ล่าเหยื่อ 2

1149 คำ
พิมพ์ลดาผละออกจากภัทรทันทีเมื่อเพลงจบ หญิงสาวรีบเดินกลับไปหาซินดี้เพื่อแจ้งว่าต้องการจะกลับเพราะหน้าที่ของเธอในค่ำคืนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว “พี่ซินดี้คะ เพลงอยากกลับแล้วค่ะ” “ว้า เสียดายจัง ผมคิดว่าคุณเพลงจะให้เกียรติเต้นรำกับผมอีกสักเพลง” “คุณภัทร สวัสดีค่ะ” ซินดี้รีบกล่าวทักทายภัทร “สวัสดีครับ คุณซินดี้ ขอบคุณมากนะครับที่พาคุณนางแบบแสนสวยมาร่วมงานคืนนี้” “ต๊าย ขอบคุณอะไรกันล่ะคะ ซินดี้น่ะสิคะที่ต้องขอบคุณคุณหญิงท่านที่เมตตาน้องๆ จากบริษัทพี่” “เรากลับกันได้หรือยังคะพี่ซินดี้” “เอ่อ…เดี๋ยวซินดี้ขอตัวพาน้องเพลงกลับบ้านก่อนนะคะ ต้องขอโทษคุณภัทรด้วยที่ต้องเสียมารยาทน้องเพลงคงเหนื่อยน่ะค่ะ ช่วงนี้งานเยอะมาก” “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้านะครับ” พิมพ์ลดารู้สึกหมั่นไส้ท่าทางสุภาพเป็นมิตรกับทุกคนของเขายิ่งนัก เพราะเธอรู้ดีว่าภายใต้ท่าทีราวกับเทพบุตรนั้นได้ซ่อนซาตานร้ายเอาไว้อย่างแนบเนียน “คุณน้อง ไหนบอกมาซิว่าไปจงเกลียดจงชังอะไรคุณภัทรเขานักหนา นั่นน่ะผู้ชายที่สาวๆ ครึ่งค่อนประเทศใฝ่ฝันนะคะ” ซินดี้ถามเมื่อขึ้นมานั่งบนเรียบร้อยแล้ว “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” “จะไม่มีอะไรได้ยังไง ท่าทางแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ แต่ก็เอาเถอะไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แต่คุณพี่ขอไว้อย่างหนึ่งนะคะ ถ้าต้องเจอคุณภัทรหรือต้องร่วมงานใดๆ กันอีก พี่ขอให้คุณน้องข่มจิตข่มใจทำตัวน่ารักๆ ไว้หน่อยนะคะ คนระดับคุณภัทรน่ะคอนเนคชั่นเส้นสายมากมาย พี่เกรงว่าถ้าเกิดไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจเข้าอาจจะมีปัญหากับงานได้ ท่องไว้ค่ะคุณน้องน้ำขุ่นไว้ในน้ำใส่ไว้นอก เพื่องานเพื่อเงินท่องไว้ พี่เตือนในฐานะที่อยู่วงการนี้มานานสร้างมิตรไว้ดีกว่าสร้างศัตรูนะคะ ใครจะไปรู้วันหนึ่งข้างหน้าเขาอาจจะช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้” “ค่ะ เพลงจะพยายาม” “ดีมากค่ะ ว่าง่ายๆ แบบนี้น่ารัก” พิมพ์ลดาเดินเข้ามายังร้านอาหารที่เบลล่านัดเลี้ยงอำลาเธอในวันนี้ สถานที่นัดพบคือร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งที่อยู่ค่อนข้างไกลจากคอนโดของเธอ แต่เบลล่าให้เหตุผลว่าที่นี่อาหารอร่อยและดนตรีเพราะเธอจึงตอบตกลง เมื่อเธอมาถึงก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับและเดินนำไปยังห้องวีไอพีที่ถูกจองไว้ “คนอื่นๆ มากันหรือยังคะ” พิมพ์ลดาเอ่ยถามพนักงานซึ่งทำหน้างุนงงก่อนจะตอบคำถามที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจไม่น้อย “คนอื่นเหรอคะ คุณเบลล่าจองไว้แค่สำหรับสองที่นะคะ” ได้ยินดังนั้นพิมพ์ลดาก็ขมวดคิ้วทันที เพราะตอนที่ชวนเบลล่าบอกว่าจะชวนคนอื่นๆ มาด้วย “สองที่เหรอจ๊ะ” พิมพ์ลดาถามย้ำกับเด็กเสิร์ฟเพื่อความแน่ใจ “ใช่ค่ะ” แม้จะงงๆ แต่พิมพ์ลดาก็เดินตามพนักงานไป “มาแล้วเหรอจ๊ะ เชิญนั่งเลยจ้ะเพลง อยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ มื้อนี้พี่เลี้ยงเต็มที่” เบลล่าหันมาส่งยิ้มทักทายอย่างอารมณ์ดี “วันนี้มีแค่เราเหรอคะ ไหนพี่เบลล่าบอกว่าจะชวนคนอื่นมาด้วย” “โอ๊ย พี่ชวนแล้วจ้ะ ยายพวกนั้นน่ะติดผู้บางคนก็ติดงาน สุดท้ายไม่มีใครมาสักคนจนเหลือแค่พี่กับเพลงนี่แหละ พี่ว่าดีออกเราจะได้ปล่อยจอยให้เต็มที่ จะได้เม้าท์มอยถึงความหลังตอนเพลงเข้ามาอยู่กับพี่ใหม่ๆ ถ้าขืนยัยพวกนั้นมาด้วยก็จะมานั่งอิจฉาว่าพี่สนใจเพลงมากกว่า” พิมพ์ลดามองไปรอบๆ ห้องวีไอพีที่มีจอสำหรับร้องคาราโอเกะและโซฟาหนานุ่มนั่งสบาย บนโต๊ะมีไวน์ตั้งไว้หนึ่งขวดพร้อมแก้วที่เหลือหลักฐานอยู่ก้นแก้วว่าเบลล่าสั่งมาดื่มระหว่างรอเธอ “ขวดนี้ของพี่ เดี๋ยวเพลงสั่งมาใหม่เลยนะจ๊ะ คืนนี้พี่จะสนุกให้สุดเหวี่ยง เดี๋ยวพี่จะร้องเพลงให้เพลงฟังด้วยเพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้เราจะได้มีโอกาสเจอกันอีกไหม” “ค่ะ” พิมพ์ลดาหยิบเมนูมาสั่งอาหารไปสองสามอย่างและไวน์อีกหนึ่งขวด เพราะปกติเธอไม่ใช่คนทานเยอะอะไร “เพลงสั่งแค่นี้เองเหรอ ไม่ต้องเกรงใจพี่นะ เต็มที่เลย” “เพลงไม่ค่อยทานเยอะอยู่แล้วค่ะ เสียดายที่คนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย” “โอ๊ย ไม่ต้องไปเสียดายหรอกจ้ะ เอาจริงๆ พี่ว่าไม่มาก็ดีแล้ว พี่ว่าเพลงรู้นะว่าตัวเองน่ะถูกเขม่นจากคนอื่นเพราะงานเยอะกว่าสวยกว่า ขืนมาก็ทำเสียบรรยากาศเปล่าๆ” พิมพ์ลดายิ้มและไม่ได้พูดอะไรเพราะเป็นความจริงอย่างที่เบลล่าบอกว่าเธอถูกเขม่นจากเพื่อนๆ ร่วมโมเดลลิ่ง “กี่ปีแล้วนะที่เราทำงานด้วยกันมา พี่จำได้ว่าเจอเพลงตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง” “อย่าไปพูดถึงตัวเลขเลยค่ะ พูดแล้วมันสะเทือนใจ” เบลล่าหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะเอออออย่างเห็นด้วย “นั่นน่ะสิ ถ้าเพลงยังกลัวตัวเลขแล้วพี่จะไปเหลืออะไร พี่ดีใจนะที่เราได้รู้จักกัน” “เพลงก็ขอบคุณพี่เบลล่ามากนะคะที่ช่วยสนับสนุนเพลง” “ด้วยความยินดีจ้ะ เรามาดื่มฉลองให้กับมิตรภาพและดื่มอำลากันดีกว่า” เบลล่ายกแก้วของตัวเองยื่นมาด้านหน้า พิมพ์ลดาจึงยกแก้วตัวเองขึ้นชน หลังจากนั้นสองสาวก็ดื่มสลับกับร้องคาราโอเกะอย่างเพลิดเพลิน พิมพ์ลดาสะบัดศีรษะไปมาเพราะรู้สึกมึนกว่าปกติทั้งที่เธอดื่มไปไม่กี่แก้วเพราะต้องขับรถกลับ “เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำก่อนนะ” เบลล่าบอกและเดินออกจากห้องไป พิมพ์ลดามองไปรอบๆ ด้วยสายตาพร่ามัว หญิงสาวพยายามสะบัดศีรษะขับไล่อาการมึนแต่ก็ไม่ได้ผล ตรงกันข้ามเปลือกตาเธอกลับรู้สึกหนักขึ้นทุกที นาทีนั้นพิมพ์ลดารู้สึกได้ทันทีถึงความผิดปกติเพราะเธอเองถึงจะไม่ใช่สายเมาแต่ก็ดื่มแอลกอฮอลล์เป็น ลำพังไวน์แค่ครึ่งขวดไม่ทำให้เธอรู้สึกมึนขนาดนี้แน่นอน “พี่เบลล่า” เสียงประตูเปิดเข้ามาพิมพ์ลดาพยายามปรือตาขึ้นมองก่อนจะรู้สึกหัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวเพราะภาพที่เห็นคือผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งที่มองมายังเธอด้วยแววตาอันแสนน่ารังเกียจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม