เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเกียจคร้าน แขนเรียวทั้งสองข้างเหยียดขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนที่มือเล็กจะประสานเข้าหากันแล้วบิดไปมาเพื่อขับไล่ความง่วงงุน อลิซตื่นเต็มตาเมื่อพบว่าตนเองไม่ได้นอนที่พื้น แต่กำลังนอนบนฟูกนุ่ม ตากลมโตราวลูกกวางรีบกวาดสายตามองหาพี่เจคของเธอเป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่พบมีเพียงความว่างเปล่า
“พี่เจคบ้า คงจะหนีกลับบ้านแต่เช้าล่ะสินะ รู้อย่างนี้เมื่อคืนจับปล้ำเสียให้เข็ด”
อลิซบ่นกระปอดกระแปด แต่จะให้ทำจริงๆ น่ะเหรอ ใครจะไปกล้า เธอกล้าพูดแค่ตอนที่เขาไม่อยู่ด้วยนั่นละ ใบหน้าเล็กยู่เข้าหากันอย่างขัดใจ ก่อนจะสาวเท้าลงจากเตียงกลับไปที่ห้องของตัวเอง
“สวัสดีจ้ะโคบี้”
อลิซวางกระเป๋าสะพายพร้อมกล้องDSLRคู่ใจลงบนโต๊ะไม้มะฮอกกานีซึ่งเป็นโต๊ะทำงานประจำของเธอ ถึงแม้ว่าจะเป็นถึงลูกของเจ้าของบริษัท แต่อลิซก็ไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ หญิงสาวสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี และมีเพื่อนสนิทสาวชาวอเมริกันอย่างโคบี้ เดมป์ซีย์ ซึ่งทำงานเป็นคอลัมนิสต์ประจำนิตยสารเออาร์ สปอร์ต แมกกาซีน
“สวัสดีจ้ะอลิซ มาแต่เช้าเชียวนะ”
โคบี้ทักทายกลับด้วยรอยยิ้ม สาวผมบลอนด์เทาที่ปล่อยยาวจนถึงบั้นเอวเอียงคอมองหน้าเพื่อนอย่างน่ารัก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเคาะแป้นพิมพ์ที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
“มาเช้า แต่ก็ไม่เช้าเท่าใครบางคนหรอกจริงไหม”
อลิซเย้ากลับ ก่อนจะได้รับรางวัลเป็นค้อนวงใหญ่ที่ส่งมาให้อย่างไม่จริงจัง อลิซแสร้งทำท่าไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำ มือบางกดเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ รอสักครู่จนเมื่อคอมพิวเตอร์พร้อมใช้ จึงแกะเมมโมรี่การ์ดจากกล้องเสียบเข้าช่องUSBเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เธอต้องการเก็บภาพที่ได้มาเอาไว้ในเครื่องก่อนเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างในเมมโมรี่การ์ด
“เออนี่โคบี้ บ่ายสามโมงวันนี้เรามีนัดกันนะจ๊ะ”
“มีนัดอะไร”
โคบี้ยอมละสายตาจากงานตรงหน้า แล้วหันมาทางอลิซ เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าไปนัดกับอีกฝ่ายเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไร
“ก็เราต้องไปทำสกู๊ปข่าวกีฬาฟุตบอล วันนี้มีเตะตั้งหลายคู่ และนัดที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือนัดที่ว่าที่สามีของ อลิซลงเตะไงจ๊ะ”
อลิซบอกเสียงระรื่น โคบี้ยิ้มเอ็นดูแล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปจดจ่อกับการเคาะแป้นพิมพ์ดังเดิม
“โคบี้ดูโน่นสิ พี่เจคของอลิซลงสนามแล้ว”
อลิซตีมือรัวๆ อย่างดีอกดีใจ ตอนนี้สองสาวกำลังนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ในสนามฟุตบอลเรดลอนดอนซึ่งเป็นทีมต้นสังกัดของเจคอบ ร่างสูงดูโดดเด่นยามอยู่ในสนามแข่งแบบนี้ ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มนิดๆ ให้เพื่อนร่วมทีมและเพื่อนสนิทอย่างมิเกล นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และอลิซก็ไม่พลาดที่จะกดชัตเตอร์รัวๆ เพื่อเก็บทุกอิริยาบถของพี่เจคของเธอ
“นี่อลิซ อย่าลืมนะว่าเรามาทำข่าวฟุตบอลโดยภาพรวม ไม่ใช่ทำข่าวพี่เจคของเธอคนเดียว อย่าลืมสิ”
โคบี้อดจะเย้าเพื่อนไม่ได้ ก็เจ้าตัวทำท่าจะเก็บภาพของเจคอบคนเดียวเพียงเท่านั้น
“นิดๆ หน่อยๆ น่าโคบี้ เก็บภาพพี่เจคก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
“จ้า อลิซคนสวย” โคบี้อมยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ อย่างเอ็นดู
เกมการแข่งขันจบลง ทีมเจ้าบ้านและทีมเยือนแบ่งกันไปคนละแต้ม โคบี้กลับไปแล้ว ส่วนอลิซยังไม่กลับนั่นก็เพราะหญิงสาวต้องการมาดักรอพี่เจคของเธอ
“พี่เจค”
อลิซส่งยิ้มหวานหยดให้นักฟุตบอลหนุ่มรูปหล่อที่ชอบทำหน้าบูดบึ้งยามเจอหน้าเธอ ทำหน้าบึ้งเข้าไปเถอะ สักวันเธอจะทำให้เขายิ้มไม่หุบเวลาเห็นหน้าสวยๆ ของเธอให้ได้เลยคอยดู
ก่อนที่จะเอ่ยทักทายคนที่มาดักรอตนเอง ตาคู่คมกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อมองหารถมินิสีฟ้าขาวซึ่งเป็น ของอลิซ แต่เมื่อหาไม่พบ ร่างสูงจึงพ่นหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่เธอ
“รถไปไหน แล้วมายังไง”
“รถอยู่บ้านค่ะ อลิซมารถเมล์ ว่าจะขอติดรถกลับบ้านด้วย หวังว่าพี่เจคคงไม่ใจร้ายหรอกนะคะ
อลิซบอกดักทางเอาไว้ก่อน เจคอบยังไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ซึ่งก็แน่นอนว่าเขาคงปฏิเสธไม่ได้ เสียงของมิเกลก็ดังแทรกขึ้นมา
“ถ้าเจคไม่สะดวก ไปกับพี่ก็ได้นะจ๊ะน้องอลิซ รถของพี่ว่างสำหรับอลิซเสมอ”
“เก็บรถของนายเอาไว้ให้สาวๆ ของนายนั่งเถอะ”
เจคอบบอกเสียงกระด้าง ก่อนจะเบนหน้ามาทางอลิซที่ยืนฉีกยิ้มกว้างให้มิเกล
‘นี่ก็อีกคน จะแจกยิ้มเรี่ยราดอะไรนักหนา’
“ขึ้นรถ”
เจคอบว่าเสียงห้วนจัด อลิซโบกมือลามิเกลก่อนจะรีบพาตัวเองเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับก่อนที่คนอารมณ์บูดจะกระชากรถออกไปเสียก่อน
มิเกลมองตามรถยนต์ของทั้งคู่ไปจนลับสายตา หวงขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาปฏิเสธว่าไม่อยากจะแต่งงานอีก สงสัยเขาคงต้องเริ่มปฏิบัติการกามเทพจัดรัก ฉบับฮาร์ดคอร์ได้แล้วละ
อลิซไม่ได้ให้เจคอบไปส่งที่บ้านแต่หญิงสาวตามมาที่คฤหาสน์มอร์แกนด้วย ถึงแม้เจ้าตัวจะทำหน้าเมื่อยก็ตามที รับประทานมื้อค่ำกับครอบครัวมอร์แกนเรียบร้อยแล้ว อลิซก็ขึ้นมาที่ห้องรับรองแขก หญิงสาวเคยมาค้างคืนที่นี่
อยู่บ่อยๆ เสื้อผ้าส่วนหนึ่งของเธอก็อยู่ที่นี่ด้วย
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมเข้านอน แต่หญิงสาวไม่คิดจะเข้านอนแต่หัวค่ำแบบนี้แน่ เธอลงทุนขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่เพื่อมาค้างคืนที่นี่นั่นก็เพราะมีภารกิจที่เธอต้องทำ
ภารกิจพิชิตหัวใจของพี่เจคที่เธอเพิ่งคิดขึ้นมาได้สดๆ ร้อนๆ
เป้าหมายของภารกิจนี้มีอย่างเดียวเพียงเท่านั้นนั่นก็คือเธอต้องพิชิตหัวใจของเขาให้ได้
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ทำให้เจคอบละสายตาจากแท็ปเล็ตที่อยู่ตรงหน้า แล้วลุกจากเตียงเพื่อไปเปิดประตูห้อง ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าคนที่มาเคาะห้องเขาเป็นใคร
“มาหาพี่…”
“มาหาพี่ทำไม”
เจคอบไม่ทันได้พูดจบประโยค อลิซก็พูดแทรกขึ้นมาราวกับเจ้าตัวเป็นเขาเสียเอง แต่ก็เอาเถอะ รู้แม้กระทั่งว่าเขาจะพูดอะไร ก็หวังว่าเธอคงจะตอบในสิ่งที่เขาถามได้
อลิซแทรกตัวเข้ามาด้านในอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะมาหยุดอยู่กลางห้อง เจ้าของห้องปิดประตูแล้วเดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“อลิซมีเรื่องมาตกลงค่ะ”
“ตกลง ตกลงเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่พี่เจดบอกว่าอลิซมีเวลาสามเดือน ถ้าอลิซทำให้พี่เจครักได้ พี่เจคจะยอมแต่งงานกับอลิซไงคะ”
“แล้วยังไง”
“เพราะฉะนั้นพี่เจคควรจะเปิดโอกาสให้อลิซบ้าง ให้อลิซได้ใกล้ชิดกับพี่เจค และเราก็ต้องออกเดตกันแบบคู่รักบ้างนะคะ”
เจ้าตัวขบริมฝีปากเบาๆ ยามที่ต้องเอื้อนเอ่ยออกมา พยายามข่มความเคอะเขินเอาไว้อย่างสุดกำลังยามที่ต้องเอ่ยปากขอร้องอีกฝ่าย ต่อให้เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงก๋ากั่น เธอก็จำต้องพูดออกไปเพราะโอกาสของเธอมีไม่มากนัก
เจคอบจ้องมองใบหน้าเนียนใสที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เจ้าตัวคงเขินอายอยู่ไม่น้อยที่ต้องพูดออกมาแบบนั้น แต่ไอ้ที่ขอโอกาสใกล้ชิดกับเขาน่ะ เธอเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้ทุกๆ ที่ขนาดนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งห้องนอน ยังใกล้ชิดไม่พออีกหรือไร
เมื่อเห็นพี่เจคของเธอเอาแต่นิ่งเงียบ ไม่ยอมตอบรับแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ อลิซจึงถือโอกาสรุกต่อทันที