูดดมความหอมไม่สร่างซาจนมาถึงเนินอกอิ่มย้ำยวนสายตาและกระตุ้นแรงปรารถนาชั้นดี ชายหนุ่มฝังจมูกโด่งเป็นสันสวยของตนเองบนเนินทรวงนั้น หากยังไม่ทันคิดทำอะไรต่อ ชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับจะหน้ามืด มาร์คัสสลัดศรีษะ...ไม่นะ เขากำลังเมาอย่างนั้นเหรอ?!
หากก่อนจะได้คิดใครครวญอะไร เขารู้สึกได้ถึงมือเรียวที่โอบรวดศีรษะเขา ฝ่ามือเล็กๆสอดเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีเข้มและเขาก็ไม่ได้คิดถึงอะไรอีกเลย...
อรนลินรับรู้ได้ว่าทุกสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่หยุดชะงักลง
หญิงสาวผละจากร่างของมาร์คัสด้วยท่าทางราวกับกระโดด สองมือรีบจับชุดที่หมิ่นเหม่ของตนเองให้กระชับ แล้วมองใบหน้าหล่อเหลายามหลับตาพริ้มของมาร์คัสพร้อมกับพ่นลมหายใจพรูออกมาจากปาก เมื่อไม่มีหล่อนพยุงไว้ ร่างของมาร์คัสก็ไถลเอนข้างลงนอนราบกับโซฟาตัวใหญ่นั้น
“มิสเตอร์คะ...มิสเตอร์ฟาวเลอร์”
อรนลินเดินเข้าไปใกล้เขา แล้วลองเขย่าร่างหนานั้นแล้วลองเรียกเขา หากมาร์คัสไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาทำเอาอรนลินถึงกับโล่งอก หญิงสาวมองทั้งตนเองและเขาในสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ยแล้วถอนใจเฮือกใหญ่ หลังจากจัดการรูดซิปที่ถูกปลดเรียบร้อยอรนลินก็ทรุดลงนั่งบนพื้นพรมด้วยท่าทีราวกับคนหมดแรง หากดวงตาไม่ยอมคลาดจากดวงหน้าหล่อเหลาของมาร์คัสสักนิด
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ?”
หล่อนบ่นกับตนเองเบาๆ ทุกอณูของร่างกายยังคงรับรู้ถึงความร้อนผ่าวในยามที่มาร์คัสสัมผัส ไม่อยากจะคิดเลยว่า...หากเป็นยามปกติ...หล่อนไม่มีทางรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขาได้อย่างแน่นอน!