บทที่ 1 ผู้ชายคนนี้ฉันไม่เอา1

1143 คำ
รถตู้ยุโรปนำเข้าเคลื่อนผ่านลานน้ำพุรูปปั้นอาชาไนยสวยสง่า เข้าจอดเทียบหน้าคฤหาสน์โอ่อ่าอวดบารมีและอิทธิพลเจ้าของบ้าน ครอบครัวรัชพันธุ์ทยอยลงจากรถทีละคน ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในตัวบ้านตามคำเชื้อเชิญของพ่อบ้านประจำตระกูลวราเศรษฐ์ที่ยืนรอต้อนรับ เหลือเพียงลูกสาวที่เป็นเหมือนแกะดำที่ไม่มีใครใส่ใจ ณหทัยกวาดตามองสถานที่แห่งนี้ด้วยความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อไม่กี่วันก่อนลิบลับ วันนั้นเธอร่ำร้องอยากจะมาที่นี่ด้วยหัวใจสุขล้น วันนี้เหลือเพียงความเฉยชาไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังคุณปู่กล้าโทรศัพท์มาถามไถ่เรื่องการหมั้นหมายที่ยืดเยื้อมานาน ระหว่างหลานชายคนเดียวของท่านกับลูกสาวทั้งสองของครอบครัวเธอ และวันนั้นเธอก็ให้คำตอบกับพ่อแม่ตามที่พวกท่านคาดหวังอยากจะได้ยินว่า “หนูขอถอนตัวค่ะ คุณพ่อคุณแม่ให้เมย์หมั้นกับพี่ครามไปเถอะ” “หม่อน...ทำไมพูดแบบนั้น!” เมษยาพี่สาวนอกไส้ของเธอยกมือทาบอกด้วยสีหน้าตกใจ ก่อนจะปรี่เข้ามาจับมือเธอแน่น เอ่ยกับเธอเสียงสั่นอย่างรู้สึกผิดว่า “เป็นเพราะเมย์ใช่มั้ย เพราะพี่ครามขอเมย์เป็นแฟน เลยทำให้หม่อนเจ็บปวด เมย์ขอโทษนะหม่อน ขอโทษจริงๆ ที่เมย์ทำร้ายหม่อน มะ...เมย์ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เมย์ไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ครามเขารักเมย์ ไม่ใช่หม่อน ถ้าเมย์รู้ว่าหม่อนก็รักพี่ครามเหมือนกัน เมย์คงยอมหลีกทางไม่คบกับพี่ครามตั้งแต่แรกแล้ว” ณหทัยมองเหยียดยิ้มเยาะคนพูด ฟังเหมือนจะเป็นคนดี แต่ที่จริงเมษยาได้ทีเย้ยหยันเธออย่างจงใจต่างหาก เธอฟังออก แต่น่าแปลกที่พ่อแม่ของเธอกลับฟังไม่ออก ซ้ำยังเห็นดีเห็นงามเอ่ยเข้าข้างลูกเลี้ยงอีกว่า “ไม่ใช่ความผิดของเมย์หรอกลูก” นิรมลแม้แท้ๆ ของเธอรีบประคองลูกรักคนโปรดมานั่งข้างกัน ลูบหัวปลอบขวัญให้หล่อนคลายความโศกเศร้า ส่วนชูชัยพ่อแท้ๆ ของเธอก็เอ่ยน้ำคำราวกับน้ำกรดที่ราดรดหัวใจที่กลัดเลือดกลัดหนองอยู่แล้วให้ยิ่งเหวอะหวะว่า “เรื่องนี้โทษยัยเมย์ไม่ได้ ถึงแกจะเป็นลูกฉัน แต่แกไม่มีปัญญาทำให้ผู้ชายเขารักเอง เพลิงครามรักพี่สาวแก แกก็สมควรจะหลีกทางให้พี่เขาน่ะถูกต้องแล้ว” ใช่...เธอเป็นลูกสาวที่เกิดจากพวกท่าน ส่วนเมษยาเป็นแค่ลูกคนใช้ชื่อทับทิม คนที่พ่อเธอลดตัวลงไปเกลือกกลั้วจนท้องโต พอเรื่องแดงแม่เธอก็ยื่นคำขาดให้สามีเลือก แน่นอนว่าพ่อเธอคงไม่ตาต่ำไปคว้าคนใช้มาออกหน้าออกตาอยู่แล้ว แม่คนใช้ใฝ่สูงจึงถูกเฉดหัวออกจากบ้านในเวลาไล่เลี่ยกับที่มารดาตั้งท้องเธอ จะเป็นกรรมหรือเพราะความแค้นก็ไม่รู้ ทับทิมแอบติดต่อกับคนใช้ในบ้านที่เป็นเพื่อนสนิท จนได้รู้ว่าแม่เธอฝากครรภ์และทำคลอดที่โรงพยาบาลไหน หล่อนจึงวางแผนทุ่มเงินที่ได้จากพ่อเธอไปฝากคลอดที่เดียวกัน และสลับตัวเธอกับลูกสาวตัวเองที่เกิดก่อนเพียงวันเดียว คุณหนูตัวจริงอย่างเธอจึงต้องไปใช้ชีวิตระหกระเหินกับแม่เสเพล แต่ยังดีที่มียายอ่อนคอยอุ้มชูดูแลให้ความรัก กระนั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับชีวิตของเมษยาที่อยู่อย่างสุขสบายราวกับเจ้าหญิง เพราะสวมรอยฐานะของเธอ ความมาแตกก็ตอนที่เมษยาเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แต่กรูปเลือดกลับไม่ตรงกับพ่อแม่ของเธอ พ่อเธอสืบสาวราวเรื่องจนเจอต้นตอว่าเป็นฝีมือทับทิม ท่านขู่จะลากหล่อนเข้าคุกจนต้องยอมรับสารภาพแล้วพาท่านมาพบเธอ เพื่อแลกกับการที่ท่านไม่เอาเรื่อง เพราะไม่ต้องการตกเป็นข่าวฉาวให้เสื่อมเสีย เธอในวัยสิบแปดจึงได้รู้ความลับชาติกำเนิดตัวเองก็ตอนนั้น ก่อนจะถูกบิดาพากลับตระกูลรัชพันธุ์ไปอย่างงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก การปรับตัวให้เข้ากับสังคมชนชั้นสูงไม่ใช่เรื่องง่าย มีกฎข้อระเบียบเยอะแยะที่น่าเวียนหัว เธอที่ใช้ชีวิตอยู่ในสลัมจึงเปรียบเหมือนกาในฝูงหงษ์ที่ทุกคนพากันรังเกียจไม่ต้อนรับ แม้แต่แม่ของเธอยังรับเธอไม่ได้เลย ลูกสาวที่มีสภาพมอมแมมเหมือนเด็กกะโปโล ปากร้ายใจกล้า ท่าทางก๋ากั่นกร้านโลกไม่ได้ดังใจ ไม่สวยละมุน กิริยาอ่อนหวานบริสุทธิ์ดุจดอกบัวเลอค่าเหมือนเมษยาที่ท่านชุบเลี้ยงมากับมือ แม้จะรู้ว่าเธอคือลูกแท้ๆ แต่สำหรับแม่แล้วคนในใจยังคงมีเพียงเมษยาไม่เสื่อมคลาย ส่วนคนเป็นพ่อยิ่งแล้วใหญ่ ท่านไม่เคยสนใจสายเลือดมากไปกว่าสายป่านของอำนาจและผลประโยชน์ ใครที่ทำเงินให้ท่านให้ได้มากกว่า ท่านก็พร้อมจะยกย่องเชิดชู เมษยาที่จับเพลิงครามได้อยู่หมัดจึงเป็นนางฟ้าในสายตาของพ่อ แต่เธอเป็นแค่หมาตัวหนึ่งที่ท่านไม่คิดจะชายตาแล ณหทัยยิ้ม... แม้แต่พ่อแม่บังเกิดเกล้ายังดูถูกเธอขนาดนี้ ก็ดีแล้วที่วันนั้นเธอได้รู้ความจริงในหัวใจของชายหนุ่มเข้าเสียก่อน ไม่อย่างนั้นขืนเดินทะเล่อทะล่าเข้าไปบอกรักเพลิงครามละก็ เธอคงจะโดนเขาประณามหยามเหยียดให้อับอายจมธรณีดินเป็นแน่ บางทีชาตินี้ทั้งชาติเธออาจไม่กล้าเดินออกจากห้องไปสู้หน้าใครได้อีกเลย ปล่อยให้เรื่องเป็นไปอย่างนี้ก็ดีแล้ว... ณหทัยถอนหายใจปลงตก แล้วเดินตามครอบครัวเข้าไปข้างในที่เจ้าของบ้านและแขกนั่งพร้อมหน้ากันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนยิ้มแย้มชื่นมื่นบรรยากาศดูสนิมสนมกลมเกลียว แต่พอแกะดำเช่นเธอเดินเข้ามาปุ๊บก็หุบยิ้มฉับ สายตาที่มองมาติหนิติเตียนอย่างชัดเจน ยกเว้นเพียงคุณปู่กล้าที่ยิ้มพลางมองเธออย่างมีเมตตา “เข้ามานั่งใกล้ๆ ปู่สิลูก” ท่านกวักมือเรียกเธอ หญิงสาวยิ้มรับแล้วค้อมตัวเดินผ่านหน้าเมษยากับหลานชายท่านโดยไม่มอง เข้าไปนั่งบนโซฟาตัวยาวข้างๆ มารดา หูยังไม่วายได้ยินมารดาเอ่ยตำหนิดังลอดออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “แกนี่ทำให้ฉันขายหน้าจริงๆ ไม่รู้รึไงว่าให้ผู้ใหญ่รอนานมันเสียมารยาท”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม