บทที่ 2 ความสัมพันธ์แบบหยุมหัว

1436 คำ
บทที่ 2 ความสัมพันธ์แบบหยุมหัว ปืนรบยังคงทำหน้าที่แฟนได้อย่างไร้ที่ติตลอดเวลาที่ใบบัวพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล เขามานอนเฝ้าเธอทุกวันถ้าวันไหนมีงานที่ต้องกลับไปทำเขาจะรีบกลับมาดูแลเธอ บางวันต่อให้ตีสามแล้วเขาก็ยังเลือกที่จะขับรถมานอนที่โรงพยาบาล การกระทำที่ใส่ใจของเขาทำให้ใบบัวยอมใจอ่อนให้เขาดูแลเธอในฐานะแฟน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะไม่ต้องการหลักฐานอื่นมายืนยันความสัมพันธ์ “เมื่อไหร่จะได้ออกจากโรงพยาบาลซะที ฉันเบื่อแล้ว” น้ำเสียงแหลมบ่นด้วยความเบื่อหน่ายขณะทานแอปเปิลที่ปืนรบปอกให้ไปด้วย “อีกสองวันก็ได้ออกแล้ว” “จริงเหรอ” ดวงตากลมโตที่เคยสิ้นหวังแปรเปลี่ยนมาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง “ไม่จริง” “นี่คุณ!” จากดวงตาที่เคยเป็นประกายในตอนแรกก็กลับกลายเป็นแข็งกร้าวภายในเสี้ยววินาที “ล้อเล่นน่าดุเหมือน...” “เหมือน” “เหมือนเมียที่บ้านเลย” “แล้วไม่ใช่ฉันรึไง” คนตัวเล็กเอียงคอถาม อีกทั้งยังหรี่สายตามองจับผิดอีกฝ่ายอย่างจริงจัง “ยอมรับว่าเป็นเมียฉันแล้วเหรอ” ปืนรบกะพริบตาปริบๆ มองกลับมาที่คนตัวเล็กด้วยแววตาออดอ้อนจนใบบัวที่รู้ตัวว่าตัวเองหลงกลเขาให้แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนีเพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าของตัวเอง “คะ...ใครเขาอยากจะเต็มใจยอมรับว่าเป็นเมียคุณกัน ก็แค่...แค่ยังไม่มีหลักฐานมาปฏิเสธเลยยอมให้ก่อนหรอก” ใบบัวรีบแก้ต่างให้ตัวเองเพื่อไม่ให้เสียหน้าไปมากกว่านี้ “เชื่อก็ได้” “เชื่อก็ได้อะไรต้องเชื่อสิเพราะฉันพูดความจริง” “อร่อยไหม” ชายหนุ่มไม่ได้ตอบกลับถ้อยคำประชดประชันของคนตัวเล็ก แต่เลือกที่จะถามถึงรสชาติของแอปเปิลแทน “ก็อร่อย ทำไมอยากกินเหรอ” “ถ้าป้อนก็กิน อ้า~” เขายื่นหน้าไปตรงหน้าพร้อมกับอ้าปากกว้างรอรับแอปเปิลเข้าปากทว่าใบบัวกลับเอามือดันปลายคางเขาขึ้นจนได้ยินเสียงฟันกระแทกกันเบาๆ ในปาก “นิสัยเสียแย่งคนป่วยกิน” “ใจร้าย” “เลิกกันไหมล่ะ” “ไม่เลิก ต่อให้ที่รักปล่อยฉันอดตายฉันก็ไม่เลิก” เป็นอีกครั้งที่เธออดใช้สายตามองจับผิดเขาด้วยความคับข้องใจไม่ได้ว่าอะไรทำให้เขาหนักแน่นกับเธอถึงเพียงนี้ ทั้งที่เธอเองก็ไม่เคยดีกับเขาแต่เขากลับยังคงพยายามทำดีกับเธอ คอยดูแลเธออยู่ไม่ห่าง ถึงจะเป็นคนยอมให้เขาทำหน้าที่แฟนชั่วคราวแต่ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้อยู่ดี “มองทำไมคิดหาวิธีเลิกกับฉันอยู่รึไง หน้าเครียดขนาดนั้น” “ถ้าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไม” “ไม่ทำไม เพราะไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังคำตอบของฉันก็มีอยู่อย่างเดียวคือไม่เลิก” “ฉันมีคำถาม” “ถามมาสิ” ปืนรบเลิกคิ้วขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เธอได้ถามตามความต้องการ “ทำไมฉันถึงเรียกคุณว่าป๋าปืน” “ตอนนั้น...ฉันเที่ยวผับอยู่ส่วนที่รักก็ตั้งใจเข้ามาอ่อยฉันโดยเฉพาะ แล้วก็เรียกฉันว่าป๋าคะ ป๋าขา ป๋าปืนขาแบบนี้” “ฉันอยากจะอ้วก แต่เสียดายแอปเปิลน่ะ” “หาว่าฉันโกหกอีก สาบานได้เลยว่าที่รักเรียกฉันแบบนั้น” ใบบัวหลับตาลงพยายามนึกย้อนไปว่าเธอเคยทำแบบที่ปืนรบกล่าวอ้างหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกหนำซ้ำยังทำให้เธอรู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมาเวลาพยายามนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ลืมไปอีกต่างหาก “โอ๊ย!” “ไม่ต้องนึกแล้ว มันสำคัญที่ไหน” “แล้วจะให้ฉันความจำเสื่อมไปตลอดแบบนี้เหรอ แบบนี้พอออกจากโรงพยาบาลแล้วฉันจะใช้ชีวิตยังไง” “ฉันกำลังจะบอกที่รักเรื่องนี้อยู่พอดี” “เรื่องอะไร” “เรื่องมหาลัยเราดรอปสักเทอมหนึ่งก่อนดีไหม ให้ที่รักได้ปรับตัวก่อนแล้วค่อยกลับไปเรียนก็ไม่สาย ฉันไม่อยากให้ที่รักเครียดกับเรื่องเรียนอยากให้พักผ่อนให้เต็มที่มากกว่า” “ก็ดีเหมือนกันขี้เกียจเรียนไม่รู้จะเรียนไปทำไม” ใบบัวตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก พร้อมกับกัดแอปเปิลที่อยู่ในมือเข้าปาก “งั้นลาออกเลยดีไหม เมียคนเดียวป๋าเลี้ยงได้สบายมาก” “เฮ้อ คุณนี่มันต้องรวยมากแน่ๆ งานการก็ไม่ทำ วันๆ เอาแต่มาเฝ้าสาวที่โรงพยาบาลแถมยังบอกให้ฉันลาออกอีก จริงๆ ฉันก็ชอบนะนิสัยรวยใช้เงินแก้ปัญหาน่ะ แต่ถ้าไม่เรียนชีวิตฉันก็ไม่มีอะไรทำแล้ว” “รวยไม่รวยก็ไม่ทำให้เมียต้องลำบากแน่นอน” “ไว้จะรอดูแล้วกันว่ารวยจริงหรือรวยปลอม” “รวยจริงรวยปลอมไม่รู้แต่อันเนี่ยรวยจริงลองจับได้นะ เผื่อความรู้สึกคุ้นเคยจะทำให้ที่รักจำอะไรได้บ้าง” ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มมองเป้ากางเกงตัวเองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “คุณนี่มันตาแก่บ้ากามจริงๆ เลย” “แก่?” “อายุห่างจากฉันเป็นรอบๆ ไม่เรียกแก่เหรอ” “เขาเรียกว่าวัยกำลังกลัดมันที่รักก็รู้ดีไม่ใช่เหรอว่ามันส์ดีขนาดไหน” “ไม่รู้ จำไม่ได้” “งั้นเรามา...” “ไม่ต้องพูด ไหนบอกว่าเรื่องไม่สำคัญจะมาพูดให้เปลืองความจำในสมองฉันทำไม” “ใครบอกเรื่องนี้ไม่สำคัญ สำคัญกว่าที่รักความจำเสื่อมอีก” “ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นมันไม่เข้า” ใบบัวกลอกตาขึ้นบนเมื่อเห็นปืนรบเบะปากมองเธอราวกับต่อว่าที่ปล่อยให้น้องชายของเขาต้องเหงาอยู่เพียงลำพัง “อยากกินอะไรไหม” ปืนรบอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าขนลุกของคนตัวเล็ก “อยากกิน...ซุปข้าวโพด” “เดี๋ยวตอนเย็นให้คนเตรียมให้” “อืม” “ส่วนพ่อแม่ที่รักที่อยู่ต่างประเทศฉันโทรไปบอกเรื่องที่เข้าโรงพยาบาลแล้วนะ” “เมื่อคืนโทรมาแล้วแหละ แต่มาไม่ได้หรอกพวกเขางานเยอะ” น้ำเสียงบอกเล่าที่เต็มไปด้วยความเศร้า ทว่าแววตากลับเย็นชาไร้ความรู้สึกมันมักจะเป็นเช่นนี้เสมอเมื่อต้องเอ่ยถึงบุพการีที่อยู่ไกลคนละฟากฟ้าของตัวเอง “ที่รักยังมีฉันอยู่นะ” ปืนรบส่งยิ้มบางไปให้พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะทุยเบาๆ อย่างอ่อนโยน พยายามส่งผ่านความอบอุ่นมาปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้ำของคนตัวเล็ก “ฉันไม่ได้เป็นอะไรไม่ต้องมองด้วยสายตาแบบนั้น” “ฉันรู้ว่าที่รักเข้มแข็ง แต่เวลาอยู่กับฉันที่รักสามารถอ่อนแอ ร้องไห้ เอาแต่ใจได้ตลอดเวลาเลยเข้าใจไหม” “ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นกัน” ใบบัวบอกพลางเบือนหน้าหนีเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ เรื่องครอบครัวเป็นปมในใจที่เธอซ่อนมันเอาไว้ตลอด เธอพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขจากเงินทองที่พ่อแม่เธอส่งมาให้ เพียงแต่ลึกๆ แล้วเธอเองก็ต้องการความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวบ้าง หลายครั้งที่เธอพยายามเรียกร้องความสนใจโดยการไม่สบาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือการได้พักฟื้นอยู่ในห้องที่ดีที่สุดของโรงพยาบาลแทนการมาเยี่ยมจากพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งทำตัวมีปัญหาทะเลาะวิวาทเธอก็ได้เจอเพียงแค่หน้าทนายคนเดิมที่มาจัดการเรื่องคดีให้ จนในที่สุดเธอก็ได้รับรู้ว่าไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์เธอก็ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่ได้เลย ทุกวันนี้ก็แค่ใช้ชีวิตในแบบของตัวเองไปวันๆ ฉะนั้นนอกจากเงินแล้วความรักก็ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับเธอเลย เพราะพวกเขาเป็นคนสอนให้เธอรับรู้ว่าเงินคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ดังนั้นการที่จู่ๆ ปืนรบจะมาบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอมันเป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเธอใช้ชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งความรู้สึกอยากรักมาโดยตลอด เธอกลัวว่าเมื่อมีความรักจะทำให้ความรู้สึกคาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนที่ถูกรักย้อนกลับมาทำร้ายความรู้สึกของเธออีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม