บทที่ 1
ทำความรู้จักกันและกัน
หลังจากตกตะกอนความคิดอยู่นานเขาก็ไม่สามารถตัดสินใจได้อยู่ดีว่าควรทำอย่างไร แต่หากเขายอมรับความผิดพลาดในอดีตที่เกิดขึ้นอาการของเธอจะแย่ลงไหม เธอจะไม่ให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองรึเปล่า
“เป็นไงบ้าง” ปืนรบพักความคิดของตัวเองเอาไว้ ส่งเสียงทักทายคนตัวเล็กที่นั่งคิ้วขมวดอยู่บนเตียง
“คุณชื่ออะไร”
“ปืนรบ เมื่อก่อนที่รักเรียกฉันว่าป๋าปืน แต่ถ้าตอนนี้อยากเรียกที่รักฉันก็ไม่ขัด”
“จะอ้วก ป๋าปืนเนี่ยนะ ใครจะไปหลับหูหลับตาเรียกแบบนั้นกันแล้วก็อย่ามาเรียกฉันว่าที่รักได้ไหมมันดูตอแหลเกินไปน่ะ”
“ไม่ให้เรียกที่รักแล้วจะให้เรียกอะไรในเมื่อเราเป็นแฟนกัน แต่ที่รักคงไม่เชื่อว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่เชื่อ”
“งั้นดูนี่” ปืนรบล้วงกระเป๋ากางเกงยีนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปที่เขากับเธอถ่ายด้วยกันด้วยท่าทางสนิทสนมให้อีกฝ่ายดู
“ก็แค่รูปถ่าย ถ้าจะให้ใช้รูปถ่ายมายืนยันว่าคุณเป็นแฟนฉันฉันคงมีแฟนเป็นร้อยคนแล้วมั้ง” ใบบัวเบะปากให้กับหลักฐานที่เธอมองว่าไร้สาระและไม่มากพอที่จะใช้ยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอได้ เพราะเธอเดตและถ่ายรูปกับผู้ชายมานับไม่ถ้วนเขาอาจจะเป็นแค่หนึ่งในคนที่เธอเคยเดตด้วยก็ได้
“ฉันยังมีหลักฐานอื่นพิสูจน์ให้ที่รักเชื่ออีกเยอะ” ปืนรบถอนหายใจเบาๆ แต่ลึกๆ กลับดีใจที่ได้เห็นท่าทางพยศของเธอ เพราะถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงมีเพียงสายตาผิดหวัง และเย็นชาที่เธอมองมาที่เขา
“เอามาดูสิ แล้วก็บอกให้เลิกเรียกที่รักได้แล้วฟังไม่รู้เรื่องรึไง” เธอแบมือตรงหน้าเพื่อรอรับหลักฐานไปพิจารณาอีกครั้ง
“...”
“ทำไมไม่เอามาให้ดู หรือจริงๆ แล้วไม่มี” คนตัวเล็กหรี่ตาจับผิดเมื่อเห็นว่าเขามีสีหน้าเป็นกังวลแสดงออกมาครู่หนึ่ง ถึงจะเพียงแค่แวบเดียวแต่เธอก็จับสังเกตได้ทัน
ทว่าสำหรับปืนรบไม่ใช่เพราะเขาไม่มีหลักฐานอย่างที่เธอกล่าวหา แต่เป็นเพราะหลักฐานพวกนั้นอาจจะไปกระตุ้นความทรงจำของเธอก็ได้ ตอนนี้เขาอยากให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่มากกว่านึกถึงเรื่องราวในอดีตในเมื่อเธอเองก็ไม่อยากจำมัน เขาก็จะไม่รื้อฟื้นมันในตอนนี้ คงต้องรอให้ร่างกายเธอแข็งแรงขึ้นก่อน และเขาก็จะใช้โอกาสนี้พิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอ อย่างน้อยถ้าความทรงจำเธอกลับมาเธอจะได้นึกถึงช่วงเวลาดีๆ หลังจากนี้แทนช่วงเวลาที่ผ่านมา
“เงียบทำไม ตกลงไม่มีจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” ใบบัวเริ่มมองปืนรบด้วยสายตาไม่ไว้ใจ เธอคิดว่าเขาคงเป็นแค่หนึ่งในผู้ชายที่เธออาจจะเคยเดตด้วย แล้วเขาก็แค่อาศัยใช้โอกาสที่เธอความจำเสื่อมมาฉวยโอกาสเป็นแฟนเธอก็เท่านั้น
“ฉันแค่อยากให้ที่รักพักผ่อนก่อนอย่าพึ่งคิดอะไรตอนนี้เลยนะ”
“แล้วนี่จะไม่ยอมเลิกเรียกที่รักจริงๆ ใช่ไหม”
“ไม่ หรือจะให้ฉันเรียกเมียจ๋า?”
“สาบานด้วยเกียรติของผู้หญิงสวย ฉันไม่มีทางเป็นแฟนกับคุณแน่ๆ ยอมรับมาเถอะว่าคุณฉวยโอกาสตอนฉันไม่สบายมาเนียนเป็นแฟนฉันน่ะ” เธอชูมือขึ้นสามนิ้วพร้อมกับกล่าววาจาสัตย์ด้วยความมั่นใจ แต่ปืนรบกลับจับประสานเอามากุมไว้ในมือตัวเอง และก็ไม่ได้สนใจท่าทางขัดขืนของคนตัวเล็กที่พยายามจะดึงมือกลับเลยแม้แต่น้อย
“อย่าสาบานไปเลยพระเจ้าไม่รับคำสาบานจากผู้หญิงแบบที่รักหรอก”
“นี่! หลอกด่าฉันเหรอ”
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลยฉันหมายถึงจะสาบานให้รบกวนพระเจ้าทำไมในเมื่อเราเป็นแฟนกันจริงๆ”
“ขี้ตู่ขึ้นมาเองหลักฐานเป็นรูปธรรมก็ไม่มี”
“รอที่รักออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้าน ที่รักก็จะได้เห็นเองหลักฐานที่เราคบกัน อยู่กินด้วยกัน กลับบ้านมาเจอหน้ากันทุกวัน แถมยัง...กันทุกคืนอีกต่างหาก” ปืนรบบอกด้วยน้ำเสียงเจ้าชู้พร้อมกับจูบลงบนฝ่ามือเรียวเล็กหนักๆ หนึ่งทีเพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ
“...” การกระทำ น้ำเสียง และแววตาที่สื่อความหมายมากมายที่เขาต้องการส่งมาถึงเธอทำให้ใบบัวรู้สึกถึงอันตรายจากผู้ชายตรงหน้า สำหรับเธอผู้ชายก็เปรียบเสมือนเสื้อผ้าตามเทรนด์ที่พอหมดยุคก็ต้องเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่เขากำลังทำให้เธอตกอยู่ภายใต้สถานะที่เขาอ้างขึ้นมาบีบบังคับด้วยสายตาที่น่าค้นหาคู่นี้
“ฉันจะสัมผัสที่รักทุกวันจนกว่าที่รักจะจำความรู้สึกที่เราเคยมีกันและกันได้”
“ฉันว่ามันมีวิธีการอื่นมากกว่านะ กลัวคนอื่นไม่รู้เหรอว่าคุณพยายามฉวยโอกาสกับฉัน”
“ทำไมฉันต้องฉวยโอกาสกับเมียตัวเอง ในเมื่อไม่ว่าจะเมื่อก่อน ตอนนี้ หรือแม้แต่ในอนาคตที่รักก็จะเป็นเมียเพียงคนเดียวของฉันอยู่ดี”
“กำลังกล่าวคำสาบานรักกับฉันอยู่เหรอ”
“อยากได้เหรอถ้าอยากได้ออกจากโรงพยาบาลจะพาไปสาบานเอาที่ขลังๆ เลยดีไหม”
“ฉันประชด”
“อ้าวเหรอ” ปืนรบแสร้งตีหน้ามึนจนใบบัวรู้สึกเหนื่อยหน่ายใจไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีกต่อไป
“ฉันเชื่อก็ได้ว่าคุณเป็นแฟนฉัน”
“ผีเข้ารึไงจู่ๆ ถึงเชื่อง่ายแบบนั้น หรือเพราะสาบานไปทั่วเมื่อกี้”
“เราเลิกกันเถอะ”
“ฮะ?”
“ก็เราเป็นแฟนกันตอนนี้ฉันไม่ชอบคุณแล้วเพราะฉะนั้นเรามาเลิกกันเถอะป๋าปืนขา~” ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นหน้าออกมาแสร้งทำแววตาเศร้าเสียใจที่ต้องเลิกรากับเขา
“หึ” ปืนรบกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ ต่อให้ความทรงจำจะเสื่อมไปแต่นิสัยของเธอไม่ได้เสื่อมตามไปเลยสักนิด เจ้าเล่ห์ซุกซนไม่มีใครเกิน
“หัวเราะอะไรของคุณ” สายตาที่เคยเศร้าสร้อยแปรเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ในพริบตาเมื่อได้เห็นอีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากหัวเราะออกมา ถึงจะเป็นการหัวเราะในลำคอแต่สายตาของเขากลับทำให้เธอหงุดหงิดใจ
“ฉันไม่เลิก”
“ฉันจะเลิก”
“อยากเลิกก็เลิกไปคนเดียวฉันไม่เลิก”
“แล้วทำไมถึงไม่เลิกเล่า!”
“เพราะฉันอยากดูแลอยากถนอมที่รักให้ดีกว่านี้ที่รักจะไม่มีวันต้องเสียใจอีก” คำตอบที่แฝงไปด้วยความเศร้า และหดหู่ทำให้ใบบัวชะงักไปครู่หนึ่ง เธอรีบดึงสติตัวเองกลับมาไม่ให้หลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างปืนรบเพราะอยู่ด้วยกันไม่ถึงสิบนาทีเขาเปลี่ยนสีหน้าอารมณ์ไปมากกว่าสิบด้วยซ้ำ แล้วจะเอาอะไรจริงจังกับผู้ชายแบบนี้ได้
“ถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นแฟนฉันจริงๆ แต่ต่อให้เป็นจริงๆ ฉันก็จะทำให้คุณเป็นฝ่ายบอกเลิกฉันเองอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” ใบบัวมุ่ยหน้าใส่ปืนรบก่อนจะทิ้งตัวลงนอนจนลืมไปว่าตัวเองมีอาการเจ็บที่ช่วงล่างอยู่ “ซี้ด...เออนี่คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นอะไรทำไมรู้สึกเหมือนเจ็บ...ตรงนั้นด้วย แถมยังปวดท้องหน่วงๆ อีก”
“ที่รักตกบันไดน่ะสมองคงจะกระทบกระเทือนเลยความจำเสื่อมส่วนที่เจ็บตรงนั้นคงเพราะฉันใหญ่เกินไปมั้งวันหลังจะผ่อนแรงให้นะ” ปืนรบบอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ทว่าสายตาของเขากลับย้อนแย้งจนใบบัวกลอกตาขึ้นลงด้วยความหน่ายใจ เพราะไม่บอกก็รู้ว่าเขากำลังกลั่นแกล้งเธอ “ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อเหรอ”
“ใครจะไปเชื่อที่คุณพูดกัน” ใบบัวตอบกลับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เมื่อมองต่ำลงไปยังเป้ากางเกงของชายหนุ่ม
“อย่ามาดูถูกลูกชายฉันนะนอนบีบเล่นอยู่ทุกคืนจำไม่ได้รึไง”
“จำไม่ได้ความจำเสื่อม” ใบบัวตอบหน้าตายเพื่อกวนอารมณ์อีกฝ่าย
“ได้ งั้นฉันจะโชว์ให้เธอดู”
“คุณจะทำอะไรน่ะ! บ้ารึเปล่านี่โรงพยาบาลนะถ้ามีคนเปิดประตูเข้ามาจะทำยังไง”
“ก็เก็บกลับสิจะให้หันไปโชว์ใส่รึไง ถามอะไรแปลกๆ นี่สมองที่รักกระทบกระเทือนไปส่วนอื่นด้วยใช่ไหม” ปืนรบบอกพร้อมกับรุดเข้ามาประคองใบหน้าหวานขึ้นมามองอย่างพิจารณา
จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!
“อ๊ะ!” ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อเขาพรมจูบลงมาทั่วใบหน้าของเธอ
“แก้ขัดไปก่อนนะที่รักไว้หายดีแล้วผัวจะจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้” ปืนรบขยิบตาส่งให้คนตัวเล็กก่อนจะรีบเดินหนีฝ่ามือเล็กที่ง้างตามหลังมาไปนั่งที่โซฟามุมห้อง ทำให้ใบบัวคว้าได้แค่อากาศเท่านั้น
“ฝากไว้ก่อนนะไอ้คนบ้ากาม”
“ว่าผัวแบบนั้นไม่น่ารักเลยนะ”
“อยากให้ฉันกระชากสายน้ำเกลือลงไปหยุมหัวคุณจริงๆ ใช่ไหม!”
“โอเคๆ ยอมแล้วไม่แกล้งแล้ว” ปืนรบยกมือขึ้นเป็นสัญญาณยอมแพ้ให้อีกฝ่ายสบายใจว่าได้เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้ ทำให้เธอยอมสงบลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงส่งสายตาอาฆาตไปให้ชายหนุ่มเป็นระยะ