คนที่แอบคิดถึง
Chapter 1 คนที่แอบคิดถึง
“หมิงยังไม่ปิดเทอมเลยนะคะแม่”
อนัญพรหญิงสาววัย 20 ปีโวยวายเมื่อได้ยินแม่บอกว่าจะไปเยี่ยมพี่สาวที่ญี่ปุ่น
“แม่รู้ หนูตามแม่ไปทีหลังได้ไหม”
คนเป็นแม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปหาพี่สาวก่อนกำหนด ซึ่งผิดจากที่วางแผนไว้เพราะเดิมทีทั้งสามคนจะไปพร้อมกันหลังจากลูกสาวคนเล็กปิดเทอม
“ก็ได้ค่ะ แล้วแม่จะไปอยู่กับพี่เหมยนานไหมคะ”
“น่าจะสัก 3 เดือน”
“นานจังนะคะ”
“มันจำเป็นนะลูก จะให้ญาติทางฝ่ายสามีช่วย พี่เหมยเขาก็เกรงใจ ลูกแฝดเขาว่าเลี้ยงยาก แม่เลยต้องไปช่วย”
อรัญพรลูกสาวคนโตแต่งงานชาวญี่ปุ่นและย้ายไปอยู่ที่นั่นได้หลายปีแล้ว พอได้ยินว่าลูกสาวคลอดลูกแฝดก่อนกำหนดก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เธอจึงคุยกับสามีว่าจะไปช่วยเลี้ยงหลานอย่างน้อยก็คงสักสามเดือน
“หมิงไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเลย ถ้ากลับดึกใครจะไปรับที่ปากซอยล่ะคะ”
แม้การไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเธอจะเดินทางไปด้วยรถเมล์แต่บางครั้งก็อยู่ติวกับเพื่อนจนดึก การลงรถที่หน้าปากซอยแล้วเดินเข้ามาเองก็นับว่าอันตรายอยู่
“เรื่องนั้นพ่อกับแม่คิดไว้แล้ว”
“ยังไงคะ”
“แม่ว่าจะให้หมิงไปอยู่บ้านญาติที่ใกล้มหาลัยหน่อย”
“แม่คะ เรามีญาติที่บ้านใกล้มหาลัยด้วยเหรอคะ เท่าที่รู้ญาติเราส่วนใหญ่อยู่เชียงรายกันนะคะ”
พ่อและแม่ของเธอเป็นคนเชียงราย แต่สอบบรรจุได้เป็นข้าราชการครู ทั้งสองคนเลยย้ายมาอยู่กรุงเทพ
ชัยเดชเพิ่งจะเกษียณเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนอารีย์แม่ของเธอยังไม่ครบกำหนดเกษียณแต่ก็ขอเออร์ลี่รีไทร์ออกมาพร้อมกับสามี
“จะเรียกว่าญาติก็คงไม่ถูกนัก เพราะเรากับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด”
“อ้าว”
“หมิงจำอาธีร์ที่อยู่ติดกับบ้านเราได้ไหม”
“จำได้ค่ะ ทำไมคะ” แต่ได้ยินชื่อหญิงสาวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“พ่อจะให้หมิงไปอยู่กับอาเขาสักพัก สอบแล้วก็ตามพ่อกับแม่ไป”
“หมิงไม่อยากไปรบกวนอาธีร์เลยค่ะแม่” ปากบอกว่าไม่อยากไปรบกวน แต่ในใจเต้นระริก
แต่ก่อนธีร์วราบ้านอยู่ติดกับเธอ ทั้งสองสนิทสนมกันมาก เขามักจะมาทานข้าวที่บ้านและช่วยติวให้เธออยู่เสมอ จนเมื่อเธออยู่ชั้นมัธยมปีที่ 5 เขาก็ย้ายออกไป
อนัญพรมีโอกาสได้เจอกับเขาอีกไม่กี่ครั้ง เพราะชายหนุ่มมักแวะมาเยี่ยมเยียนหรือไม่ก็ชื่อของมาฝาก แต่พักหลังมานี้เธอไม่ได้เจอธีร์วรามานานเกือบครึ่งปีแล้ว
“พ่อคุยกับอาธีร์ให้แล้ว หมิงรีบเก็บของที่จำเป็นนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่ก็จะไปเก็บของเหมือนกัน พรุ่งนี้เช้าพ่อจะไปส่งหมิงเอง”
“ค่ะพ่อ” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย
อนัญพรเอาหมอนใบใหญ่ปิดหน้าก่อนจะกรี๊ดอย่างสุดเสียง ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ใกล้ชิดกับอาหนุ่มหล่ออย่างธีร์วราอีกครั้ง หญิงสาวจัดของลงกระเป๋าอย่างอารมณ์ดีพรุ่งนี้เธอก็จะได้เจอกับอาธีร์ผู้ชายที่เธอฝันถึงอยู่บ่อยครั้ง
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ธีร์วรารีบกดรีโมตเปิดประตูแล้วตัวเองก็มายืนรอต้อนรับที่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับน้าอารีย์ น้าเดช” เจ้าของบ้านทักทายอย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีจ้ะ น้ารบกวนธีร์มากไปหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรครับ เราคนกันเอง”
“น้าจะทิ้งให้ลูกอยู่คนเดียวก็เป็นห่วง จะพาไปด้วยเจ้าตัวก็ยังไม่ปิดเทอม”
“ครับน้าอารีย์”
“สวัสดีค่ะ อาธีร์” อนัญพรยกมือไหว้อาหนุ่มรูปหล่อ หลังจากเอากระเป๋าของตัวเองลงจากรถเรียบร้อยแล้ว
ธีร์วรายกมือรับไหว้ ก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน
“ข้างบนมีห้องว่าอยู่สองห้อง หมิงเลือกเลยว่าจะนอนห้องไหน อาให้คนทำความสะอาดไว้ทั้งสองห้องแล้ว”
“ค่ะ”
“หมิงเลือกห้องไปก่อนนะ ถ้าได้แล้วก็เอากระเป๋าเข้าไปเก็บ แม่จะคุยกับอาธีร์ข้างล่างนะ”
“ค่ะแม่”
พอผู้ใหญ่ลงไปข้างล่างหมดแล้วอนัญพรก็สำรวจห้องนอนทั้งสองห้องซึ่งแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด หญิงสาวเลือกห้องที่มีประตูตรงข้ามกับห้องนอนของเจ้าของบ้าน เพราะการได้เปิดประตูออกมาเจอเขาในทุกเช้าคงจะมีความสุขที่สุด
ชัยเดชและอารีย์กลับไปแล้ว ทั้งบ้านก็เหลือแค่ธีร์วรากับอนัญพรเพียงสองคน
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังเก็บของให้เข้าที่ต้องรีบมาเปิดประตู
“อาธีร์มีอะไรหรือเปล่าคะ เข้ามาก่อนไหม”
“อาจะมาถามว่ามีอะไรขาดเหลือหรือเปล่า”
“หมิงคิดว่าเตรียมมาครบแล้วนะคะ”
“อืม งั้นอาไปทำงานต่อนะ เดี๋ยวเที่ยงจะพาออกไปหาอะไรกินข้างนอก”
“ค่ะ”
หญิงสาวดีใจที่จะได้ออกไปข้างนอกกับเขา เธอเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกมินิเดรสแขนกุดสีครีมเพื่อให้เข้ากับเสื้อเชิ้ตคอจีนแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนที่เขาสวมอยู่
พอถึงเวลานัดเธอก็รีบลงมารอเข้าที่ห้องรับแขก
“เรียนปีไหนแล้ว” ธีร์วราชวนเธอคุยระหว่างรออาหาร
“ปี 3 แล้วค่ะ”
“เรียนคณะอะไร”
“บริหารค่ะ เอกบัญชี”
“แสดงว่าชอบคณิตศาสตร์แล้วล่ะสิ”
“ค่ะ ชอบค่ะ” ก็เพราะเขานั้นแหละที่ทำให้คนเกลียดวิชาคณิตศาสตร์เข้าไส้อย่างเธอหันมาชอบและตั้งใจเรียนมากขึ้น
“อึดอัดไหมที่ต้องมาอยู่กับอาแทนที่จะไปอยู่หอกับเพื่อน”
“หมิงต้องถามอาธีร์มากกว่าว่าอึดอัดไหมที่หมิงมาอยู่ด้วย”
“ทำไม่คิดว่าอาจะอึดอัดล่ะ เราเคยสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ เราสนิทกันมาก จนกระทั่งอาธีร์ย้ายบ้านหนี”
“อาไม่ได้ย้ายหนี แต่บริษัทย้ายออฟฟิศอาก็เลยต้องหาบ้านที่มันไม่ไกลมาก” เขารีบแก้ไขความเข้าใจผิด แต่อันที่จริงก็คือเขาย้ายหนีความรู้สึกของตัวเองต่างหาก
“อาธีร์คะ ที่บ้านอาอยู่กันกี่คนคะ หมิงไม่เห็นคนอื่นเลย”
“อาอยู่คนเดียว ส่วนแม่บ้านมาทำงานไปเช้าเย็นกลับ”
“แต่หมิงไม่เห็นแม่บ้านเลยนี่คะ”
“แม่บ้านหยุดวันอาทิตย์ อาเลยต้องพาเราออกมากินข้าวข้างนอกไง”
“แต่อาธีร์ทำกับข้าวเป็นนี่คะ” เพราะเธอทานฝีมือของเขาอยู่บ่อยครั้ง
“ก็ใช่ แต่วันนี้ของสดในตู้หมดแล้ว”
“หมิงอยากกินไข่เจียวกับต้มยำฝีมืออาธีร์”
“ได้สิ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปเดินซื้อของกันไหม เย็นนี้อาจะทำให้กิน”
“ค่ะ”
อนัญพรเดินตามธีร์วราที่เข็นรถเลือกซื้อของสำหรับทำอาหารอย่างคนชำนาญ
“เหมือนคู่รักเลยนะคะ”
“หมิงพูดอะไรนะ”
“เปล่าค่ะ อาธีร์หูฝาด” เธอรีบตอบ
หญิงสาวจะให้เขารู้ไม่ได้ว่าตัวเองกำลังคิดกับเขามากว่าอากับหลาน
ความรู้สึกของเธอที่มีให้กับธีร์วราเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3