ตอนที่3

1503 คำ
หลังจากออกมาจากภัตตาคารหรูหลังดินเนอร์กับทีโอน่าแล้ว มาร์คัสจึงพาหล่อนกลับมายังเพนท์เฮาส์หรูย่านอัปเปอร์ อีสส์ ไซด์ (Upper East Side) ในแมนฮัตตันของเขา บนตึงสูงระฟ้าจากมุมภายในห้องของเขาสามารถเห็นแม่น้ำอีสส์ (East River) ได้อย่างชัดเจน เสียงเพลงคลาสสิกที่บรรเลงโดยเปียโนที่มาร์คัสเปิดดังคลอไปทั่วห้อง ในมือของชายหนุ่มมีแก้วไวน์แดงที่เจ้าตัวละเลียดจิบอย่างพยายามซึมซับในรสชาติของมัน ชั่ววินาทีที่ได้อยู่กับความคิดตนเองเพียงลำพัง มาร์คัสกระหวัดคิดถึงใบหน้าเรียวหวานของหญิงสาวที่เพิ่งพานพบ และเมื่อรู้ว่าตนเองกำลังคิดวาดภาพยามเมื่อหล่อนและเขากำลังเริงร่าบนเตียงชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที ร่างสูงใหญ่หมุนกายขวับ แล้วเดินตรงไปหาทีโอน่าที่ทอดตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวใหญ่ ในมือนางแบบสาวมีแก้วบรรจุวิสกี้อยู่ในมือ เมื่อเจ้าหล่อนเห็นมาร์คัสเดินตรงมาหา ก็วางมันลงกับโต๊ะกระจกตรงหน้า แล้วเผยรอยยิ้มหวานกึ่งยั่วยวน แลดูเชิญชวนมาให้เขา มาร์คัสวางแก้วไวน์ที่ตนเองถือลงข้างๆ กับแก้วที่ทีโอน่าวางไว้ก่อนหน้า ชายหนุ่มสลัดภาพใบหน้าของพนักงานเสิร์ฟในภัตตาคารออกไปจากหัวแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ดูลึกลับและน่าหลงใหลในคราวเดียวกันให้กับนางแบบสาว ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างทีโอน่า มือใหญ่วางลงบนไหล่ขาวเปลือยเพราะชุดที่หล่อนใส่เป็น เดรสเกาะอกยี่ห้อหรู แนบเรือนร่างระหงขับให้หล่อนดูสวยสมกับเป็นคนในวงการแฟชั่น ผิวสีแทนของเขาตัดกับผิวขาวผ่องของหล่อนอย่างเห็นได้ชัด แล้วจากนั้นมือของเขาก็ไล้วนไปตามไหล่บางตลอดจนแผ่นหลังของนางแบบสาว ทั้งที่ดวงตาของทั่งคู่ยังคงมองกันอย่างท้าทาย แล้วเป็นทีโอน่าเองที่ทนให้มาร์คัสยั่วยวนไม่ไหว เพราะตั้งแต่มืออุ่นจัดข้างนั้นวางทาบกับไหล่ของหล่อน ทีโอน่าก็รู้สึกได้ถึงอาการขนลุกซู่ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นปราดไปทั่วร่าง แล้วยิ่งยามเมื่อมาร์คัสแกล้งยั่วยวนหล่อนโดยการลากไล้ฝ่ามือของเขาไปตามร่างกายหล่อนอย่างแผ่วเบา มันทำให้หญิงสาวอยากจะเป็นฝ่ายกระโจนรุกเขาก่อนเสียเอง และทีโอน่าก็ไม่ทำให้มันเป็นเพียงความคิด นางแบบสาวที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนก็ยันตัวเองขึ้น มือเรียวของหล่อนแทบลงบนไหล่กว้างของมาร์คัส แล้วเอนตัวไปหาเขาในลักษณะกึ่งทาบทับ เปลี่ยนฝ่ายรับเป็นรุกโดยฉับพลัน ผมยาวเป็นลอนสลวยของหล่อนตกลงเคลียใบหน้าของชายหนุ่ม หญิงสาวเผยยิ้มยั่วยวนแล้วเป็นฝ่ายก้มลงทาบริมฝีปากของหล่อนลงบนกลีบปากหนาได้รูปของมาร์คัสก่อน คนโดนจู่โจมร้องครางในลำคออย่างพึงพอ ในเมื่อนางแบบสาวขบเม้มริมฝีปากเขาอย่างชำนิชำนาญ ในขณะที่มือของมาร์คัสเปลี่ยนมาเป็นโอบกายหล่อนพร้อมกับลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างระหง ไฟปรารถนาของเขาถูกจุดขึ้นมาแล้ว... “ของขวัญวันเกิดฉันล่ะคะมาร์คัส” ทีโอน่าถามเมื่อหล่อนถอนจูบแสนเร่าร้อนที่ตนเองเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ดวงตาสีเขียวของนางแบบสาววาววับด้วยไฟเสน่หาที่ถูกจุด ร่างกายของหล่อนร้อนผะผ่าวในยามที่ฝ่ามือหนาของมาร์คัสลากผ่านไปทั่วร่างอย่างคุ้นเคยดีว่าแตะส่วนไหนแล้วหล่อนจะเร่าร้อนลุกเป็นไฟ ดวงตาสีอำพันมองสบตาหล่อน ทีโอน่าเห็นไฟปรารถนาอันร้อนแรง ในดวงตาของเขาไม่แพ้กัน มาร์คัสรั้งมือของตนที่บริเวณท้ายทอยหญิงสาว กดใบหน้าหล่อนให้กดลงมาหาเขาเรื่อย ในขณะที่ริมฝีปากหนาก็ขยับเป็นคำพูดตอบโต้หญิงสาว “หลังจากนี้ไงที่รัก...ผมบอกแล้วไงว่าจะทำให้คุณลืมวันนี้ไม่ลงเลยทีเดียว” ชายหนุ่มพูดเสียงพร่า แล้วริมฝีปากหนาก็ประทับลงบนกลีบปากสวยของนางแบบสาวอีกครั้ง คราวนี้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนของตนเองเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับทีโอน่า นางแบบสาวครางในลำคออย่างพึงพอใจแล้วตอบโต้อีกฝ่ายอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน และเพราะการตอบสนองที่เร่าร้อนของทีโอน่า...ก็ทำให้มาร์คัสหลงลืมหญิงสาวที่ทำให้ตนเองหัวเสียเมื่อตอนเย็นได้โดยทันที อรนลินกำลังเดินกระวนกระวายอยู่ในห้อง... หญิงสาวพยายามติดต่อมารดาหลายต่อหลายครั้งหากก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้มันเป็นเวลาเกือบตีสองแล้วหากมารดาของหล่อนกลับยังมาไม่ถึงห้องพักเสียที ทั้งที่ความจริงอัมพาควรจะมาถึงนานแล้ว อรนลินติดต่อไปยังร้านอาหารที่แม่ของหล่อนทำงานเป็นแม่ครัวอยู่ที่นั่นอีกครั้ง มือเรียวข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์แนบหูเสยผมยาวสลวยของตนอย่างหงุดหงิดกระวนกระวาย...หล่อนไม่น่าปล่อยแม่ให้ออกไปทำงานเลย หากคราวนี้เสียงสังญาณปลายสายดังขึ้นไม่เท่าไหร่ อรนลินก็กดตัดสายทันทีไม่รอให้อีกฝ่ายรับ เพราะหญิงสาวได้ยินเสียงคนไขประตูห้องกุกกัก แล้วแน่นอนว่าไม่ใช่ใคร...มารดาของหล่อนเอง! “ทำไมแม่กลับมาช้าจังคะ?” อรนลินปราดไปถามมารดาด้วยความเป็นห่วง หากอัมพากลับยกมือโบกไปมาพร้อมกับก้าวเข้ามานั่งบนเก้าอี้โซฟาตัวเล็กอยู่มุมห้องด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อยแล้วว่า “แม่ไม่เป็นอะไรมาก พอดีที่ร้านยุ่งนิดหน่อย” “แน่ใจนะคะ แม่หน้าซีดมากเลย” “ก็แม่แค่เป็นหวัดนิดหน่อย แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ พออากาศมันเย็นมากๆ แม่ก็ไม่สบายเป็นธรรมดา” หล่อนพยายามพูดโน้มน้าวไม่ให้ลูกสาวคนเดียวของหล่อนคิดมาก แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าจนในบางครั้งแทบจะลุกไม่ไหว...หากอัมพาไม่ต้องการให้อรนลินคิดมาก และอีกใจ...หล่อนไม่กล้าพอที่จะไปหาหมอ...หล่อนไม่อยากรับรู้ว่าตนเองอาจป่วยหนักแล้วใกล้ตาย...และเพียงแค่คิด อัมพาก็ใจหายวาบ หากหล่อนตาย...อรนลินจะอยู่กับใคร?! “แม่คะ...” ลูกสาวของอัมพาเดินไปทรุดลงนั่งพับเพียบ มือเรียวทั้งสองข้างหากมัน ไม่นุ่มเพราะทำงานหนักมาตั้งแต่อายุสิบห้าเกาะขามารดา หญิงสาวมองแม่ด้วยดวงตาเศร้าสร้อยจากนั้นจึงซบศีรษะลงกับตักของแม่ อัมพาเอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยสีน้ำตาลไหม้ของลูกสาว ดวงตาของหญิงวัยกลางคนแลดูเศร้าสร้อยไม่ต่างกัน...ในดินแดนที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน ชีวิตประสบปัญหาต่างๆมากมาย อรนลินคือห่วงสุดท้ายที่หล่อนมี และคือสิ่งที่ทำให้หล่อนกลับมายืนขึ้นได้อีกครั้งในวันที่เจอเรื่องร้ายๆ “อรไม่ต้องห่วงนะลูก...แม่จะยังอยู่ตรงนี้ อยู่กับหนูไม่ไปไหน...แม่สัญญา” แม้คิดว่าตนเองจะลืมใบหน้าหวานของหญิงสาวคนนั้นไปได้แล้วหากในวันนี้ ยามเมื่อผละลุกจากเตียงนอนที่ในอ้อมแขนมีนางแบบสาวคู่ควงคนล่าสุดอยู่ข้างกาย มาร์คัส ฟาวเลอร์ก็ค้นพบว่าตนเองคิดผิด... ในยามที่เขาอยู่คนเดียวภายในห้องทำงานอันเงียบสงบของตนเอง อาณาจักรฟาวเลอร์ที่เขาสร้างเองกับมือนั้นเปรียบเสมือนสวรรค์ของเขาเลยทีเดียวในยามที่เขาได้ลงมือทำงาน เพื่อรังสรรค์ให้ฟาวเลอร์กรุ๊ปของเขายิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น หากวันนี้ดูเหมือนว่าความสุขของเขากำลังถูกรบกวน มาร์คัสไม่มีสมาธิในการทำงานเลยวันนี้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ในสมองวนเวียนคิดถึงใบหน้าสวยหวานแปลกตา มันดูจะเป็นตะวันตกแต่ก็มีอะไรมาขัดดูเหมือนความหวานละมุนในดวงหน้านั้นจะมียิ่งกว่าทีโอน่าที่ได้ชื่อว่าเป็นคนมีใบหน้าหวานนั่นแล้ว สงสัยหล่อนคงจะเป็นลูกครึ่ง...แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครึ่งชาติไหน จวบจนถึงเวลาเลิกงาน มาร์คัสถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รับรู้ในวินาทีนั้นว่าตนเองรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหน มาร์คัสผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็นของอลิซ เลขาหน้าห้องของเขา มาร์คัส ฟาวเลอร์...เลิกงานตรงเวลา!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม