บทนำ ขอต้อนรับสู่นรก 1

923 คำ
ภายในโรมแรมดังระดับหกดาวมีชื่อเสียงและดีที่สุดของจังหวัดภูเก็ตถูกเนรมิตงานหมั้นระดับช้างให้แก่สองตระกูลใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในภูมิภาคนี้ บรรยากาศโดยรอบดูยิ่งใหญ่อลังการดุจพระราชวังยามมองเห็นเสาโรมัน แชนเดอเลียร์ระย้าและผ้าม่านผืนใหญ่ที่นำมาตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม ประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาวนานาชนิด ทั้งกุหลาบ ทิวลิป เยอบิร่า คาร์เนชั่น แคทลียา ลิลลี่และอีกมากมาย ทำให้งานทั้งงานอบอวลไปด้วยความอบอุ่นอ่อนหวาน แสนจะโรแมนติกราวกับหลุดเข้าในโลกนิยายพาฝัน สองตระกูลเลื่องลือนั่งพร้อมหน้าอยู่บนเก้าอี้และโซฟาสไตล์หลุยส์ โดยมีว่าที่คู่หมั้นหนุ่มสาวนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นพรมด้วยสีหน้าชื่นมื่นยินดียิ้มรับ ตระกูล ‘อนันตทรัพย์’ อุดมไปด้วยขุมทรัพย์ความมั่งคั่งสมชื่อ กำลังจะเกี่ยวดองกับตระกูลเก่าแก่ระดับเจ้าขุนมูลนายอย่าง ‘บุญยมาส’ ผ่านบุตรชายและบุตรสาวของพวกเขา การแต่งงานครั้งนี้ทั้งแขกและสื่อมวลชนพากันคาดเดาเอาว่าอาจสะเทือนถึงบัลลังก์ของตระกูล ‘ธนฉัตรนคร’ ที่ครองความเป็นหนึ่งมาอย่างยาวนานให้สั่นคลอนได้ คชา ธนฉัตรนคร หนึ่งในแขกกิติมศักดิ์ที่ถูกเชิญมาด้วยมารยาททางสังคมยกแก้วเชมเปญแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาว ดุจมาตา อนันตทรัพย์ สายตาคมแพรวพราวจับจ้องเธออย่างลุ่มลึกแฝงนัยยะ ทำให้หญิงสาวที่สบสานสายตาต้องรีบเบือนหน้าหนี จะด้วยเหตุผลของความกรุ่นโกรธไม่พอใจหรือมีอะไรซ่อนลึกมากกว่านั้นก็สุดจะรู้ได้ แต่คชาคิดว่าตัวเองรู้... เขากระตุกยิ้มที่มุมปากบางเบา จนปลายหางตาของคนมองแทบสัมผัสไม่ได้ว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน นอกจากตัวเขาเองที่รู้ ก่อนจะเคลื่อนกายแฝงเร้นหายไปในหมู่คนอย่างเงียบเชียบราวกับเป็นนินจา ดุจมาตาขมวดคิ้ว พลางเหลือบหาเจ้าของร่างสูงกำยำ ก่อนจะละความสนใจจากคชากลับมายังว่าที่คู่หมั้นหนุ่ม เมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียกอย่างอ่อนโยนว่า “มองหาอะไรอยู่เหรอครับ” ดุจมาตาคลี่ยิ้มหวานให้พีรวิชญ์ เอ่ยเลี่ยงๆ ว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตาลก็แค่ตื่นเต้นมากไปหน่อย” ฝ่ามือหนาอบอุ่นสอดกุมประสานมือเธออย่างนุ่มนวล รอยยิ้มหวานซึ้งคลี่ออกจนสาวๆ ภายในงานพากันใจระทวยเพราะความหล่อเหลาหวานละมุนของสุภาพบุรุษหนุ่ม “ไม่ใช่แค่คุณหรอก ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ตาลเหมือนกันครับ” พีรวิชญ์บอกเธออย่างเขินๆ ใบหน้าอ่อนโยนดูแล้วเหมือนหนุ่มน้อยริรักก็ไม่ปาน “ขอบคุณนะคะพีทที่ให้กำลังใจตาล” เธอสอดกระชับปลายนิ้วเขาแน่นแฟ้นด้วยความปลาบปลื้ม พีรวิชญ์ส่ายหน้าน้อยๆ กระซิบบอกข้างหูเธอแผ่วเบา แต่หวานฉ่ำไปถึงหัวใจว่า “เพราะผมรักคุณ” ดุจมาตายิ้มเอียงอาย ใบหน้าสวยหยาดเยิ้มขึ้นสีระเรื่อกับความอ่อนโยนหวานที่แฟนหนุ่มมอบให้จนเธอเกือบสำลักจมอยู่ในดงน้ำตาล เธอมองเขาด้วยความรักที่ท่วมท้นล้นหัวใจ อยากมองให้นานที่สุดก่อนที่จะ... “เอาละ ได้ฤกษ์แล้ว” วรงค์ดูนาฬิกาข้อมือแบรนด์ดังระดับโลก ก่อนจะเอ่ยกับกนธีและหทัยรัตน์พ่อแม่ของฝ่ายหญิง ทั้งสองพยักหน้า ก่อนที่ฝ่ายสามีจะเอ่ยตอบ “งั้นก็เริ่มพิธีกันเถอะครับ” เพ็ญรดีแม่ของฝ่ายชายลุกขึ้นเดินกรีดกรายมาเปิดสิ้นสอดที่เตรียมจะมอบแก่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงให้แขกเหรื่อฮือฮา มีทั้งทองคำแท่ง เพชรพลอย เครื่องประดับล้ำค่า เงินสดหลายสิบล้าน รวมถึงโฉนดที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงลิ่วหลายแห่ง เรียกได้ว่าแทบจะขนสมบัติมาหมดบ้านเพื่อขอดุจมาตาเลยทีเดียว แต่ที่ทำเอาหลายคนตื่นตะลึงเห็นจะเป็นแหวนเพชรเม็ดงามหาได้ยาก ที่ฝ่ายชายตั้งใจนำมาเพื่อหมั้นฝ่ายหญิงนี่แหละ ประกายของแสงแวววาวจากตัวเพชรหลายกะรัตทำเอาผู้ร่วมงานถึงกับตาพร่า จงใจโอ้อวดให้เห็นถึงความร่ำรวยของครอบครัวของฝ่ายชาย “สวมแหวนให้น้องสิตาพีท” เพ็ญรดีอวดแหวนเพชรในกล่องกำมะหยี่ พลางกรีดยิ้มใส่จริตความเป็นผู้ดีเก่าอย่างเต็มเปี่ยม ก่อนจะนำมันวางลงในมือของลูกชาย พีรวิชญ์หยิบมันออกมา แววตาอบอุ่นมองหญิงสาวอย่างรักลึกซึ้ง ฝ่ายเธอเองก็ยิ้มหวานบาดใจส่งกลับคืนมาให้เขา เตรียมจะบรรจงสวมลงที่นิ้วนางข้างซ้ายของดุจมาตา แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน! จู่ๆ ว่าที่คู่หมั้นสาวคนสวยก็ล้มฟุบแน่นิ่งไปบนตักของพีรวิชญ์ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องแตกตื่นตกใจของทุกคน โดยเฉพาะว่าที่คู่หมั้นหนุ่มที่นั่งนิ่งอึ้งมึนงงไม่ยอมขยับ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดเหตุบ้าๆ อย่างนี้ขึ้นกับเขา ร้อนถึงกนธีและหทัยรัตน์ที่ลุกพรวดเข้ามาช่วยประคองตัวลูกสาวไว้ในอ้อมอก ปากก็พร่ำเรียกเสียงสั่นเครือว่า “ตาล! เป็นอะไรไปลูก” หทัยรัตน์น้ำตาร่วงเผาะ หวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อดุจมาตาไม่ฟื้นและไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ แม้ว่าจะเขย่าตัวและตบแก้มเรียกเบาๆ กี่ครั้งกี่หนก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม