คนเรามันอ่อนแอและเจ็บปวดได้ไม่นานหรอก มันต้องลุกขึ้นสู้ต้องเผชิญหน้าบ้าง เช่นฉันที่ความอดทนมันมีขีดสุดเหมือนกัน
พวกมันมีความสุขในขณะที่ฉันกำลังตกนรกทั้งเป็นได้ยังไง
หยามฉันขนาดไหน ถึงกล้าทำในห้องที่ฉันอยู่แบบนี้
พอฉันคิดได้ก็รีบรวบรวมสติลุกขึ้นจากเตียงทันที ก่อนที่จะมุ่งเดินผ่านความมืดสลัวไปที่ห้องนั่งเล่น และเปิดไฟ
พรึบ!
"ว้าย! วะ วาเลน!"
"เฮ้ย!"
ฉันยืนมองชายชั่วหญิงโฉดน้ำตานองหน้า ขณะที่พวกมันกำลังลนลานถอดแก่นกลางกายออกมา และหาเสื้อผ้าปิดตัว
ซึ่งสุดท้ายฉันก็จะอ้วกเบือนหน้าไปทางอื่น ฉันรับไม่ได้ที่เห็นว่ามันเข้ากันลึกซึ้งขนาดนั้น ทิวไผ่ไม่เคยขอฉันมีเซ็กส์ไม่เคยล่วงเกินกัน จนฉันคิดว่าเขาเป็นคนดีและให้เกียรติฉันมาตลอด
ที่ไหนได้
เขามันชายมักมากในกาม คว้าเอาเพื่อนสนิทของฉันไปสนองตัณหา ตอนที่เอากันเคยคิดถึงหน้าฉันบ้างไหม? ตอนที่ฉันนอนอยู่ข้างในไม่กลัวว่าฉันจะได้ยินหรือไง? โหยหวนเหมือนหมาติดสัดอยู่ได้
เหลือเชื่อ ว่ากามารมณ์มันทำให้คนขาดสติ จนไม่รู้ผิดชอบชั่วดีขนาดนี้!
เพียะ!!!
เพียะ!!!
ฉันเดินไปตบหน้าทิวไผ่คนแรก ก่อนที่จะหันหลังมือฟาดไปที่แก้มแดงก่ำของน้ำอิงจนเธอหน้าหัน
จากนั้นค่อยๆกัดฟันพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ...ซึ่งมันเป็นคำจากใจที่แรงที่สุดในชีวิตฉันแล้ว
"อีระยำ"
"วาเลน! ฉันขอโทษ ฉันเมา...ฉันเมาจริงๆ" น้ำอิงจับแก้มของเธอ และเงยขึ้นอธิบายฉัน
"ใช่วาเลน ฟังก่อนนะ ไผ่ก็เมาเราไม่รู้เรื่องเลยว่าทำอะไรลงไป"
"เมาเหรอ? พวกมึงเอากันมากี่ครั้ง?!! อย่าคิดว่าที่ครางลั่น ฉันไม่ได้ยินนะ!"
สองคนนั้นเงียบแล้วมองหน้ากันตกใจ
"ไง พูดไม่ออกเลยล่ะสิ นี่ก็ชั่ว...นั่นก็เลว แอบสมสู่ลับหลังฉันกี่ครั้งแล้ว!?"
ฉันถามย้ำแล้วชี้หน้าพวกมันทีละคน ถึงแม้ปลายนิ้วจะสั่นระริก ไหล่จะสั่นเทา แต่ใจของฉันตอนนี้มันเด็ดเดี่ยวและหนักแน่น
ฉันจะไม่ยอมใจอ่อน หรือให้อภัยสองคนนี้เด็ดขาด
จนน้ำอิงที่เงียบไป เงยขึ้นมองฉันอีกครั้ง...แววตาเธอแดงก่ำและมีน้ำตาคลอ
"แกมาทีหลังนะวาเลน แกต้องเข้าใจว่าเรา...ฮึกๆ เรา..."
ทิวไผ่จับไหล่น้ำอิงและส่ายหน้าเบาๆ ราวกับไม่อยากให้เธอพูดอะไรออกมาอีก
"พูดมาสิ! พวกแกทำไม!!!?"
"เรามีเซ็กส์กันก่อนคบแก..."
หัวใจฉันแทบหยุดเต้น ฉันเบิกตากว้างและปล่อยน้ำตาที่เอ่อหยดลงอย่างไม่อาย ถ้าในโรงแรมนี้มีมีด ฉันจะวิ่งไปหยิบมันมาแทงพวกสารเลวนี่ให้ตายตอนนี้เลย
รวมหัวกันหลอกฉันทำไม?!
หลอกฉันได้ยังไง ทั้งๆที่ฉันรักและให้ใจกับทั้งคู่!
"ฮือๆ อีเลว ไอ้ชั่ว พูดออกมาหน้าไม่อาย!!"
"ฉันขอโทษฮือๆ ฉันยังอยากเป็นเพื่อนกับแก และอยากให้แกคบกับทิวไผ่นะ เราแค่มีเซ็กส์กันแต่เราไม่ได้รู้สึกอะไรกันเลยนะแก ฮือๆ แกเข้าใจเราเถอะนะ...ขอร้องล่ะ"
ฉันมองหน้าน้ำอิงทั้งน้ำตา และมองไปที่ซอกคอขาวที่มีรอยดูด จนทิวไผ่ที่ใส่กางเกงบ็อกเซอร์เรียบร้อย เขาลุกขึ้น
และเดินมาคุกเข่าต่อหน้าฉัน
"ไผ่รักวาเลนนะ ไผ่ให้เกียรติวาเลน ก็เลย..."
"อย่ามาตอแหล พวกแกพึ่งบอกหยกๆ ว่าเอากันก่อนคบกับฉัน!" ฉันตวาดลั่น ฝ
"แต่แค่ตอนเมา หลังจากนั้นเราคือเพื่อนกันปกติ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น ถ้าเวลาเลนไม่ชอบ...ไผ่จะหยุดทำ"
หยุดทำ? เหอะ...พูดมาได้!
น้ำอิงกอดอกชำเลืองมองทิวไผ่ทั้งน้ำตา ขณะที่ฉันก้าวถอยหลังออกไปห่างๆเขา
เพราะยิ่งฟังเหตุผล...ยิ่งทุเรศ กล้าบอกว่าจะหยุดทำทั้งๆที่ใจฉันมันพังไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันไม่สามารถกลับไปยืนจุดเดิมได้ เสียงที่พวกเขาทำกันมันคงหลอกหลอนฉันไปจนตาย
"มีสามคนก็ได้นะวาเลน ฉันสอนให้แกได้ เราเปิดใจเรื่องนี้กันเถอะ เซ็กส์มันคือความสุข ไม่ได้รักกันก็เอากันได้ ฉันไม่อยากเสียเพื่อนแบบแกไปเลยวาเลน ฮือๆ เข้าใจเราเถอะนะ"
ฉันอ้าปากค้าง...ทั้งอึ้ง ทั้งอยากยกส้นเท้ายัดปากผู้หญิงคนนั้น ทำไมเธอถึงกล้าพูดเรื่องวิปริตแบบนั้นออกมา ที่พูดอยู่คือแฟนฉันนะ!
"ฮึกๆ หุบปากน้ำอิง อีสารเลว! ยิ่งพูดยิ่งมีแต่ความทุเรศ!" ฉันด่าออกไปอย่างเหลืออด นาทีนี้ไม่รู้ตัวเองพูดคำหยาบโลนออกมาได้ยังไง ทั้งๆที่เมื่อก่อนฉันไม่เคยพูดมันเลยด้วยซ้ำ
"ไผ่ก็เลวอย่าด่าแค่น้ำอิงเลย ไผ่ขอโทษ...แต่เราสองคนอยากให้วาเลนลองเปิดใจเรื่องนี้ และลองดูนะ มานี่มาไผ่ช่วยสอน!"
ทิวไผ่พูดจบก็ลุกขึ้นทันที ก่อนที่จะคว้าข้อมือฉันหมับ และกระชากเข้าหา
"อย่านะไผ่ อย่า ทำบ้าอะไร?!"
ฉันเบือนหน้าหลบหนี แต่สุดท้ายน้ำอิงก็รีบมาจับไหล่ฉันไว้ และเมื่อฉันขัดขืนไม่ได้ทิวไผ่ก็กระชากชุดนอนฉันทันที
แคว้ก!
"กรี๊ดดดดดด! ปล่อย! ไอ้บ้า!!"
ฉันดิ้นทุรนทุรายฟาดมือใส่หน้าทิวไผ่ไม่ยั้ง จนคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนคว้าข้อมือไว้มั่น และจากนั้น ก็เหวี่ยงฉันไปที่โซฟา
ฟุบ!
"ไปกดไว้น้ำอิง" น้ำอิงถลามานั่งเหนือหัวและกดไหล่ฉันไว้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ฉันพยายามดิ้นและถีบชายที่กำลังเคลื่อนกลายเข้ากลางหว่างขา
"ช่วยด้วย อย่า อย่าทำ! อย่า!!! ปล่อยนะ!"
"ผ่อนคลายเถอะวาเลนสนุกนะ อีกอย่างแฟนแกไม่ได้มีผู้หญิงที่ไหนสักหน่อย เขามีแค่ฉัน...แล้วที่สำคัญฉันน่ะเพื่อนแกด้วย"
ฉันส่ายหน้ารัว จนมือของผู้ชายที่ฉันเคยกุมและบอกว่ามันอบอุ่น เคลื่อนมาที่หน้าอกพยายามถอดบรา
"ของแฟนไผ่ก็สวยดีนี่ มาสนุกกันเถอะนะ...ไผ่รักวาเลนนะ"
ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกขยะแขยงมือนั้นขึ้นมาทันที และเมื่อมันใกล้หน้าอกฉันขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็รีบใช้โอกาสที่ทิวไป่เผลอ และเตะเข้าไปที่เป้ากางเกงเขาสุดแรง
ปึก!!
"โอ๊ย!!"
"ไผ่!!" น้ำอิงหันขวับไปมองตกใจ ฉันจึงลุกขึ้นจากโซฟาใหญ่ และยกเท้าถีบที่หน้าอกของเธอเต็มแรง
"ไปตายซะน้ำอิง!"
ปึก!
"ว้ายยยบ วาเลน!!" เสื้อเชิ้ตตัวโคลงที่ฉันใส่นอนตอนนี้ไม่มีกระดุมสักเม็ด แต่ฉันไม่มีเวลาอาย จุดมุ่งหมายคือฉันต้องไปจากที่นี่
ฉันจึงรีบกำเสื้อแล้ววิ่งไปที่ประตูห้องทันที ก่อนที่จะเปิดประตูออกมา และวิ่งหาที่พักพิงให้ตัวเอง
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย "
"Help me! Help me! Please"
" ช่วยด้วย!"
"ซัล-รยอ ชู-เซโย!"
ฉันไม่กล้าเคาะ แต่พยายามตะโกนระหว่างทางเดินทั้งน้ำตา ซึ่งสภาพฉันดูไม่ได้เลย ชุดนอนหลุดรุ่ยไม่มีชิ้นดี เหมือนๆกับหัวใจของฉันตอนนี้ที่มันแหลกเหลวไม่เป็นท่า
ขอร้องเถอะ ขอแค่ใครสักคนเปิดประตูออกมา และช่วยฉันออกจากพวกขุมนรกนั่น
แกร๊ก!
ฉันหันขวับไปข้างหลัง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นทิวไผ่กำลังวิ่งออกมา ก็ต้องรีบเร่งเท้าเปล่าๆของตัวเองให้เร็วขึ้นอีก
"ช่วยด้วย ฮือๆ ช่วยด้วยค่ะ"
"วาเลนกลับมา~!"
"ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย"
แกร๊ก!
"ว้ายยย!"
ทุกอย่างเร็วมาก จนฉันไม่รู้เลยว่าคนที่เปิดประตูออกมาแล้วดึงฉันเข้าไปในห้องหน้าตาเป็นยังไง แต่ตอนนี้หน้าฉันชนกับอกเขาเข้าให้
มันเป็นอกที่แข็ง อุ่น มีจุกนมผู้ชายสีชมพู
ผู้ชาย? จุกนม? แสดงว่าไม่ใส่เสื้อ!?
กรี๊ด! นี่ฉันหนีเสือประจระเข้เหรอเนี่ย!?
"กรี๊ดดดดดดดดดด ปล่อยนะไอ้บ้า" ฉันกรี๊ดแล้วยกสองมือดันอกแกร่งออกไป จนเห็นว่าชายที่ดึงฉันเข้ามาในห้อง เขาใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
"เธอคนไทยนี่ เหอะ...แหกปากเก่งซะด้วย"
เขาเป็นคนไทยหรอกเหรอ?!
พอรู้แบบนั้นฉันก็กล้าเงยขึ้นมองหน้าเขาชัดๆ จนเห็นว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นหนุ่มเอเชียรูปร่างดี สูง หล่อ ขาว จมูกโด่ง ผิวเกลี้ยงเกลา มีแผงอกเป็นทรง มีซิกแพคเป็นร่องๆ
"คุณคนไทยเหรอ?! ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าล่ะ! ไปใส่เสื้อผ้าซะสิ"
"เฮ้ยยัยบ้า นี่มันห้องฉันนะเว้ย เธอนั่นแหละควร...ใส่"
สายตาคมไล่มองมาหยุดที่หน้าอกฉัน จนฉันรีบรวบชายเสื้อเชิ้ตและปิดหน้าอกไว้ทันที ให้ตายสิ! เขาเห็นของฉันทั้งบนทั้งล่างแล้วแน่ๆ
ถึงจะมีแพนตี้กับบรา แต่ฉันก็อายเหมือนกันนะ
"นี่ฉันหนีเสือปะจระเข้รึเปล่า" ได้ยินแบบนั้น เขาก็ท้าวสะเอวแล้วลอบหัวเราะเบาๆ
"เหอะๆ ไม่รู้สิ หนีเสือเจอเสือมั้ง แล้วที่ร้องลั่นโรงแรม เธอเป็นอะไรมากรึป่าววาเลน"
ฉันเบิกตากว้างทันที
"คุณรู้จักฉันเหรอ?"
เขายังไม่ตอบ แต่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ให้ฉัน ซึ่งมันเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนกัน และในตู้ก็มีเสื้อนักบินสามแถบ แถมมีสูทสีกรมโลโก้สายการบินยักษ์ใหญ่ของไทย ที่ฉันใช้บริการประจำด้วย
ไฟลท์ที่ฉันมาก็บินสายการบินนี้ เขาขับรึเปล่านะ
"คุณ...เป็นคนขับเครื่องบินเหรอ?" ฉันตัดสินใจถามตรงๆ
"ฉันเป็นนักบิน เรียกให้หล่อหน่อยสิ"
"คนขับเครื่องบิน ก็เหมือนกับคนขับรถ เรียกแบบไหนก็เหมือนกัน" ฉันพูดจบก็คว้าเสื้อเชิ้ตในมือเขามา ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องน้ำแล้วหยุดชะงัก
ใช่ ฉันต้องถามเรื่องนั้นด้วย....
"ดะ เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้คุณเรียกชื่อฉัน คุณรู้จักฉันได้ยังไง?"
"ไปใส่เสื้อให้เรียบร้อยแล้วฉันจะบอก"
"ไม่ คุณต้องบอกฉันมาก่อนว่ารู้จักฉันได้ยังไง ถ้าเกิดฉันไปเข้าห้องน้ำ แล้วคุณไปล็อกประตูห้องข่มขืนฉันล่ะ ฉันจะไม่ซวยซ้ำสองเหรอ!?"
คุณนักบินส่ายหน้าเอือมระอาแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ในห้อง ก่อนที่ออกมาเขาจะส่งนามบัตรให้ฉัน ที่มีทั้งชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่น เอ๊ะ...นามสกุลคุ้นๆเหมือนเคยได้ยิน แต่ 'แอร์บัส' ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
ทำไมเขารู้จักฉันล่ะ?
"ไง ฉันยืนยันทั้งชื่อนามสกุลขนาดนี้ดูบริสุทธิ์ใจพอรึยัง? แล้วที่ฉันรู้จักเธอนะ เพราะเห็นเธอในทีวีต่างหาก ไม่มีพิศวาส หรือมีอะไรมากกว่านั้น"
ฉันเงยขึ้นจากนามบัตรเขาทันที
"แล้วสัญญากับฉันได้มั้ย ว่าคุณจะไม่ล่วงเกินฉัน และพาฉันไปที่ล็อบบี้โรงแรม"
เท่านั้นแหละนักบินหนุ่มก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เขาจะยกมือค้ำผนังห้อง และจ้องหน้าฉันด้วยสายตาจริงจัง
"เฮ้อ...ฉันไม่ชอบมีเซ็กส์กับคนไม่สมยอม มันไม่เร้าใจ ฉะนั้นเธอไปเปลี่ยนชุดซะ เพราะสภาพเธอ....มันไม่น่าดูเอาซะเลย-_-^"