พิมพ์ลดาจัดการล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้าและถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า เรือนร่างที่ปรากฎอยู่หน้ากระจกนั้นช่างงดงามไร้ที่ติและเธอก็ภูมิใจในรูปร่างของตัวเองมาก ที่สำคัญยังไม่มีผู้ชายคนไหนได้สัมผัสแตะต้องมันแม้แต่คนเดียว เพียงแค่คิดว่าอีกไม่นานเธอคงไม่รอดพ้นเงื้อมือของคนข้างนอก ร่างกายก็รู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวพยายามสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปเพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการนั่นคือการเอาคืนคนชั่วที่คิดทำร้ายเธอและการเจรจากับภัทรถึงข้อตกลงระหว่างกัน หญิงสาวตั้งใจขัดถูฉวีวรรณลบรอยที่เสียวิชัยแตะต้องอยู่ภายในอ่างน้ำวนขนาดใหญ่ ฟองฟูฟ่องมีกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำราคาแพงช่วยให้เธอรู้สึกสดชื่นจนลืมไปว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านตัวเอง
ภัทรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเมื่อผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วคนที่เขารอคอยยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ เขาไม่แปลกใจที่สาวๆ จะอาบน้ำนานเพราะผู้หญิงที่เขาผ่านๆ มาก็ใช้เวลาในห้องน้ำนานเหมือนกัน แต่เกือบชั่วโมงแบบนี้นับเป็นการทำลายสถิติที่คนอย่างเขาต้องมารอผู้หญิงสักคน ชายหนุ่มตัดสินใจลุกขึ้นจะเดินเข้าไปตามเพราะเป็นห่วงว่าพิมพ์ลดาจะเป็นอะไรก็เป็นจังหวะที่ประตูห้องนอนแขกของเขาก็เปิดออกมาพอดี
“ผมกำลังจะเข้าไปตามอยู่พอดี คิดว่าคุณเป็นลมในห้องน้ำไปแล้ว” ขณะที่พูดสายตาของภัทรไม่ได้คลาดไปจากคนตรงหน้าเลยสักนิด ร้านประจำของของมารดาช่างเลือกชุดได้ดีจริงๆ เพียงแค่เขายกหูโทรศัพท์แจ้งสัดส่วนให้ผู้จัดการร้านทราบทางร้านก็จัดการเลือกชุดมาให้ซึ่งบอกตามตรงว่าถูกใจเขามาก ภัทรกวาดสายตามองพิมพ์ลดาในชุดเดรสสายเดี่ยวรัดรูปปักลวดลายลูกไม้สีขาวเน้นสัดส่วนโค้งเว้าให้เขาต้องแอบกลืนน้ำลายลองคอ เนินอกอิ่มที่เห็นรำไรและช่วงเอวคอดกับสะโพกผายนั้นมันทำให้เขาอยากรู้ว่าตอนที่เขาสัมผัสลูบไล้มันจะให้ความรู้สึกพิเศษขนาดไหน และสิ่งที่ทำเขาทึ่งอีกอย่างก็คือแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้าใดๆ แต่ผิวหน้าของพิมพ์ลดาก็ยังดูสวยสดใสสุขภาพดี ต่างจากผู้หญิงบางคนที่เขาเคยผ่านมาที่ยามแต่งหน้าและล้างหน้าราวกับคนละคน แต่สำหรับพิมพ์ลดาจะแต่งหรือไม่แต่งก็สวยอย่างหาตัวจับยาก เพียงแต่สวยคนละแบบเท่านั้น
“จะมองอีกนานไหม” น้ำเสียงขุ่นๆ นั้นเรียกสติภัทรให้คืนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“โอ๊ะโอ ขอโทษครับคุณผู้หญิง มีของสวยๆ งามๆ มาอยู่ตรงหน้าทำผมลืมตัวทุกที”
“ชีกอ” แม้พิมพ์ลดาจะบ่นพึมพำเบาๆ แต่ภัทรกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน
“ผมว่าคุณทานอะไรก่อนดีไหม เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน”
“ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
“ผมรู้ครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่ฟาดหัวไอ้เสี่ยวิชัยนั่นเลือดอาบได้แม้จะถูกวางยา”
“คุณรู้ได้อย่างไงว่าฉันถูกวางยา”
“โถ่ คุณพิมพ์ลดาครับ ผมไม่ใช่เด็กไร้เดียงสานะ เห็นอาการคุณเมื่อคืนผมก็รู้แล้วว่าไม่ปกติ อีกอย่างไวน์ที่คุณดื่มก็ยุบไปแค่ครึ่งขวด จำนวนแค่นั้นไม่ทำให้เมาหมดสภาพจนหลับกลางอากาศแบบคุณหรอก” พิมพ์ลดาไม่ได้ตอบโต้ใดๆ นอกจากนั่งลงรับประทานอาหารเช้าตอนเกือบเที่ยงเงียบๆ เพราะเมื่อเห็นอาหารท้องไส้เธอก็ประท้วงทันที กาแฟดำที่ภัทรเตรียมไว้ให้ช่วยได้ดีมาก
“คุณไม่ไปทำงานหรือไง” พิมพ์ลดาถามขณะลงมือทานอาหารเพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุด นักธุรกิจใหญ่อย่างเขาควรจะอยู่ที่ทำงานไม่ใช่นั่งเอ้อระเหยจ้องเธอตาแทบไม่กระพริบแบบนี้
“ปกติคนอย่างผมไม่เคยขาดงาน แต่วันนี้ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการก่อน” พิมพ์ลดารวบช้อนและยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหลังจากทานไปได้นิดเดียว
“อิ่มแล้วเหรอ คุณทานไปแค่นิดเดียวเอง ทานเยอะกว่านี้ก็ไม่อ้วนหรอกน่า”
“เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า”
“ใจร้อนจริง” ภัทรว่ายิ้มๆ ขณะยกกาแฟขึ้นจิบอย่างใจเย็น เป็นอีกครั้งที่พิมพ์ลดาบอกตัวเองว่าความรู้สึกอยากข่วนหน้าหล่อๆ ของเขาสักทีสองทีนั้นเธอยังไม่เปลี่ยนใจ
“ฉันต้องการแก้แค้น” พิมพ์ลดาเข้าประเด็นแบบไม่ต้องอ้อมค้อม
“กับใครล่ะ”
“ทั้งสองคน ทั้งตาแก่นั่นและก็ผู้หญิงสารเลวคนนั้น” แม้แต่ชื่อพิมพ์ลดายังไม่อยากเอ่ยออกมาให้เป็นเสนียดปาก
“แล้วผมจะได้อะไรตอบแทนล่ะ” พิมพ์ลดาเม้มปากก่อนจะกลั้นใจถามออกไป
“นานแค่ไหน”
“คุณหมายถึงอะไร ผมไม่เข้าใจ”
“ฉันต้องอยู่เป็นของเล่นให้คุณนานแค่ไหน”
“โอ้ว ไม่เอาน่า อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมไม่ได้เห็นคุณเป็นของเล่นซะหน่อย เรียกว่าเรามีข้อแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างพอใจดีกว่าไหมครับ”
“จะเรียกยังไงมันก็คงไม่ต่างกัน นานแค่ไหน ฉันต้องการระยะเวลาที่แน่นอน คุณคงไม่คิดว่าฉันจะยอมเป็นของเล่นให้คุณไปตลอดและรอให้คุณเขี่ยทิ้งตอนที่เบื่อหรอกนะ” ภัทรลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมานั่งที่เก้าอี้ข้างแขกสาวที่ทำราวกับกำลังเป็นคู่ค้ามาเจรจาทางธุรกิจอันเคร่งเครียดอย่างไรอย่างนั้น
“สิ่งแรกที่ผมจะขอพูดเพราะๆ กับผมแบบที่พูดกับคนอื่นได้ไหม อย่าห่างเหินเย็นชากันเลย เราจะได้คุ้นเคยกันเร็วๆ ผมได้ยินคุณเรียกตัวเองกับคุณซินดี้ว่าเพลงใช่ไหม ผมว่าน่ารักดีนะครับ ไหนลองพูดซิ” เมื่อเห็นพิมพ์ลดายังนิ่งภัทรก็ฉลาดพอที่จะใช้อย่างอื่นจูงใจมากกว่าบังคับขู่เข็ญ
“ผมจัดการเสี่ยวิชัยให้คุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” ประโยคนี้ทำให้พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสนใจทันที
“คุณทำอะไรกับไอ้แก่ตัณหากลับนั่น…คะ” พิมพ์ลดาจำใจพูดเพราะตามที่อีกฝ่ายต้องการอย่าให้ถึงตาเธอบ้างก็แล้วกัน ภัทรยิ้มแล้วยื่นไอแพดส่งให้เธออ่านข่าวที่เปิดค้างไว้
‘ข่าวด่วนสะเทือนวงการไฮโซเมื่อมีคลิปฉาวของเสี่ยวิชัยหัวเรือใหญ่แห่งวิชัยการช่างที่ทำเอาช็อกกันทั้งบางเพราะเป็นคลิปสวิงกิ้งหมู่งานนี้ภาพครอบครัวแสนอบอุ่นของเสี่ยวิชัยพังยับลงในพริบตา แหล่งข่าวรายงานว่าพยายามติดต่อทั้งเสี่ยวิชัยและมาดามสกุณาผู้เป็นภรรยาแต่ไม่สามารถติดต่อได้ แว่วมาว่ามาดามสกุณาเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วด้วยเครื่องบินส่วนตัว งานนี้ไม่ทราบว่าหนีข่าวฉาวของสามีดีแตกหรือมีธุระด่วนกันนะคะท่านผู้ชม โปรดติดตามตอนต่อไปเรื่องนีแซ่บซู้ดปาก’ พิมพ์ลดายิ้มอย่างสะใจคนเลวๆ แบบนั้นต้องเจอแบบนี้ถึงจะสาสมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำเลวกับผู้หญิงมาแล้วไม่รู้กี่คน ถึงเวลาที่จะต้องชดใช้คืนบ้าง
“นี่แค่น้ำจิ้มนะครับ” ภัทรกล่าวยิ้มๆ เมื่อเห็นพิมพ์ลดามองมาอย่างสนใจจึงได้กล่าวต่อไปว่า
“ผมได้ยินมาว่าเช้านี้บอร์ดบริหารของวิชัยการช่างเรียกประชุมด่วน ก็คงไม่พ้นที่จะปลดตาแก่นั่นออกจากตำแหน่งเพราะข่าวฉาวนี้”
“ถามจริงนะคะที่คุณทำขนาดนี้ เหตุผลคือแก้แค้นให้ฉันหรือแก้แค้นส่วนตัวกันแน่คะ” คำถามนั้นทำเอาภัทรต้องหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
“เพื่อคุณคนเดียวเลยครับคนสวย ผมไม่ได้มีความแค้นอะไรกับตาแก่นั่นนี่”
“เขาเป็นคู่แข่งของคุณไม่ใช่เหรอคะ”
“ถึงเป็นคู่แข่งผมก็ไม่เคยคิดจะใช้วิธีสกปรก ผมชอบแข่งในกติกาวัดกันด้วยสมองและฝีมือมากกว่า” ภัทรตอบตามจริงถึงแม้เขาจะได้คลิปวีดีโอฉาวโฉ่วนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยคิดจะใช้มันทำลายเสี่ยวิชัยเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งตาแก่นั่นคิดแตะต้องพิมพ์ลดาและใช้วิธีสกปรกที่จะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งตกนรกทั้งเป็นด้วยการวางยาแล้วข่มขืน เขาจึงยอมไม่ได้และต้องสั่งสอนหมอนั่นเสียบ้าง
“ขอบคุณนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ ผมไม่ชอบผู้ชายที่ใช้วิธีเลวทรามแบบนี้กับผู้หญิง เฮ้…อย่ามองผมแบบนั้นสิ” ภัทรรีบโวยวายเมื่อถูกพิมพ์ลดามองด้วยสายตาที่สมองอันชาญฉลาดของเขาแปลสารออกมาได้ว่าเขาเองก็ไม่ต่างจากเสี่ยวิชัย
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคะ”
“แต่สายตาคุณมันฟ้อง”
“ก็ได้ค่ะ ฉันคิดว่าคุณน่ะก็ร้ายกาจไม่แพ้ตาแก่นั่นหรอก”
“แต่ผมไม่เคยคิดจะวางยาแล้วข่มขืนผู้หญิงนะคุณ อย่างมากก็แค่มีข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกัน”
“แต่คุณก็ยื่นข้อเสนอตอนที่ฉันอยู่ในฐานะที่ไม่อาจปฏิเสธได้”
“ไม่เอา เราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่านะครับ พูดเรื่องศัตรูอีกคนของเราดีกว่า”
“ศัตรูของเรา?” พิมพ์ลดาถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่ครับ ศัตรูของเรา ตอนนี้คุณเป็นคนของผม ศัตรูของคุณก็เหมือนศัตรูของผม บอกแล้วไงว่าผมจะปกป้องดูแลคุณเอง”
“ฟังดูเหมือนจะดีนะคะ”
“ดีแน่นอนครับ คุณบอกได้นะว่าอยากให้ผมจัดการยังไงกับอดีตโมเดลลิ่งของคุณ”
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นหายสาบสูญไปเลย”
“อะไรนะ คุณคงไม่ได้หมายความว่าให้ผมฆ่าใครหรอกใช่ไหม” ภัทรย้อนถามอย่างตกใจ พิมพ์ลดาเงยหน้าขึ้นสบตาเขาก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตา
“ยอมรับว่าตอนแรกฉันก็อยากฆ่าผู้หญิงคนนั้นให้ตายเหมือนกัน เพราะฉันเกือบต้องตายทั้งเป็นเพราะการกระทำเลวๆ ของมัน แต่พอดีว่าฉันไม่ได้จิตใจโหดเหี้ยมมากพอที่จะฆ่าใครได้ ฉันเลยอยากให้คุณทำยังไงก็ได้ให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้โลดแล่นในวงการนี้อีก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีใครตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมจัดการให้ คุณอย่าคิดมากเลยนะ มันผ่านไปแล้ว” ภัทรกุมมือนุ่มนิ่มที่วางอยู่บนตักอย่างปลอบประโลม แต่ตาไม่รักดีก็ดันพาลจะมองแต่ขาขาวๆ ที่โผล่พ้นความสั้นของกระโปรงออกมาและพิมพ์ลดาก็เห็นสายตานั้นเข้าพอดีจึงอดใจไม่ไหวฟาดฝ่ามือลงไปบนหลังมือเขาหนึ่งที เพียะ!
“โอ๊ย คุณตีผมทำไม”
“แล้วคุณมองอะไรล่ะ คุณนี่มันทุเรศที่สุด จะหยุดหื่นสักหนึ่งนาทีไม่ได้หรือไง”
“ทำร้ายร่างกายผมแบบนี้ ถ้าผมเอาคืนขึ้นมาอย่าหาว่าใจร้ายนะ” พิมพ์ลดาหันมามองคนขู่ด้วยดวงตาวาววับก่อนจะสะบัดหน้าหนี
“โอเคๆ ผมยอมแพ้ เราสงบศึกกันดีไหม ผมไม่อยากทะเลาะกับคุณแล้ว เราคุยกันดีๆ ได้ไหมครับ” ภัทรเลือกเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อนจะได้ลูบเอ๊ย…ได้เริ่มทำความรู้จักกันแบบมิตรไมตรี
“หนึ่งปี คุณจะอยู่ในฐานะผู้หญิงของผมเป็นเวลาหนึ่งปี” พิมพ์ลดาหลับตาลง จู่ๆ เธอก็รู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมาที่ต้องมาเจรจาการเป็นของเล่นของผู้ชาย ความสาวที่เก็บรักษามาอย่างดีจะไม่ได้ตกเป็นของผู้ชายที่เธอรักเป็นคนแรกอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ความแค้นก็เอาชนะทุกอย่างได้เพราะหากให้เธอไปแจ้งความเอาผิดเบลล่าเรื่องก็ต้องอื้อฉาวเป็นข่าวซึ่งไม่มีทางเลยที่จะไม่เสียหาย ดังนั้นการยืมมือเขาจัดการให้ย่อมเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคุณ เราต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์เรียกว่าวินวินทั้งสองฝ่ายไม่มีใครเสียประโยชน์”
“ระหว่างที่อยู่ในระยะเวลาหนึ่งปี คุณต้องไม่นอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่อยากติดโรค”
“แน่นอน ผมแถมใบตรวจโรคให้คุณด้วยเลย คุณจะได้มั่นใจว่าผมสะอาด” ภัทรยักไหล่เพราะปกติเขาก็คบทีละคนอยู่แล้ว เพียงแต่คบไม่นานเท่านั้นเอง
“เอาเป็นว่าเราได้ข้อสรุปที่พอใจกันทั้งสองฝ่ายแล้วนะ”
“ยัง” พิมพ์ลดารีบตอบเพราะเธอยังมีเงื่อนไขสำคัญที่ยังไม่ได้พูด
“ว่ามาได้เลยครับคุณผู้หญิงว่าคุณต้องการให้ผมทำอะไรให้อีก แล้วแต่คุณผู้หญิงจะบัญชาเลยครับ”
“ทุกอย่างจะเริ่มหลังจากที่คุณจัดการเบลล่าให้ฉันเรียบร้อยแล้ว”
“โอเค ตกลงตามนั้นครับ”
“ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”
“เดี๋ยวผมไปส่ง ห้ามปฏิเสธครับ ถือว่าเราเริ่มทำความคุ้นเคยกันไว้ไง” เหตุผลของภัทรทำให้พิมพ์ลดากลืนคำปฏิเสธลงคอไปเงียบๆ และยินยอมให้เขาไปส่งที่คอนโดแต่โดยดี