ตอนที่ 6

1373 คำ
เจคอบยอกย้อนกลับจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาออกห่าง ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยตามเดิมอีกครั้ง มือหนากระชากประตูรถออกแล้วผลักร่างเล็กเข้าไปด้านในพร้อมคาดเข็มนิรภัยให้อย่างเสร็จสรรพ “ขับรถกลับบ้านดีๆ เดี๋ยวพี่จะขับตามไปส่ง เข้าใจไหม” “...” อลิซแสร้งทำเฉย ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งที่อีกฝ่ายถาม ใบหน้าเรียวสวยงอง้ำเพราะขัดใจ “พี่ถาม ได้ยินไหม” เจคอบโน้มใบหน้าลงต่ำจนปลายจมูกโด่งสัมผัสเข้ากับแก้มใส อลิซสะดุ้งเฮือก ใบหน้าเนียนใสเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ความร้อนวูบวาบแล่นไปตามรูขุมขน จนเจ้าตัวต้องรีบเบนหน้าออกจากใบหน้าคมคาย “ทราบแล้วค่ะ” เจคอบกระตุกยิ้มมุมปาก โดนนิดโดนหน่อยก็สะดุ้งไปทั้งตัว แล้วริอยากจะแต่งงาน เด็กหนอเด็ก เจคอบขับรถตามหลังอลิซไปพร้อมๆ กับต่อสายหาปรียาภัทรมารดาของอลิซเพื่อแจ้งว่าพบตัวแล้วและกำลังจะพาไปส่งบ้าน จะได้คลายกังวลใจ กว่าทั้งคู่จะมาถึงคฤหาสน์เรมี่ซึ่งเป็นบ้านของอลิซก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าเนื่องจากเห็นว่าดึกแล้วเจ้าบ้านอย่างปรียาภัทรและอารอนมารดาและบิดาของหญิงสาวจึงเชื้อเชิญให้เจคอบค้างคืน ด้วยเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายถ้าต้องเดินทางดึกๆ ดื่นๆ ใจจริงเจคอบอยากจะปฏิเสธแต่เขาก็มิอาจเสียมารยาทเมื่อผู้ใหญ่ให้ความเมตตา และเขาก็เคยค้างคืนที่คฤหาสน์เรมี่แล้วหลายครั้ง แต่ทุกๆ ครั้งบิดาและมารดาของเขาก็จะมาพักด้วยตามประสาครอบครัวที่สนิทสนมกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องฉายเดี่ยว หวังว่าเด็กแสบคงไม่คิดอะไรแผลงๆ เป็นต้นว่าย่องเข้าห้องเขากลางดึกหรอกนะ เจคอบพักที่ห้องรับรองแขกที่อยู่ทางปีกซ้ายของตึก ส่วนห้องของเจ้าของบ้านจะอยู่ทางปีกขวาของตึกทั้งหมด ร่างสูงรื้อเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเป้ที่หยิบขึ้นมาจากรถเพราะเขาต้องมีเสื้อผ้าสำรองติดรถไว้ตลอดเอาไว้เปลี่ยนหลังซ้อมบอล หลังจากที่จัดการชำระร่างกายเรียบร้อยแล้วก็สวมใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นลงบนเรือนกายกำยำ ร่างสูงเอนตัวลงนอน แผ่นหลังกว้างสัมผัสที่นอนหนานุ่มไม่ทันถึงนาทีด้วยซ้ำ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นอย่างขัดจังหวะเสียก่อน “ยายเด็กแสบ” เจคอบทำสีหน้าเบื่อหน่าย แต่ร่างสูงก็ยอมลุกจากเตียงกว้างไปเปิดประตูให้อีกฝ่ายแบบไม่เต็มใจนัก “มีอะไร” เขาคิดผิดเสียที่ไหน เป็นยายเด็กแสบจริงๆ แถมยังยืนฉีกยิ้มกว้างไม่สะทกสะท้านกับใบหน้าหล่อเหลาที่ดูบึ้งตึง ทั้งยังถือวิสาสะแทรกตัวเข้ามาด้านในโดยที่เจ้าของห้องชั่วคราวอย่างเขาไม่ได้เชื้อเชิญ อลิซทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง ร่างสูงรีบสาวเท้าตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลายังคงบึ้งตึงอย่างคงเส้นคงวา แต่อลิซก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ใบหน้าเรียวเล็กก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างอย่างคงเส้นคงวาเช่นกัน “พี่ถามว่ามีอะไร แล้วดึกดื่นแบบนี้มันสมควรแล้วหรือที่ย่องเข้าห้องคนอื่นแบบนี้” “คนอื่นที่ไหนกันคะ ย่องเข้าห้องคู่หมั้นตัวเอง ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่คะ” “อลิซ!” เจคอบอยากจะบ้าตายกับคำตอบของเธอ เอาเถอะ ในเมื่ออยากจะใช้สิทธิ์คู่หมั้นมากขนาดนั้น เขาก็จะเปิดโอกาสให้เธอได้ใช้อย่างเต็มที่ ก่อนที่สิทธิ์นั้นจะหมดลง ซึ่งไม่น่าจะเกินสามเดือน ร่างสูงพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะถามคำถามเดิมอีกครั้ง “ตกลงมาหาพี่มีอะไร” “อลิซจะมานอนด้วยค่ะ” ‘ยายเด็กแก่แดด’ เจคอบต่อว่าในใจ มองใบหน้าเล็กที่กำลังฉีกยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางบนเตียงขึ้นมา แล้วกลับมาหยุดตรงหน้าอลิซ “พี่เจคไม่ต้องเสียสละนอนที่พื้นหรอกค่ะ นอนด้วยกันบนเตียงก็ได้นะคะ อลิซไม่ถือ” ร่างสูงไม่ตอบเธอ เขายื่นผ้าห่มมาให้ อลิซรับเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างงงๆ “คนที่ต้องนอนพื้นคืออลิซ ไม่ใช่พี่ ลงไปนอนได้แล้ว พี่จะนอน เกะกะ” ว่าจบร่างสูงก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมค่อยๆ ขยับตัวเบียดจนร่างเล็กร่วงไปกองอยู่ที่พื้นข้างเตียงพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ในอ้อมแขน “พี่เจคน่ะ” อลิซตวัดสายตาขุ่นคืองมองเขา ใบหน้าเล็กยู่อย่างแสนงอน ถลึงตาโตใส่ร่างสูงที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เธอตั้งใจจะมานอนซุกอกอุ่นเหมือนตอนที่เธอและเขายังเป็นเด็ก ไม่ใช่บากหน้ามาเพื่อถูกเขาเขี่ยลงเตียงแบบนี้ เฮอะ คิดว่าเธอจะยอมง่ายๆ หรือไง อลิซปูผ้าผืนใหญ่ลงบนพื้นอย่างกระแทกกระทั้น ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วตวัดผ้าที่ใหญ่จนเกินตัวคลุมร่างเล็กของตัวเองเอาไว้ ดูเผินๆ ลักษณะคล้ายหนอนดักแด้ไม่มีผิด จากที่ตั้งใจว่าจะรอให้ร่างสูงหลับสนิทเสียก่อน เธอจะได้ถือวิสาสะไปนอนซุกซบอ้อมอกอุ่นๆ แต่เปลือกตาบางปิดลงไม่ทันถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เจ้าตัวก็เข้าสู่ห้วงนิทราก่อนที่จะได้ทำอย่างที่ตั้งใจ บทที่ 3 ภารกิจพิชิตใจ หลังจากนั้นสิบนาที ร่างสูงที่แสร้งหลับตาผงกศีรษะขึ้นมองร่างเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่ที่พื้นห้อง ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มนิดๆ โดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นสภาพของเธอ ‘อย่างกับหนอนดักแด้’ เจคอบลองเรียกเธอเพื่อทดสอบว่าหญิงสาวแกล้งหลับหรือหลับไปแล้วจริงๆ กันแน่ “อลิซ อลิซ” เมื่อไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบรับกลับมา เจคอบจึงลุกจากเตียง คลายผ้าห่มที่ห่อตัวเธอเอาไว้ราวกับหนอนดักแด้ออก โอบอุ้มร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนแล้ววางลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ ขี้เซาเหมือนลูกแมวไม่มีผิด ตอนเด็กเป็นอย่างไร โตมาก็เป็นอย่างนั้น เจคอบอมยิ้มน้อยๆ ยามที่ลอบมองใบหน้าเนียนใสที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราอย่างมีความสุข นึกย้อนไปถึงวัยเด็กระหว่างเขากับยายเด็กแสบ อลิซติดเขาแจ เกาะเขาหนึบราวกับเป็นลูกลิงติดแม่ อลิซในวัยเด็กตามเขาต้อยๆ ไม่ว่าเขาจะไปไหน เขาจะทำอะไร เธอก็จะตามติดเขาตลอดเวลา และเธอก็มักจะประกาศปาวๆ ว่ารักเขาและจะแต่งงานกับเขาให้ได้ เขาก็คิดว่าเป็นแค่ความคิดของเด็ก โตขึ้นมาความคิดความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไป แต่ก็เปล่าเลย นับวันอลิซก็ยิ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการแต่งงานกับเขา จนกระทั่งเมื่อเก้าเดือนก่อนครอบครัวของเขาและเธอนัดกินมื้อค่ำกันและมีความเห็นตรงกันว่าอยากให้เขาและเธอหมั้นหมายกันเอาไว้ก่อน ด้วยอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่เขาก็มิอาจปฏิเสธได้ เจคอบหลุดออกจากความคิดก็ตอนที่ร่างเล็กที่นอนหลับสนิทเริ่มขยับตัว แล้วนอนเหยียดแข้งเหยียดขาอย่างเต็มที่ ร่างสูงมองภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างระอาใจ ตอนเด็กๆ นอนดิ้นอย่างไร ตอนนี้แม่เจ้าประคุณก็เป็นอย่างนั้น นอนกางแข้งกางขาหมดสภาพสาวสวยแบบนั้น ผู้ชายที่ไหนเห็นเข้า คงไม่มีใครอยากเอาไปเป็นแม่ของลูกหรอก นัยน์ตาสีเทาอมฟ้าทอดสายตามองร่างเล็กอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ เอนตัวลงนอนข้างๆ เธอ รวบเอาร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ที่เขากล้าทำแบบนั้นนั่นก็เพราะรู้ดีว่าอลิซขี้เซามาก และเจ้าตัวก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าถูกเขาโอบกอดเอาไว้เพราะพรุ่งนี้เขาจะกลับบ้านแต่เช้าตรู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม