ดวงตาของณัฐภัทรมีประกายความหวังเล็ก ๆ
ร่างกำยำของณัฐภัทรยืนขึ้น แล้วถือแก้วเหล้าไปด้วยหมายอยากเข้าไปทักทาย เพราะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่เพื่อนหนุ่มกับรั้งไว้ก่อน
“ไอ้ห่า...อย่าเล่นกับไฟ...เดี๋ยวได้บ้านแตก” จักรทิพย์ห้ามเพื่อน เพราะได้ข่าวเกี่ยวกับเนตรนภามาบ้างเหมือนกัน แต่ว่าเขาไม่อยากจะพูดให้เพื่อนตัวเองฟังก็เท่านั้น
“หึ...กูรู้น่า”
แล้วเขาก็รั้งมันไว้ไม่ได้ มันก็เข้าไปทักกับแฟนเก่า แล้วก็กอดคอเต้นกันอย่างนัวเนียตรงกลางหน้าเวที นึกแล้วสงสารลูกเมียมันเหลือเกิน ที่ได้ผัวเหี้ยพ่อเลวอย่างเพื่อนเขา
เห้อ!
พิมพ์พลอยกล่อมลูกจนหลับแล้วเธอก็ยังลงมารอเขาด้านล่าง เพราะหากล็อกประตูก็กลัวว่าเขาจะเปิดเข้ามาไม่ได้ แล้วคนที่ไม่ชอบพกกุญแจบ้านก็จะต่อว่าเธอเอาอีก จวบจนเวลาผ่านไปถึงหกโมงเช้า ร่างของสามีเพิ่งจะย่างกรายเข้ามาในบ้าน คนที่รอจนหลับบนโซฟาสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงประตู
เธอเป็นคนขี้กลัว อยู่กับลูกสองคนก็กลัวขโมย แต่จะล็อกบ้านสามีก็หาเรื่อง มีครั้งหนึ่งเขาโมโหจนผลักเธอล้มเพราะมาเปิดประตูช้า ทำเอาเธอแอบไปร้องไห้เพียงลำพังคนเดียว
ณัฐภัทรไม่ได้สนใจว่าภรรยานอนรออยู่หรือไม่ เขาคุยโทรศัพท์มาจากที่จอดรถแล้วก็ยังไม่วางสาย
“ครับเนตร ถึงบ้านแล้วครับ”
เนตร? เมื่อได้ยินชื่อนี้อีกครั้งหัวใจของพิมพ์พลอยรู้สึกจุกแน่นในอก เธอเกลียดเพื่อนคนนี้เข้าไส้ แต่ทำไมเขากับเพื่อนชั่วคนนั้นยังติดต่อกัน
“เนตรก็ขับรถดี ๆ นะครับ ไว้นัดกันใหม่ครับ”
เสียงที่คุยกับอดีตแฟนของตัวเองหวานหยดย้อยแบบไม่เคยเป็นกับเธอมาก่อน ความน้อยเนื้อต่ำใจก่อตัวขึ้นเป็นสายหัวใจพลันรู้สึกบีบคั้นอย่างรุนแรง เธออยากกระชากโทรศัพท์ของเขาปาทิ้ง แล้วก็อาละวาดให้บ้านแตก
....แต่เธอไม่มีสิทธิ์...
“คิดถึงเสมอครับ” คำสุดท้ายที่เขาพูดแล้วก็วางสายด้วยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า ทำให้หัวใจของพิมพ์พลอยแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี
เขาจะทำร้ายหัวใจเธออีกนานไหม?
“ไปอยู่ที่ไหนมาคะ” เธอแค่นคำถามและควบคุมอารมณ์อย่างที่สุดเพื่อพูดออกไปโดยให้น้ำเสียงธรรมดาที่สุดไม่เจือด้วยความโกรธ
ใช่เธอพยายามมีเหตุผลกับคนไร้เหตุผลอย่างเขา
“มันธุระอะไรของเธอที่ต้องรู้ มีหน้าที่ดูแลบ้านเลี้ยงลูกก็เลี้ยงไป อย่ามาสาระแนเรื่องของฉัน” เขายกเสื้อสูทพาดที่บ่าแล้วหันหลังขึ้นห้อง แต่ทว่ากลับต้องยั้งเท้าอยู่ก่อนเมื่อได้ยินเสียงถัดมา
“คุณกลับไปคุยกับเนตรนภาเหรอคะ” เธอกำหมัดแน่นจนเกือบสั่นไปทั้งตัว จำได้ดีว่าชีวิตในนรกขุมนี้เพื่อนรักของเธอมอบให้
“เหอะ...กล้าพูดถึงเพื่อนไม่กระดากปาก แย่งของรักของเขามาแล้วยังมาถามอีกเหรอ” เขามองท่าทางหยิ่งยโสของภรรยาแล้วกลอกตาสามรอบด้วยความระอาใจ
ผู้หญิงหน้าไม่อาย!
“ฉันบอกคุณรอบที่พันแล้วว่าฉันไม่ได้แย่ง ฉันไม่ได้ต้องการคุณ...แต่...”
“แต่...บังคับให้คุณตามาบอกให้ฉันรับผิดชอบ...บ้านเธอมันหิวเงิน แม่เธอก็ผู้หญิงสำส่อน ส่วนเธอก็อยากได้ของเพื่อน ดีนะครอบครัวไร้ยางอาย เข้ากันดี”
“หยุดด่าว่าคนอื่นสักที!”
“ทำไม...แตะต้องไม่ได้เลยใช่ไหม...หึ สูงส่งมาจากไหน กับอีแค่ข้าราชการเกษียณจน ๆ ที่ทำตัวเหมือนขอทานเร่ขายหลาน เหอะ! มีอะไรให้น่าสรรเสริญ”
พิมพ์พลอยทนให้เขาดูถูกครอบครัวมานานแล้ว แต่เธอพูดอะไรไม่ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่พูดเรื่องเลิก ทั้งแม่เขาและคุณตาล้วนไม่ยอมไม่อยากให้หลานมีปมด้อย โดยไม่สนว่าเธอจะเป็นหรือตาย
“เลิกคุยกับเนตรนภาซะ” เธอตัดสินใจพูดในสิ่งที่คนเป็นเมียควรพูด
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง สำเหนียกตัวเองด้วยนะ”
“สิทธิ์เป็นเมียไงล่ะ คุณแต่งงานกับฉันนะ”
“เหอะ...กล้าเอามาอ้าง”
“ปล่อยให้เรื่องของคุณกับเนตรเป็นอดีตไป ก่อนที่ฉันจะรังเกียจคุณไปมากกว่านี้” ต่อให้เป็นเมียที่ไม่ต้องการเธอก็มีศักดิ์ศรีในความเป็นเมียเหมือนกัน
ณัฐภัทรเดินลงมาหาเธอพร้อมเอานิ้วชี้ยื่นไปจิ้มที่สมองกลวง ๆ ของผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมีย
“เขาไม่ใช่อดีต ส่วนเธอคือขวากหนามของเราจำเอาไว้!!!”