อรนลินเงยหน้าขึ้นมองตึกสูงตรงหน้าด้วยสายตาชั่งใจ
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาหญิงสาวพยายามติดต่อ ‘เขา’ ตลอดเวลา...หากเหมือนว่าหล่อนจะไม่มีวันเข้าไปถึงตัว ‘อารอน เพียร์สัน’ เลยแม้แต่น้อยนิด ไม่ว่าจะเพียรเปลี่ยนเวลาโทรไปหาเมื่อไหร่ ตลอดเวลานั้นคำตอบที่หล่อนได้จากปากของคนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์เพียร์สันก็มีแต่คำว่า...ไม่อยู่
อรนลินร้อนใจมาก หล่อนต้องการติดต่อเขาเพื่อขอเงินมารักษาแม่ แม้น้อยครั้งหล่อนจะได้เจอเขาและไม่เคยพูดกันเกินห้าประโยคที่เต็มไปด้วยความห่างเหินและเย็นชา ทว่าหล่อนยังหวังว่าเขาจะยังมีเมตตาไม่เห็นแก่แม่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมียเขาก็เห็นแก่หล่อนที่เป็นลูก หล่อนเชื่อว่าเงินแค่นั้นคงไม่ทำให้ประธานบริหารบิรษัทในเครือเพียร์สันกรุ๊ปขนหน้าแข้งร่วงหรือสะดุ้งสะเทือนได้หรอก
“ดิฉันมาขอพบมิสเตอร์เพียร์สันค่ะ”
หญิงสาวแจ้งความจำนงกับพนักงานเบื้องล่าง แม่สาวผมทองที่หญิงสาวเข้าไปพูดด้วยก็กวาดตามองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า อรนลินที่อยู่ในชุดสุภาพคือกระโปรงทรงเอธรรมดายาวครึ่งน่อง เสื้อสเว็ตเตอร์สีครีมคลุมด้วยโค้ตยาวสีดำ หากทุกสิ่งที่อยู่บนเรือนร่างเย้ายวนของหล่อนก็เป็นเพียงของเก่าไม่มีราคา ใช้งานมานานหลายปี และนั่นทำให้แม่พนักงานถึงกับกวาดตามองหล่อนอย่างสมเพช
แต่งตัวก็โทรม...แล้วคิดจะมาขอพบท่านประธานนี่นะ!
ขอทานหรือเปล่ายะหล่อน!
เจ้าหล่อนเหยียดปากยิ้มเยาะ ดวงตาสีฟ้าใสมีแววทั้งเยาะหยันและสมเพชอยู่ในนั้น ทำเอาอรนลินถึงกับเดือดจัดกับสายตาที่โดนดูถูก แต่สิ่งที่หล่อนทำได้คือสูดลมหายใจลึกระงับอารมณ์โกรธ ใบหน้าเรียวสวยเชิดขึ้นอย่างถือดี แล้วย้ำในสิ่งที่หล่อนต้องการอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ดิฉันต้องการพบมิสเตอร์อารอน เพียร์สัน”
“มาติดต่อผิดคนแล้วมั้ง? อย่างเธอน่ะเหรอจะเข้าพบคนระดับท่านได้”
พนักงานสาวปฏิเสธอย่างหยาบคาย อรนลินได้แต่สะกดใจไว้ สิ่งที่ทำจึงมีเพียงส่งสายตาเย็นชาให้อีกฝ่ายเท่านั้น
หากเมื่อวอนขออีกหลายครั้ง แม่พนักงานสาวก็ยังยียวนและยืนกรานคำเดิมทำให้อรนลินถึงกับหมดความอดทน หญิงสาวร่างเล็กกว่าสาวๆอเมริกันตบมือลงบนเคาน์เตอร์หินอ่อน โน้มตัวไปข้างหน้า ใช้สายตาจ้องมองพนักงานสาวตรงหน้าด้วยแววตาดุดันแล้วบอกว่า
“ติดต่อเขาให้ฉันเดี๋ยวนี้! แล้วบอกเขาว่าอรนลินขอเข้าพบ!”
“แล้วเธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกันฮึ! ยัยขอทาน! ถึงจะเข้าพบท่านได้”
แม่พนักงานสาวไม่พอใจที่ตนเองโดนข่มขู่ โต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทำให้อรนลินยิ้มกว้าง หากเป็นรอยยิ้มเย็นชาส่งไปให้หญิงสาวตรงหน้า
“ฉันเป็น...ลูกสาวของเขา”
คำตอบของหญิงสาวทำให้พนักงานสาวต้องกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ใครจะคิดว่าเจ้าของเพียร์สันกรุ๊ปที่แสนจะร่ำรวยจะมีลูกสาว...และเป็นลูกสาวที่ซอมซ่อขนาดนี้ด้วย...โกหกชัดๆ! แม่ขอทาน! อ้างถึงขนาดนี้แล้วคิดว่าฉันจะยอมให้หล่อนเข้าไปพบท่านแล้วฉันก็จะถูกไล่ออกอย่างนั้นเหรอ?
“อย่ามาโกหก รีบๆออกไปจากตรงนี้ดีกว่า ก่อนที่ฉันจะให้คนมาไล่เธอไป”
หล่อนเหยียดปากใส่อรนลินแล้วว่าเสียงดัง นั่นเรียกให้เจ้าของนัยน์ตา สีเทาจัดราวเมฆหมอกมองตรงมา ร่างสูงสง่าเกือบร้อยเก้าสิบอยู่ภายใต้ชุดสูทของอามานี่เดินตรงมาที่นี่ ผมสีดำสนิทของเขาเป็นประกายยามต้องแดดยามเช้า ใบหน้าหล่อเหลาคมคายราวกับเทพเจ้ากรีกสะกดให้อรนลินมองเขาไม่หลบสายตา หากดวงตาของหล่อนนั้นวูบหนึ่งเต็มไปด้วยความไม่ชอบจนเกือบกึ่งเกลียดชังชาย ผู้นี้ทั้งๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนและเขาพบกันเพียงลำพังโดยไม่มีอารอน เพียร์สันยืนอยู่แถวนี้ด้วย!
ทุกย่างก้าวที่เขาเข้ามาใกล้ อรนลินราวกับอุปาทานว่าหล่อนได้กลิ่นของความพ่ายแพ้และความหดหู่ลอยวนเวียนรอบตัวลูกครึ่งอเมริกัน – กรีก คนนี้... ชายผู้เป็นลูกชายคนเดียวของอารอน เพียร์สัน
เดเมียน...พี่ชายร่วมบิดาเพียงคนเดียวของหล่อนเอง!
พนักงานสาวที่มีเรื่องกับอรนลินถึงกับรีบผุดลุกขึ้นยืนโดยไว สายตาคมดุและทรงอำนาจของทายาทคนเดียวของเพียร์สันทำให้หล่อนรู้สึกสั่นได้ทุกครั้งที่ได้เห็น ชายผู้นี้มีรัศมีที่ทำให้ผู้คนเกรงกลัวเหมือนกับชื่อของเขา...เดเมียน
“มีเรื่องอะไรกัน?”
เสียงทุ้มต่ำถาม น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเคยชินว่าตลอดเวลาตนเองเป็นผู้ออกคำสั่ง พนักงานสาวรู้สึกสั่นพับๆขาแทบทรุดแต่ก็แข็งใจตอบ
“ผู้หญิงคนนี้บอกว่าจะมาขอพบท่านประธานค่ะท่าน”
เดเมียนตวัดตามองอรนลินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ อรนลินมองตอบไม่แพ้กัน เดเมียนเบือนหน้ากลับไปมองพนักงานสาวคนนั้นแล้วสั่งว่า
“งั้นให้เข้าพบ”
“แต่ว่า...หล่อนอ้างว่าตนเองเป็นลูกสาวมิสเตอร์เพียร์สัน ดิฉันเห็นว่าเราสมควรโยนหล่อนส่งให้ตำรวจข้อหา...”
“ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ...อย่าได้ออกความคิดเห็นอะไรถ้าฉันไม่ได้ร้องขอ”
เดเมียนโต้กลับเสียงเย็นชาทำเอาพนักงานสาวถึงกับสั่น หากอรนลินกลับเชิดหน้าขึ้น หล่อนมองผู้ที่ช่วยหล่อนด้วยสายตาไม่ชอบใจ ริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบเม้มแน่น แล้วหมุนกายหมายจะเดินตรงไปยังประตูทางออกทันที
หล่อนไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเดเมียน เพียร์สันโดยเด็ดขาด!
อรนลินรู้...ทั้งที่ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำอะไรหล่อน แต่หล่อนก็เหมือนเด็ก ขี้อิจฉา พ่อทิ้งหล่อนให้ยากลำบากกับแม่ ในขณะที่เขาและแม่ของเขาอยู่อย่างสุขสบาย อยู่อย่างราชา...มันทำให้หล่อนแค้น หล่อนพยายามสร้างตัว ทำงานหนัก และหมายจะพิสูจน์ตัวเองว่าถึงแม่หล่อนจะเป็นเพียงหญิงต่างชาติจนๆ หล่อนเป็นลูกครึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของอัมพา แต่หล่อนก็ไม่มีวันเสียใจ...แต่สักวัน อารอนต้องยอมรับหล่อนและแม่ให้ได้…เขาต้องมาคุกเข่าขอโทษที่ทิ้งหล่อนและแม่ไป!
“เธอต้องการมาพบพ่อไม่ใช่เหรออรนลิน”
เสียงเดเมียนที่ดังไล่หลังทำให้อรนลินชะงักฝีเท้าลง แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดลอดจากริมฝีปากได้รูปของเขา หญิงสาวก็ยักไหล่แล้วตั้งท่าเดินต่อไป หากเดินได้เพียงสามก้าวเท่านั้น หญิงสาวก็รู้สึกเหมือนข้อมือหล่อนถูกกระชาก แล้วหล่อนก็ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยแววโกรธเคืองของพี่ชายร่วมบิดา นิสัยเขาที่หล่อนเคยได้ยินมาคือ...เดเมียนเปรียบเสมือนปีศาจสมชื่อ
เขาเลือดร้อนและอารมณ์ร้อน...ตอนเดียวที่เขาจะเย็นคือตอนที่เขาเชือดศัตรูอย่างช้าๆ และทรมาน!
“เธอมาหาพ่อไม่ใช่เหรอ...ทำไมไม่ขึ้นไปพบหน่อยล่ะ” เดเมียนเอ่ยซ้ำอีกครั้ง
อรนลินเชิดหน้าหนี มองไปอีกทางที่ไม่ใช่ใบหน้าของเดเมียนในยามตอบปฏิเสธเสียงหนักแน่น
“ไม่!”
ทว่าเดเมียนกลับไม่สนใจ ร่างสูงเอ่ยสวนใส่หน้าหล่อนเสียงดังลั่น
“ขึ้นไป! ฉันเตือนไว้อย่างหนึ่งนะอรนลิน ถ้าเธอยังถือทิฐิบ้าๆ นั่น แม่เธอจะไม่รอด จำเอาไว้!”
คำพูดที่เหมือนกับรู้เรื่องราวของเดเมียนทำให้อรนลินเบิกตาโต แล้วสองขาเดินตามแรงจูงกึ่งกระชากจากร่างสูงนั้นไปจนได้...