เด็กสาวตื่นเช้ามา เมื่อคืนเธอนอนหลับสนิทเป็นคืนแรกหลังจากที่พ่อกับแม่เสีย ไม่แน่ใจว่า ด้วยความอ่อนเพลีย หรือความเจ็บปวดบนใบหน้าและลำตัว ทำให้เธอหลับสลบไปแบบนี้กันแน่
เธอค่อย ๆ กระพริบตาสองสามที เพื่อพยายามระลึกว่าที่นี้คือที่ไหน? ใช่แล้ว เธอย้ายมาอยู่บ้านของอาคิน ที่เป็นเจ้านายของพ่อ แล้วเธอต้องไปโรงเรียนพร้อมเขา ตายแล้ว! ตอนนี้เธอกำลังจะสาย ร่างบางรีบกระวีกีะวาดเก็บที่นอน ก่อนจะรีบดีดตัวเข้าไปอาบน้ำ แต่งตัวด้วยชุดนักเรียน ถักเปียสองข้างอย่างลำบากยากเย็น เพราะปกติจะมีแม่ถักให้ทุกเช้า เธอน้ำตาคลอ ด้วยความคิดถึงวันเก่าๆ แต่ไม่อยากอ่อนแอ รีบปาดมันออก ก่อนจะแต่งตัวหยิบกระเป๋านักเรียน ไปรอเขาที่หน้าบ้าน
แต่พอไปถึง ปรากฏว่า ดวงตาคู่คมที่แต่งตัวในชุดทำงานกำลังมองมาที่เธออยากไม่พอใจ
”เธอสาย!” เสียงเข้มที่กำลังบอกให้รู้ว่า ตอนนี้เขากำลังไม่สบอารมณ์ที่ต้องรอเธอ
“หนูขอโทษค่ะอาคิน เมื่อคืนหนูเพลียๆ เลยหลับลึกไปนิดนึง” เธอยกมือไหว้ขอโทษเขาด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่รู้จักรักษาเวลา ให้ผู้ใหญ่รอ แล้วมาอ้างว่าตื่นสาย ถ้าเป็นแบบนี้ วันหลังฉันจะทิ้งให้ไปโรงเรียนเองนะ”
พูดจบก็เดินลิ่วขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องรีบวิ่งตามเขาให้ทัน แต่ไม่รู้วิ่งท่าไหน กลับสะดุดขาตัวเองจนเกือบล้ม ดีที่อคินหันกลับมารับทัน เธอจึงเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนปะทะกับอกแกร่งของเขาเต็มๆ กลิ่นน้ำหอมของบุรุษเพศผสมกับกลิ่นบุหรี่ของเขา ทำให้เธอชะงักไปชั่วขณะ
“ซุ่มซ่าม ม้าดีดกระโหลกจริงๆ” เสียงดุของเขา ปลุกเธอให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
“ขะ ขอโทษค่ะอาคิน”
เธอรีบละะออกจากอ้อมแขนเขาและยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด แต่เหมือนเขายังทำหน้าบึ้งไม่เลิก เธอนั่งตัวลีบเล็กอยู่บนรถของเขา เมื่อเธอโรงเรียน หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขาก่อนลงจากรถ
“อ่ะ ค่าขนม” เธอมองแบงค์พันที่อยู่ในมือเขา อย่างงงๆ
“หนูยังมีเงินค่ะ อาคินเก็บไว้เถอะ”
“รับไป ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก” หญิงสาวเลยจำเป็นต้องยกมือไหว้และรับมา อันนี้ที่เขาให้ มันของวันนี้หรือสำหรับทั้งอาทิตย์
“ตอนเย็นเลิกงานแล้วมารับ อย่าไปเถลไถลที่ไหน จำไว้”
“ค่ะ อาคิน”
เธอพนมมือไหว้เขาอีกรอบก่อนจะค่อยๆ ปิดประตูรถราคาแพงของเขาอย่างเบามือ แล้วเดินเข้าโรงเรียนด้วยความรู้สึกประหลาด หรือ อาคินของเธอ จะปากร้ายใจดีแบบที่ป้าส้มว่ากันนะ
อคินขับรถออกมาจากหน้าโรงเรียน สภาพเขาตอนนี้เหมือนพ่อลูกอ่อนก็ไม่ปาน ต้องรับส่งเด็กหญิงไปกลับโรงเรียนทุกวัน แต่ก็ไม่ได้หนักหนา เพราะมันเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ไหนๆ เขาก็รับปากพี่ชิตเอาไว้ ว่าเขาจะดูแลลูกสาวอย่างดี เพื่อให้เขาตายตาหลับ แต่ด้วยความที่ไม่เคยสัมผัสหรือใกล้ชิดกับเด็กผู้หญิงคนไหนมาก่อน เพราะสำหรับเขา ต้องอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์มาวนเวียนอยู่ในชีวิตได้ แถมเธอยังอยู่ในฐานะหลาน ก็ทำเอาเขาวางตัวแทบจะไม่ค่อยถูกเลยดีเดียว ด้วยนิสัยแข็งๆห่ามๆ เลยทำให้หลุดพูดแรงๆกับเธอไปบ้าง แต่ก็ดีแล้ว เพราะเธอจะได้ไม่เหลิง เพราะจากที่คุยกันมา ก็รู้เลยว่าเธอเอง ก็ดื้อใช่ย่อย
“จ๊ะเอ๋!!!”
“ว๊ายยย ลูกแม่ร่วง ไอ้พลอย ตกใจหมดเลย เล่นอะไรของแกว่ะ”
ไลลาที่กำลังเดินใจลอยอยู่ ก็ต้องเผลอหลุดพูดโวยวายเสียงดังลั่นออกมา เธอกำลังคิดถึงอาคิน เลยเดินเข้าโรงเรียนอย่างใจลอย
“แกเหม่อเหรอ ไอ้ไลลา คิดถึงใครอยู่นะ เห็นนะ ว่าวันนี้มีหนุ่มหล่อมากกกกกกกก ขับรถมาส่งแกหน้าโรงเรียน”
พลอยใส เพื่อนสนิทของหญิงสาวเอ่ยทัก เธออยากรู้ว่าผู้ชายที่มาส่งเพื่อนเป็นใคร
“หนุ่มที่ไหนกันล่ะ นั่นอาคิน อาที่มารับฉันไปอยู่บ้านด้วยต่างหาก”
“โห!!!!! หล่อมากเพื่อน อาแก ฉันนึกว่าพระเอกซีรีย์เกาหลี ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนว่ะ”
“เขาไม่ใช่อาแท้ๆฉันหรอก เป็นเจ้านายของพ่อกับแม่นะ”
พอพูดถึงพ่อกับแม่ ทำเอาไลลาหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด จนพลอยใส ใจคอไม่ดี เพราะสงสารเพื่อนที่เพิ่งเจอกับเรื่องที่โหดร้ายในชีวิตมาหมาดๆ
“เออ แก อย่าเศร้าเลย พอแกเศร้า ฉันจะร้องไห้ด้วยว่ะเพื่อน”
พลอยใสที่หน้าหมอๆไปด้วย ทำให้ไลลา ไม่อยากร้องไห้อีก เพราะสงสารเพื่อน
“ไปจองโต๊ะเรียนคอมกันเถอะ เดี๋ยวได้เครื่องกากๆอีก ส่งงานไม่ทันอีกแน่”
ไลลาดึงเพื่อนขึ้นบนอาคาร พร้อมเสียงหวีดร้องตกใจเบาๆ ของพลอยใสเพราะความที่ไม่ทันตั้งตัว
“แกๆๆ บอกหน่อย อาคินแก เขาเป็นใครมาจากไหนเหรอ” พลอยใสที่เห็นจังหวะครูเผลอ แอบคุยกับไลลาในห้องเรียน
“ฉันไม่รู้ รู้แค่เขาชื่อ อาคิน แล้วก็มีบ้านหลังใหญ่ กับเป็นนายจ้างของพ่อกับแม่แค่นั้น”
“แล้วเขามีลูกมีเมียยัง”
พลอยใสยังสงสัยไม่เลิก เพราะเธอเห็นแค่แว๊บเดียว ยังเพ้อได้ขนาดนี้ อิจฉาไลลาที่ได้ใกล้ชิดกับคนหล่อขนาดนั้นมากๆ
“ไม่รู้เลย แต่เท่าที่เห็นที่บ้าน ยังไม่มีนะ”
“แกไปเอาชื่อ นามสกุลของอาคินแกมา แล้วเราค่อยเอามาสืบกัน”
“พลอยพิมล//ลลิตา คุยอะไรกันนักหนา!” เสียงครูที่ตะโกนจากหน้าห้อง ทำให้เด็กสาวสองคนที่กำลังนั่งคุยกัน เงียบปากได้สนิท
“ว่าไงค่ะ คุยอะไรกัน! ครูยืนสอนอยู่ไม่เกรงใจกันเลย”
“ขอโทษค่ะคุณครู” เธอสองคนยกมือไหว้พร้อมกัน จนอาจารย์บ่นๆๆอีกรอบ ในที่สุดก็หมดคาบจนได้