ตอนที่ 4 หนีความผิด
เช้าวันต่อมา
พลอยขวัญมองนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียงที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหกโมงเช้าแล้ว และที่เธอต้องจำใจตื่นเช้าขนาดนี้ก็เป็นเพราะต้องการที่จะออกไปจากคอนโดของเมฆก่อนที่เขาจะตื่น เธอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ เพราะเมื่อวานเธอคงจะทำให้เมฆโกรธไม่น้อยที่ปล่อยให้เขานอนข้างนอก
“ชื้นๆ หน่อยไม่เป็นไรมั้ง” พลอยขวัญพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังจับชุดชั้นในตัวเองมาเช็กว่ามันแห้งดีรึยัง แต่เพราะอากาศตอนกลางคืนไม่ได้มีแดดหรือลมมากนักทำให้ชุดชั้นในของเธอยังคงชื้นอยู่ แต่เธอเองก็คงจะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้นอกจากทนใส่มันไปชั่วคราว
พลอยขวัญยืนเช็กระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองที่หน้าตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ของเมฆเจ้าของห้องที่ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าโทนสีดำ เทา ขาว เป็นส่วนใหญ่ แทบจะไม่มีเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสในตู้เลย และเธอก็เลือกหยิบเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งของเขามาสวมใส่ พร้อมกับเอาเสื้อเชิ้ตสีขาวมาผูกเอวเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูโป๊จนเกินไป เพราะเธอต้องนั่งแท็กซี่กลับคอนโด และความที่กางเกงซับในที่เธอใส่มาผ้าค่อนข้างหนาทำให้ชื้นเกินกว่าที่จะใส่ได้
เท้าเรียวเล็กค่อยๆ ย่องไปที่หน้าประตูด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นทุกวินาที ในใจได้แต่ภาวนาให้เมฆยังคงหลับอยู่ เพราะตอนนี้ยังคงเป็นเวลาเช้าอยู่มาก ขนาดที่ปกติแล้วเธอเองยังไม่ตื่นเวลานี้ด้วยซ้ำ
แกร๊ก!~
ใบหน้าหวานครึ่งเสี้ยวชะโงกหน้าออกไปดูนอกห้องด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เท้าเรียวที่กำลังจะก้าวออกไปต้องถอยหลังกลับมาที่เดิม เมื่อเห็นเมฆนั่งจ้องมองมาที่บานประตูห้องนอนที่เธอยืนอยู่ด้วยสายตาดุดัน หนำซ้ำในมือยังคงถือกระป๋องเบียร์เอาไว้อีกด้วย
“ออกมา!” เมฆเอ่ยเสียงแข็ง เมื่อพลอยขวัญทำท่าจะปิดประตูกลับเข้าไปในห้องนอน
“กะ…กู๊ดมอร์นิ่งค่ะ เฮียเมฆตื่นเช้าจังเลยนะคะ” คนตัวเล็กหันกลับออกมาจากห้องด้วยท่าทางประหม่า
“หน้าฉันดูเหมือนคนได้นอนเหรอ” เมฆถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“เฮียเมฆยังไม่ได้นอนอีกเหรอคะ ห้องว่างแล้วเฮียเมฆเข้าไปนอนก็ได้นะคะ” พลอยขวัญพยายามยิ้มกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองเหมือนที่ชอบทำจนติดเป็นนิสัย แต่ดูเหมือนมันจะใช้ไม่ได้ผลกับชายตรงหน้าเธอ
“มันควรจะต้องว่างให้ฉันนอนตั้งแต่เมื่อคืน เพราะฉันเป็นเจ้าของห้อง ส่วนเธอมันแค่ยัยขี้เมาที่ทำตัวเป็นภาระคนอื่น” เมฆพยายามข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ให้ระเบิดออกมา ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์เมตตาให้เธอขึ้นมานอนโซฟาบนห้อง แต่เธอกลับไม่สำนึกในน้ำใจของเขา แถมยังเป็นฝ่ายได้ไปนอนบนเตียงที่เขาไม่เคยพาใครมานอน แม้แต่ฐานทัพ และก็ศิลา แต่เธอกลับไปนอนมันหน้าตาเฉย แล้วก็ปล่อยให้เจ้าของห้องอย่างเขาต้องมานั่งกระดกเบียร์ข่มอารมณ์ไม่ให้พังห้องของตัวเอง
ปึง!
มือหนากระแทกกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะกลางด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินผ่านหน้าพลอยขวัญที่ยืนก้มหน้าอยู่หน้าประตูเขาด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนหนานุ่มที่คุ้นเคยด้วยความอ่อนเพลีย ที่ต่างไปคงจะเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญิงสาวที่ยังคงติดเอาไว้จางๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการพักผ่อน
“ฮะ…เฮียเมฆ”
“…”
“เฮียเมฆขา”
“อะไรของเธออีก รีบออกไปจากห้องฉันสักทีได้ไหมรำคาญ”
“คือลงไปข้างล่างมันต้องใช้คีย์การ์ดค่ะ หนูยืมหน่อยนะคะ เดี๋ยวเอามาคืน”
“…”
“เอ่อ…ขอยืมเงินค่ารถด้วยนะคะ หนูหากระเป๋าไม่เจอ” พลอยขวัญพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางเดินย่องไปหยิบคีย์การ์ดกับเงินสดในกระเป๋าสตางค์ของเมฆที่วางอยู่บนโซฟาอย่างถือวิสาสะเมื่อไม่ได้รับคำอนุญาตจากอีกฝ่าย “หนูเอาเงินไปหนึ่งพันบาทนะ…”
“จะไปไหนก็ไป อยากได้อะไรก็ขนไปให้หมดเลยไป!” เมฆตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับยกหมอนขึ้นมาคลุมหัวเพื่อปิดกั้นการสื่อสารกับอีกฝ่าย ทำให้พลอยขวัญต้องรีบเดินออกไปด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องพักให้เขาอย่างดี ก่อนที่เธอจะกลับออกไป