บทที่ 3 ต่างคนต่างเกลียด 1

980 คำ
ภายในห้องอาหารโซนส่วนตัวสำหรับแขกวีไอพีที่ตกแต่งแบบญี่ปุ่นแท้ บนโต๊ะล้วนเต็มไปด้วยซูชิและซาชิมิหน้าต่างๆ ที่คัดสรรจากเนื้อคุณภาพเกรดพรีเมียมชวนน้ำลายสอ ณหทัยนั่งประจันหน้ากับคู่รักด้วยสายตาดุเดือดฟ้องชัดว่าเป็นศัตรู เลือดนักสู้ในตัวพลุ่งพล่าน เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ากินข้าวแค่มื้อเดียว เมษยาจะทำให้กลายเป็นเรื่องวุ่นวายได้ขนาดไหน “ทานเลยจ้ะ เมย์ตั้งใจสั่งมาเพื่อหม่อนโดยเฉพาะเลยนะ” เมษยาเลื่อนจานปลาดิบสีสันสดสวยไปตรงหน้าน้องสาวอย่างเอาใจ “ขอไวน์ที่ดีที่สุดและแพงที่สุดค่ะ” ณหทัยยกมือเรียกบริกรที่คอยให้บริการ ไม่ชายตาแลอาหารตรงหน้าเลย เมษยารู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ทานปลาดิบ ยังจะสั่งมาให้เสียของเปลืองเงินเปลืองทองอีก เฮอะ! ก็มีแฟนรวยนี่เนอะ อยากจะแกล้งใครก็ไม่สนเงินในกระเป๋า เพราะมีเพลิงครามจ่ายให้ตลอด แค่นี้กระเป๋าเขาไม่ฉีกหรอก เผลอๆ จะเต็มใจช่วยแฟนแกล้งเธอเสียด้วยซ้ำ เธอเหยียดยิ้มมองเขาอย่างสมเพช เรียกรอยย่นบนหัวคิ้วเข้มได้ทันตา รู้ว่าเขาคงไม่พอใจ แต่ที่คิดไม่ถึงคือเขาไม่พอใจเพราะเรื่องของเธอ “ใบหม่อนไม่กินปลาดิบ” เพลิงครามพูดทื่อๆ ขึ้นกลางวง ทั้งเธอและเมษยาถึงกับชะงัก หล่อนมองหน้าเขาอย่างไปไม่เป็น มีความน้อยเนื้อต่ำใจที่เขาออกตัวพูดแทนคนอื่นมากกว่าหล่อนที่เป็นว่าที่คู่หมั้น คล้ายกับว่ากำลังตำหนิหล่อนอยู่กลายๆ “ขอโทษค่ะ เมย์ลืมไป เมย์นี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ” หล่อนก้มหน้างุด ซ่อนความเกลียดชังภายใต้สีหน้าสลดและสองมือที่กำแน่น ผิดกับณหทัยที่ยิ้มร่า รินไวน์แดงใส่แก้วแล้วชูขึ้น จิบอย่างอารมณ์ดี “อืม...ไวน์ดีสมราคา” เธอไม่รู้หรอกว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร รสชาติก็งั้นๆ แค่อยากจะเยาะเย้ยเมษยาเท่านั้นแหละ หญิงสาวนั่งประสานมือท้าวคางบนโต๊ะ มองแฟนพี่สาวนอกไว้ยิ้มๆ ดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วแวววาวเหมือนจิ้งจอกน้อย หย่อนระเบิดลูกแรกลงในใจเมษยาด้วยน้ำเสียงหวานหยดว่า “ทำไมพี่เขยถึงรู้เรื่องของฉันล่ะคะ หรือว่าแอบสนใจฉันเหมือนกัน มิน่าละเมื่อกี้ถึงได้เดินตามฉันต้อยๆ ไปถึงห้องลองเสื้อ แถมยัง...” เธอละคำพูดไว้เท่านั้น แล้วหันสบตากับเมษยายิ้มๆ เห็นความริษยาล้นทะลักออกมาจากดวงตาของหล่อนแล้วสะใจชะมัด เพลิงครามมองเธอนิ่ง สายตามืดดำไม่มีคลื่นอยากที่เธออยากจะเห็น ไม่หวั่นไหวกับคำพูดยั่วยุที่จงใจทำให้เขาแตกคอกับเมษยาเลยสักนิด ถึงเขาจะไม่ได้สนใจณหทัยสักเท่าไร แต่เจอหน้ากันบ่อยๆ ก็ย่อมรับรู้นิสัยใจคอและความชอบของเธออยู่บ้างไม่มากไม่น้อย มันเป็นสิ่งที่ติดตัวมากจากการช่างสังเกตของเขาก็แค่นั้น ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในห้องลองเสื้อเมื่อครู่... เขาไม่จำเป็นต้องอธิบาย! ที่ณหทัยยั่วยวนเขาอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ก็เพราะจงใจปั่นหัวเขากับเมษยาเพื่อความสะใจเท่านั้นเอง คิดว่าเขาจะหลงกลเธอหรือ ทว่ายิ่งชายหนุ่มเอาแต่เงียบไม่ยอมพูด เมษยาก็ยิ่งเดือดดาลจนเก็บสีหน้าไม่อยู่ นับวันนังใบหม่อนจะยิ่งหน้าด้านไร้ยางอายมากขึ้นทุกที กล้าดียังไงมายั่วผู้ชายของหล่อนต่อหน้าต่อตากันแบบนี้ หล่อนอยากจะฉีกปากมันให้แหกจนยิ้มยั่วใครไม่ได้อีกเสียจริง เมษยากัดปากจนห้อเลือด ได้แค่คิดแต่ไม่กล้าลงมือ หล่อนนั่งจิกเล็บลงในเนื้อจนรู้สึกถึงความเจ็บแสบ กว่าจะควบคุมอารมณ์และกิริยาให้สงบนิ่งนุ่มนวลดังเดิม ปรามน้องสาวเสียงอ่อน แต่คำพูดประณามรุนแรงไม่ต่างจากสาดโคลนใส่หน้าว่า “เล่นอะไรน่ะหม่อน ไม่ดีเลยนะ พี่ครามเป็นคู่หมั้นของเมย์ หม่อนพูดแบบนี้ เกิดใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าหม่อนใจแตกเอาได้นะ” ณหทัยจิบไวน์อย่างละเลียด เลิกคิ้วบุ้ยใบ้ไปยังเพลิงคราม “ใครว่าพูดเล่น ไม่เชื่อก็ถามแฟนเธอดูสิว่าเมื่อกี้เขาทำอะไรกับฉัน” เมษยาหันขวับมาคาดคั้นแฟนหนุ่มทางสายตาทันที หล่อนทนใจเย็นไม่ไหวแล้ว อยากจะร้องกรี๊ดจนคอแตกให้สาสมกับความรุ่มร้อนเป็นไฟที่แผดเผาใจนัก ไม่รอให้เพลิงครามขยับปาก เป็นทีของเธอทั้งทีก็ต้องเล่นหนักๆ ให้คนขี้อิจฉาอย่างเมษยาคลั่งตายไปเสียเลย “อยากรู้มากเหรอ ฉันบอกให้ก็ได้” ณหทัยลุกเดินกรีดกรายมาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่ม กรีดนิ้วลงบนร่องอกหนั่นนูนลูบเลื่อนยั่วเย้า ยิ้มหวานช้อนตามองเขาอย่างออดอ้อน ก่อนจะกระชากเนกไทดึงคนที่ยังไม่ทันขยับตัวเข้ามาประกบจูบดูดดื่ม บดเคล้าอย่างวาบหวามอ้อยอิ่งราวกับปากเธอกำลังเต้นรำเริงร่าอยู่บนเรียวปากเขา ทันใดนั้นร่างกายของเพลิงครามก็อึดอัดคับแน่น กลางกายปวดร้าวทรมานเพราะความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง หัวใจเต้นรัวระส่ำเมื่อหญิงสาวบดเบียดเนื้อตัวงามสะพรั่งกับแผ่นหลังของเขา ทรวงอกหยุ่นนุ่มแนบชิดเสียดสีจนลมหายใจเขาติดขัด ยิ่งแนบชิดยิ่งได้กลิ่นหอมคล้ายดอกไม้อ่อนๆ บนตัวเธอ ทำให้เผลอไผลสูดดมกลิ่นสาวและลมหายใจสะอาดสดชื่นเข้าเต็มปอด พอเขาริเริ่มจูบตอบ ณหทัยก็ผละตัวถอยออกไปยืนอยู่ห่างๆ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม