ณัฐภัทรยืนเป็นคนโง่อยู่ได้ชั่วครู่ ก็เข้าไปในบ้านแล้วหาโทรศัพท์ที่ทิ้งไว้ส่ง ๆ สุดท้ายก็เจอมันวางอยู่ตรงโซฟารับแขก เขาต่อสายหาคุณแม่เป็นคนแรก เพราะตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน
“คุณแม่ครับ...โจรขึ้นบ้าน ตอนนี้พลอยอยู่โรงพยาบาล”
คุณณัฐสุดาตกใจแทบเป็นลมไปอีกคน แต่ก็ยังประคองสติได้ จึงขับรถตามลูกชายไปดูอาการลูกสะใภ้ที่โรงพยาบาล
หน้าห้องฉุกเฉิน
เด็กหญิงพิพิณลูกสาวคนสวยที่เขานึกเป็นห่วง จึงเอารถเข็นมาให้ลูก แล้วลูกสาวจึงหลับในรถเข็นเพราะร้องไห้จนเพลียไปแล้ว ใครกล่อมก็เอาไม่อยู่คิดจะหาคุณแม่อย่างเดียว
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงพยาบาลก็เข็นร่างของพิมพ์พลอยออกมาจากห้องฉุกเฉิน ใบหน้าซีดเซียวของลูกสะใภ้ทำให้ณัฐสุดาสงสาร อยากจะทุบเจ้าลูกชายสักร้อยครั้งให้สาสมกับที่มันสะเพร่าอย่างนี้
ดีที่พิมพ์พลอยไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้นคงตอบคุณพิภพไม่ได้ว่าดูแลลูกสะใภ้กันยังไง
พิภพเมื่อไม่มีอะไรแล้ว เขาจึงขอตัวกลับบ้าน คิดว่าจะมาเยี่ยมตอนยายพลอยฟื้นอีกทีตอนกลางวัน
“อยู่กันตั้งหลายคน คิดว่าดูแลหลานกับเหลนผมได้ใช่ไหม” เสียงที่ชราวัยบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างมากเอ่ยออกมา
ทั้งยังมองด้วยสายตาเอาเรื่องเจ้าหลานเขยตัวดีที่ปล่อยให้หลานสาวตัวเองกับเหลนต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ทว่ามันก็เข้ามาขอโทษแล้วจึงจะลองให้โอกาสสักครั้ง หากมีครั้งหน้าที่พิพิณต้องตกอยู่ในอันตรายอีกล่ะก็ บ้านพรพิพัฒน์คงได้เห็นดีกัน
“ผมจะดูแลเธอเองครับคุณตา”
เขาพูดอย่างอื่นไปไม่ได้ เพราะอย่างไรก็เป็นเมียของเขา ไม่ใช่คนอื่นไกลรับปากไปก่อน แต่จะดูแลอย่างไรมันก็สิทธิ์ของเขา
“ลูกผู้ชายควรรักษาคำพูด”
เขาอยากโต้กลับนักว่า ก็ส่งหลานสาวมาให้เขารับผิดชอบเองนี่นา ช่วยไม่ได้ แต่ทว่าเมื่อเห็นสายตามารดาแล้วก็ต้องเงียบปากลง
“แม่จะกลับไปเอาเสื้อผ้าของหลานกับของใช้ของพลอยที่บ้าน แกเฝ้าอย่าไปไหนนะ ไม่งั้นเจอดีแน่” เสียงขู่ของณัฐสุดาทำให้เขาหัวเสีย นี่เขาโตแล้วนะ อายุก็ปาเข้าไป 28 แล้วด้วย
“ค้าบแม่”
เมื่อมารดากลับไปแล้ว ณัฐภัทรมองร่างที่อยู่บนเตียงแล้วก็ถอนหายใจ ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไรอาจจะเป็นห่วงนิด ๆ มั้งถึงทำให้เจ็บแปลบที่อก เขาสลัดความฟุ้งซ่านออกไป แล้วก็นอนหลับที่โซฟาในห้องพักผู้ป่วยข้างลูกสาวที่หลับไปแล้ว
ตอนเช้าพิมพ์พลอยตื่นขึ้นมา เธอมองซ้ายขวาแล้วก็พบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาล เมื่อเห็นว่าลูกและสามีไร้ความรับผิดชอบนอนอยู่ในห้องก็รู้สึกโล่งใจ เธอจำได้ว่าตำรวจมาพอดี เมื่อจับคนร้ายได้เธอก็เป็นลมไปเลย
คงเพราะไม่ค่อยได้กินอะไรช่วงนี้เลยเป็นลมได้ง่าย เธอขยับลุกขึ้นมองด้านข้าง แล้วพยาบาลก็เข้ามาพอดี เมื่อจะอ้าปากพูด เธอก็ส่งสัญญาณให้เบาเสียง เพราะลูกสาวหลับอยู่
พยาบาลเพียงแต่มาถอดสายน้ำเกลือ เอาออกแล้วก็แจ้งเธอเบา ๆ ว่าวันนี้ก็กลับบ้านได้แล้วคุณหมออนุญาต
เธอพยักหน้ารับ แล้วก็ลงจากเตียง แขนที่มีผ้าพันแผลพันไว้รอบรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ คงเป็นอาการอักเสบ แต่เธอก็กัดฟันอดทนแล้วลงเดินเข้าห้องน้ำ
เมื่อเสียงกดชักโครกดังปลุกให้ณัฐภัทรตื่นขึ้น เขาก็มองไปยังร่างบนเตียงไม่พบ จึงรู้ว่าน่าจะเป็นเมียอวดดีของเขาที่เดินเข้าห้องน้ำเองโดยไม่เรียก
หึ...อวดเก่งดีนี่!
เมื่อเธอออกมา ก็พบว่าเขาตื่นแล้วแต่เธอก็เงียบไม่ได้พูดอะไร มันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจริง ๆ จุกแน่นไปในอก เธอตกอยู่ในอันตราย แต่เขาไม่อยู่บ้าน จากสภาพคงไปเที่ยวอย่างที่เคย
“ทำไมไม่โทรหาฉัน” ณัฐภัทรทนความเงียบและกดดันนี้ไม่ไหวจึงเปิดปากพูดออกมาก่อน
“คุณไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป” เธอตอบเสียงแข็งไม่ต้องสาธยายก็รู้ว่าโกรธเพียงใด
“แล้วทำไมต้องโทรหาคุณตา”
“ก็ผัวชั่ว ๆ แบบคุณมันไม่อยู่ไง” คราวนี้สายตากร้าวหันไปมองเขากดเสียงรอดไรฟันให้เบาที่สุด มีคำด่าในใจเป็นหมื่นล้านคำ แต่พูดออกมาไม่ได้เพราะลูกสาวหลับอยู่
“ตำรวจก็มีทำไมไม่โทร”