“แกไม่ต้องอายหรอก ไหน ๆ ก็แต่งงานกับเขาแล้ว ว่าแต่ทำไมถึงไปแต่งกับเขาได้ล่ะ” ใบเฟิร์นถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเพื่อนเลิกกับคนหนึ่ง แต่ไปแต่งกับคนหนึ่งในเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์
“เรื่องมันยาว” รินลณีบอกเสียงอ่อย เผื่อเพื่อนไม่อยากฟัง
“ยาวแค่ไหน พวกเราก็จะฟัง!” พอลลี่พูดขึ้น ส่วนแฝดสองสาวพยักหน้าพร้อม ๆ กัน
“ถ้าเรื่องเรียนพวกแกใฝ่รู้ขนาดนี้ คงได้เอทุกวิชา” รินลณีเอ่ยกวนเพื่อน เพราะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียเพื่อน ๆ คงต้องรู้ให้ได้ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้อยากมีความลับอะไรกับเพื่อน ดีเสียอีก เธอจะได้มีคนปรึกษาว่าควรรับมืออย่างไรกับสามีตีทะเบียน
“ฉันเห็นไอ้พี่วินจูบกับเฮียพัฒน์”
“หา! แกก็เลยแย่งพี่หมอพัฒน์มาเหรอ” พอลลี่ขัดจังหวะถามขึ้นมา
“เปล่า!”
“หรือว่าแกประชดไอ้วิน เลยไปปล้ำพี่หมอพัฒน์”
“เปล่า!”
“หรือว่า...”
“ตกลงพวกแกจะฟังฉันเล่าหรือจะมโนกันเองหา!” คนสวยจะไม่ทนแล้วนะ ถึงเธอจะไม่มีตำแหน่งดาวคณะหรือดาวมหาวิทยาลัย แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นของดีวิศวะแหละ
“โอ๋ ๆ ไม่กวนแล้ว เล่าจ้าเล่าเลย พวกเราจะไม่ขัดสักคำ” ใบบัวที่ไม่ได้ขัดตั้งแต่แรกหันไปถลึงตาใส่พอลลี่และใบเฟิร์นที่มัวแต่ขัดเพื่อน จนรินลณีโมโหแล้วพานจะไม่เล่า ก็อดรู้กันพอดี...เกรงใจต่อมเสือกของใบบัวด้วย ตอนนี้ทำงานหนักแล้ว ไม่ได้รู้คืนนี้จะนอนหลับไหม
“เล่าจบแล้วค่อยถามสิ คราวนี้ใครถาม แม่จะตบให้ปากแตก!” รินลณีขู่เพื่อนทั้งสาม โดยที่ทั้งสามรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที
“ฉันเจอสองคนนั้นจูบกัน ไอ้พี่วินมันก็บอกเลิกฉันทันที ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ฉันไปเมาห้องของณิกา แล้วเฮียพัฒน์ดันอยู่ในห้องนอนคนเดียว ฉันเลยตั้งใจจะถ่ายรูปนอนกอดเฮียไปให้ไอ้พี่วินเพื่อแกล้งมัน แต่ดันส่งผิดเข้าไลน์กลุ่มครอบครัว พวกแกก็รู้ว่าบ้านฉันกับบ้านเฮียติดกัน พ่อกับแม่เลยจับเราสองคนจดทะเบียนกันไว้ก่อน รอเฮียจบแล้วค่อยจัดงานแต่งงาน”
ทั้งสามคนชูมือขึ้นพร้อมกัน
“มีอะไร” รินลณีเอ่ยถามเพื่อนที่ต่างรีบยกมือ
“พวกฉันพูดได้แล้วใช่ไหม” พอลลี่ที่เป็นหน่วยกล้าตายถามขึ้น
“เออ มีอะไรว่ามา” รินลณีพูดขึ้น และตอนนี้อนุญาตให้เพื่อนถามได้แล้ว
“แล้วพี่พัฒน์ก็ยอม?” ใบบัวถามบ้าง
“ก็เขาแหละเสนอตัวรับผิดชอบ แทนที่จะบอกว่าไม่มีอะไร” รินลณียังอดเคืองไม่ได้ที่เขาบอกว่าจะรับผิดชอบ แทนที่จะยืนยันกับผู้ใหญ่ว่าเขาและเธอไม่ได้มีอะไรเกินเลย ก็อย่างว่า คงกลัวที่จะต้องเล่าความจริงของตัวเองละสิ
“แล้วพี่พัฒน์เป็นเกย์จริงรึเปล่า” ใบเฟิร์นถาม เพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่เชื่อใจพวกเหล่าหมอ ๆ แล้ว
“ไม่ได้เป็น!” เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของรินลณี แต่เป็นเสียงของพอลลี่ที่ตอบขึ้นแทบจะทันที
“แกรู้ได้ไง พอลลี่” รินลณีเอ่ยถามเพื่อน
“ฉันดูออกย่ะ แกไม่รู้เรอะ ผีย่อมเห็นผี ฉันเจอพี่หมอพัฒน์หลายรอบ แต่เรดาร์เกย์ไม่ทำงานเลย ไม่เหมือนไอ้พี่วินนั่น เรดาร์ฉันงี้สั่นระริกๆ แต่นังนี่มันโง่ไม่เชื่อฉันไง”
รินลณีโดนอีกดอก เรื่องนี้เธอคงโดนพอลลี่กัดจนเรียนจบแน่
“ไม่ว่าเพื่อนค่าพอลลี่ แค่นี้เพื่อนก็เสียใจจะแย่แล้ว” ใบบัวเอ่ยปลอบใจเพื่อน
“มันจะเสียใจทำไม ที่มันงาบอยู่นี่เดือนมหา’ลัยเชียวนะ พี่หมอพัฒน์อะใบบัว มันเสียใจก็บ้าแล้ว” พอลลี่หันไปคุยกับใบบัว ส่วนใบบัวก็เริ่มคล้อยตามที่พอลลี่พูด พยักหน้าหงึก ๆ เหมือนเห็นด้วย
“เออเนอะ นั่นพี่หมอพัฒน์เดือนมหา’ลัยเชียวนะ จะเสียใจทำไม ได้เดือนมหา’ลัยมามาแทนเดือนคณะ เริ่ดอะ” ใบบัวคล้อยตามพอลลี่เต็มที่
“ใช่ไง แล้วแกรู้ไหม พี่หมอพัฒน์น่ะแรร์ไอเทมเลยนะแก” พอลลี่ยังคงวิเคราะห์ต่อ
“แรร์ยังไง...” ใบบัวยังไม่เข้าใจ
“นั่นเดือนมหา’ลัยไงแก หล่อ รวย เก่ง จะหาที่ไหนได้ เพราะงั้นไม่ต้องสงสารยัยนี่ สงสารพวกหล่อนดีกว่าที่ยังหาผัวไม่ได้”
“พอลลี่ นี่แกเอาอะไรไปใส่หัวน้องฉัน” ใบเฟิร์นบ่น มาหาผัวหาเผออะไรกันตอนนี้ เดี๋ยวน้องสาวเธอใจแตกกันพอดี
“แกแน่ใจนะพอลลี่ว่าเฮียพัฒน์ไม่ได้เป็นเกย์จริง ๆ” รินลณีถามด้วยความไม่แน่ใจ
“ไม่ได้เป็นจริงจริ๊ง เอาพรหมจารีฉันพนันได้เลย”
“หล่อนไม่มีแล้วย่ะนังพอลลี่ จะเอามาพนันทำไม” ใบเฟิร์นเอ่ยขัด
“อ้าวเหรอ ลืมไป” พอลลี่แสร้งค้อนเพื่อนเอาฮา พร้อมทั้งบิดตัวด้วยความเขินอาย รินลณีเบะปากด้วยความหมั่นไส้เพื่อน...ผู้ถือพรหมจรรย์อย่างพอลลี่
“รินณี หรือแกจะให้ฉันพิสูจน์?” พอลลี่เสนอไอเดียด้วยสายตาแพรวพราว
เพียะ! เสียงฝ่ามือของรินลณีกระทบต้นแขนของพอลลี่ทันที
“โอ๊ย อีนี่ มีหวงผัว ว่าแต่พี่หมอพัฒน์เขามีตอดเล็กตอดน้อยแกรึเปล่า ถ้ามีแสดงว่าเขาไม่ได้เป็น” พอพอลลี่พูดมาถึงตรงนี้ รินลณีก็หน้าแดงขึ้นมาทันที
“โห หน้าแดงขนาดนี้ ที่บอกว่ายังไม่ได้ฟาดกัน ฉันชักจะไม่เชื่อแล้ว”
“นังพอลลี่ เดี๋ยวแม่ตบปาก” รินลณีต้องทำเสียงแข็งด่ากลบเกลื่อนเพราะกลัวเพื่อนรู้ทัน
“สาบานว่าแกกับเขาไม่เคยตอดกัน?”
“ไม่เคยจริง ๆ แค่เกือบ...อุ๊ย!” คนที่เผลอพูดรีบปิดปากทันที
“นั่นไง...ฉันบอกละว่ามันฟาดเดือนมหา’ลัยแล้ว นังรินณี ต้องให้ฉันเค้นคอแกใช่ไหมถึงจะยอมบอก” พอลลี่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรัก แค่เห็นหน้าเพื่อนสาว หล่อนก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเจออะไรมาบ้าง
“ก็ฉันอายอะ”
“อีดกทง...จะอายอะไร นี่เพื่อนกันทั้งนั้น พวกฉันไปซะบะละฮึ่มกับใครยังเล่าให้แกฟังเกลี้ยง” พอลลี่อารมณ์ขึ้นอย่างหมั่นไส้นังเพื่อนชะนี
“นังพอลลี่ อย่าเหมารวมสิ ฉันกับใบเฟิร์นยังไม่เคยนะยะ” ใบบัวพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“เออ ๆ มีแต่ฉันนี่แหละผู้มากประสบการณ์ พวกหล่อนจะเก็บไว้ทำไมยะ ใช้ ๆ มันบ้าง ป่านนี้แห้งหมดแล้ว”
“นังพอลลี่!!!” ทั้งสามสาวเรียกชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงเขินอาย พอลลี่ได้แต่มองบนไปยังพวกเวอร์จินทั้งหลาย ทีตอนเล่าให้ฟังละชอบกันจะตาย แต่ไม่ยอมลงมือทำ นังพวกทฤษฎีแน่น เน้นศึกษาไม่เน้นลงมือ เฮ้อ...
“ตกลงว่ายังไง แล้วแกชอบผัวแกไหม” ใบบัวหันไปถามรินลณีหลังจากเงียบฟังอยู่สักพัก ทุกคนดูตกใจกับคำถามของคนพูดน้อยที่เรียกสามีเพื่อนว่าผัวนี่แหละ
“ผัวเผออะไร ฉันกับเฮียพัฒน์ยังไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย” รินลณีรีบแหวใส่เพื่อน
“คำพูดหล่อนน่ะดูอายเหลือเกิน แต่หารู้ไม่ สีหน้าหล่อนน่ะมันแสดงออกว่าอยากมีผัวจนตัวสั่น ฉันรู้ ฉันดูออก อย่ามาเถียง ฉันเคยมาก่อน” พอลลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางรู้ทัน เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากหญิงสาวทั้งสามนางที่ยังไม่เคยมีผัวอีกครั้ง