ล่าเหยื่อ 1

1390 คำ
หลังกลับจากภูเก็ตพิมพ์ลดาก็มีงานเดินแบบการกุศลให้กับสมาคมปันใจซึ่งเป็นสมาคมที่บรรดาคุณหญิงคุณนายร่วมกันก่อตั้งขึ้นเพื่อหาเงินบริจาคให้กับโรงเรียนห่างไกลที่ขาดแคลนทั้งทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียน งานนี้คงจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นเหมือนทุกครั้งหากเธอไม่ได้เจอใครบางคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด “สวัสดีครับ คุณพิมพ์ลดา” ภัทรเข้ามาทักทายนางแบบของงานหลังจากที่เธอเพิ่งลงมาจากเวที ปกติเขาไม่เคยคิดจะมางานอะไรแบบนี้ อย่างมากก็สั่งให้เลขาจัดการโอนเงินบริจาคไปเป็นอันจบ แม้ว่ามารดาจะเป็นหนึ่งในกรรมการของสมาคมนี้ก็ตามทำให้ถูกมารดาบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าเขาช่างเล่นตัวเหลือเกิน เพราะท่านเคยชวนให้เขามาออกงานของทางสมาคมหลายครั้งแต่เขาปฏิเสธ สาเหตุก็เพราะเบื่อบรรดาคุณหญิงคุณนายที่ชอบนำเสนอลูกสาวให้เขารู้จัก บ้างก็ผลัดกันอวดเครื่องเพชรที่ต่างประโคมมาแข่งกัน แต่งานนี้เขาเป็นคนเสนอตัวกับมารดาเอง สาเหตุก็เพราะคนตรงหน้าที่เขาทราบว่าเธอจะมาเดินแบบในคืนนี้ด้วย “คุณ” พิมพ์ลดาหน้าตึงทันมีเมื่อเห็นคนตรงหน้า อารมณ์ดีๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้าหายไปทันที ทำไมเธอจะต้องมาเจออีตาหื่นกามคนนี้ด้วยนะ แต่พอนึกได้ว่างานนี้เป็นงานของบรรดาคุณหญิงคุณนายและเขาคงเป็นแขกที่ได้รับเชิญมาเพื่อร่วมบริจาคก็ถึงบางอ้อ เพราะอีตานี่รวยมากก็คงไม่พ้นถูกเชิญเป็นแขกผู้มีเกียรติให้มาร่วมงานในคืนนี้ “ดีใจที่คุณจำผมได้นะ” “ฉันก็ไม่อยากจะจำนักหรอก” “ตรงกันข้ามกับผมนะ ผมจำคุณได้แม่นเลยล่ะ” คำว่าจำแม่นประกอบกับการกวาดสายตาสำรวจเรือนร่างเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับว่าเขาต้องการใช้สายตาคมกริบนั้นถอดเสื้อผ้าเธอออกจนเห็นเนื้อในทำให้พิมพ์ลดาเต้นเร่า แววตาภัทรเต้นระริกอย่างพอใจเมื่อเห็นอาการราวกับอยากจะกระโจนเข้ามาตะกุยหน้าเขาของพิมพ์ลดา ‘สนุกดีแฮะ’ เขาไม่เคยรู้สึกดีกับการยั่วโมโหใครเท่านี้มาก่อน ยามที่พิมพ์ลดาโกรธนั้นมันน่าจับฟัดและปราบพยศบนเตียงจริงๆ พิมพ์ลดาอยากจะตะกุยหน้าหล่อนั่นให้ยับ แต่เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงหันหลังและตั้งใจจะเดินหนี “จะไปไหนล่ะครับ ไม่ต้องกลัวผมขนาดนั้นก็ได้” เป็นครั้งแรกที่คนอย่างภัทร พิริยะ นึกอยากเย้าแหย่ต่อปากต่อคำกับผู้หญิงเพราะปกติแล้วมีแต่ผู้หญิงมาออดอ้อนและเขาก็มีหน้าที่แค่เซนต์เช็คหรือเปย์สิ่งที่เจ้าหล่อนเหล่านั้นอยากได้เป็นอันจบไม่ต้องสนทนาอะไรกันมากมาย เพราะเน้นใช้กำลังบนเตียงมากกว่า “ฉันไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากคุยกับคุณ” พิมพ์ลดาตอบและสะบัดหน้าเดินจากมาทันที โดยหารู้ไม่ว่าเธอไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมของคนอย่างภัทร พิริยะไปได้ เพราะหลังจากนั้นแค่ชั่วครู่พิธีกรบนเวทีก็ประกาศสิ่งที่ทำให้เธออยากกรีดร้องออกมาดังๆ “เอาล่ะครับ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมจะประกาศยอดการบริจาคและประมูลชุดผ้าไหมในคืนนี้ที่บรรดาผู้ใจบุญทุกท่านได้ร่วมกันบริจาคมานะครับ สำหรับยอดกการรับบริจาคทุกช่องทางและการประมูลชุดผ้าไหมออนไลน์เป็นเงินทั้งสิ้นสิบล้านห้าแสนบาทครับ” ได้ยินดังนั้นภัทรก็กวักมือเรียกชานนท์บอดี้การ์ดคู่ใจมากระซิบบางอย่างก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินไปด้านข้างเวที “เดี๋ยวก่อนนะครับท่านผู้มีเกียรติ เรามีผู้ใหญ่ใจดีจะบริจาคเพิ่มให้ครบสิบเอ็ดล้านบาท นั่นคือคุณภัทร พิริยะ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อแห่งพิริยะคอนสตรัคชั่นนั่นเองครับ” พอพิธีกรกล่าวจบก็ได้รับเสียงปรบมือจากแขกผู้มาร่วมงาน พิมพ์ลดาแอบค้อนลมค้อนแล้งและพึมพำอยู่คนเดียว “ชิ ใจบุญดีอยู่หรอก แต่ไม่น่าหื่นกาม” “ลำดับต่อไปขอเชิญท่านแขกผู้มีเกียรติร่วมสนุกกับเราด้วยการเต้นรำซึ่งเป็นกิจกรรมปิดท้ายของค่ำคืนนี้ ในฐานะที่คุณภัทร พิริยะเป็นผู้บริจาคสูงสุดในคืนนี้ผมขอเชิญให้เกียรติเปิดฟลอร์พร้อมกับนางแบบสาวสวยของเราคุณ พิมพ์ลดาเชิญครับ” พิมพ์ลดาตกใจเมื่อได้ยินคำประกาศแบบไม่รู้ตัวมาก่อน หญิงสาวรีบหันไปหาซินดี้ผู้จัดการของ Star Model ที่เดินทางมาดูแลเธอในงานนี้ด้วย “นี่มันอะไรกันคะพี่ซินดี้ ในรายละเอียดงานไม่เห็นแจ้งเลยว่าเพลงต้องเต้นรำกับอีตานั่นด้วย” “ว้าย ตายแล้วตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ค่ะคุณน้อง ทำไมไปเรียกคุณภัทรเขาแบบนั้น นั่นน่ะลูกชายคุณหญิงวรดาแม่งานในคืนนี้และเป็นคนจ้างคุณน้องนะคะ ถ้าท่านเมตตาเดี๋ยวคุณน้องก็จะได้งานอีกเรื่อยๆ เพราะคุณหญิงท่าน คอนเนคชั่นเยอะและเป็นแม่งานใหญ่ๆ หลายงานเลยนะคะ” “แต่เพลงไม่…” “รีบไปเร็วค่ะ ได้เต้นรำเปิดฟลอร์กับลูกชายคุณหญิงวรดามีแต่ได้กับได้นะคะ สื่อจะพากันถ่ายรูปคุณน้องพอเป็นที่สนใจงานและเงินก็จะตามมานะคะ แค่เต้นรำไม่ได้เสียหายอะไร แค่ได้เต้นรำกับคนหล่อๆ แบบคุณภัทรก็คุ้มแล้วค่ะ” พิมพ์ลดาไม่มีทางเลือกจำต้องเดินเข้าไปหาภัทรที่ยื่นมือมาตรงหน้าพร้อมก้มศีรษะให้เล็กน้อยด้วยมาดสุภาพบุรุษเต็มขั้นทั้งที่จริงแล้วเขาน่ะตรงข้ามโดยสิ้นเชิงและเมื่อได้เต้นด้วยกันฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่ตรงบั้นเอวก็จงใจดันเธอเข้าไปชิดแผงอกเขาแบบเนียนๆ “เจอกันอีกแล้วนะครับคนสวย” “นี่มันเป็นแผนของคุณใช่ไหม” พิมพ์ลดาถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มอารมณ์สุดขีด ตรงข้ามกับภัทรที่ยิ้มแย้มด้วยท่าทีสบายๆ “อย่ามากล่าวหากันสิครับ คุณเป็นนางแบบที่ได้เดินชุดฟินาเล่ของงาน ส่วนผมเป็นผู้บริจาครายใหญ่พิธีกรเขาก็เลยเชิญเรามาเต้นรำเปิดฟลอร์ด้วยกันแค่นั้นเอง” “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก” “คุณจะให้ผมพิสูจน์ยังไงดีครับว่าผมไม่ได้วางแผน” ภัทรแสร้งก้มลงไปกระซิบใกล้ๆ ชนิดที่ปลายจมูกเขาแทบจะฝังลงไปบนแก้มขาวๆ นั้น พิมพ์ลดาจะเอาคืนด้วยการเหยียบเท้าแต่ภัทรรู้ทันจึงหลบได้ทันท่วงที “โอ๊ะโอ คิดจะทำร้ายร่างกายผมแบบนี้ ถ้าผมเอาคืนอย่าว่ากันนะครับ” พูดจบเขาก็กอดร่างร่างอรชรแน่นขึ้นจนพิมพ์ลดาอยากจะกรีดร้องออกมาอย่างโมโห “ปล่อยนะ ไอ้คนลามก” “ผมลามกตรงไหนไม่ทราบ ผมก็แค่เต้นรำปกติ คุณดูรอบๆ สิ ใครๆ เขาก็เต้นแบบผมกันทั้งนั้น” “แต่ไม่ต้องกอดแน่นขนาดนี้ก็ได้ไหม” “โอ๊ะ ขอโทษครับ ผมอาจจะลืมตัวไปหน่อย” “นายดูท่าจะสนุกเนอะ” ดนัยที่ยืนอยู่กับชานนท์มุมหนึ่งของงานพูดขึ้น “แต่คุณเพลงดูจะตรงข้ามนะ” ชานนท์หันไปยักคิ้วกับดนัยเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นแล้วก็รู้ด้วยว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ “ยอมเสียเงินหลายล้านเพียงเพื่อได้เต้นรำกับสาวแบบนี้ ดูท่าคงจะไม่ธรรมดาแล้ว” ดนัยที่ไม่เคยเห็นเจ้านายทุ่มเทเพื่อผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อนเอ่ยขึ้น “คนนี้นายคงถูกใจมากๆ เผลอๆ อาจจะเป็นคนนี้ที่คว้าหัวใจนายได้” “ได้ก็ไม่แปลกสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนก็หลงได้ง่ายๆ” “รอดูกัน ฉันว่างานนี้มีอะไรสนุกๆ ให้พวกเราดูแน่” ชานนท์กล่าวอย่างนึกสนุกเพราะผู้ชายร้ายๆ แบบเจ้านายเขาก็ต้องเจอผู้หญิงที่ร้ายพอตัวถึงจะเหมาะสมกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม