เหตุผลที่ได้กลับมา

1631 คำ
บทที่ 12 เหตุผลที่ได้กลับมา “ริสา เธอเข้าไปยุ่งแบบนี้ คิดว่ามันจะจบง่าย ๆ เหรอ” เสียงของลูแปงถาม ในขณะที่คาริสานั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ หน้าห้องอาบน้ำหญิง “ไม่ได้คิดว่าจะง่ายอยู่แล้ว และไม่คิดว่าจะดูเฉย ๆ ด้วย ” “เธอเกี่ยวข้องอะไรกับนาเดียร์งั้นเหรอ” “เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับนาย” รมิดาตอบ ทางด้านลูแปงได้แต่ถอนหายใจหนัก เป็นครั้งแรกที่คาริสาเย็นชาได้ถึงขนาดนี้ คำพูดที่พ่นออกมา ราวกับเป็นคนละคน “ไม่เกี่ยวเหรอ? ปกติแล้วทุกเรื่องเธอจะบอกผมตลอด ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่ไว้ใจกันแล้วเหรอ” ชายหนุ่มถามยาวเหยียด “เอาเป็นว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะพูด ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่ฉันมีเรื่องที่บอกไม่ได้…ฉันขออะไรอย่างได้ไหมลูแปง” “อะไร…” “ถ้าเกิดวันหนึ่ง ฉันไม่อยู่ ช่วยดูแลนาเดียร์ให้หน่อยได้ไหม…” “เธอจะไปไหนอีก…” “เปล่า…แค่พูดเผื่อเอาไว้…เผื่อวันหนึ่งไม่อยู่” “พูดอะไรแปลก ๆ แบบนั้น…คงไม่ใช่จะไปกระโดดตึกอีกนะ” “ใครจะไปคิดสั้นแบบนั้นกัน…” “นั่นน่ะสิ…ผมเองก็คิด คนที่ไม่เครียดอย่างคุณจะไปกระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตายได้ยังไง…” “ไม่เครียดเหรอ?…ก่อนหน้านั้นฉันพูดอะไรกับนายบ้าง” เรียวปากสีหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย แสดงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคาริสา “ก็เธอมาบอกกับผมว่าอยากแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อเลโอนั่น…วันรุ่งขึ้นคุณบอกว่าถูกปฏิเสธ จากนั้นไปขู่เขาว่าถ้าไม่ยอมแต่งงาน เธอจะไปกระโดดตึกฆ่าตัวตาย…คุณพูดแล้วก็หัวเราะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ…แล้วหลังจากนั้นกลางคืน…ผมได้ข่าวว่าเธอฆ่าตัวตาย…ผมแทบช็อค หลังจากวันนั้นมา ผมก็ไม่เจอคุณอีกเลย” “อืม…แปลก” รมิดาครุ่นคิด “นั่นสิ ผมว่ายังแปลกเลย ผมคิดว่ารู้จักคุณดีแท้ ๆ คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้จักคุณเลย….หากวันนั้นผมไปส่งที่บ้านคุณล่ะก็…เหตุการณ์แบบนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น…ผมขอโทษนะ” “มันใช่ความผิดของนายที่ไหนกัน…เอาเถอะ…ฉันไปดูนาเดียร์ก่อนนะ ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว” “ครับ” สองเท้าเล็กกำลังจะก้าวเข้าไปยังบริเวณห้องน้ำ ทว่าบังเอิญนาเดียร์เดินสวนออกมาพอดี “เป็นไงบ้าง โอเคไหม ชุดใส่ได้พอดีหรือเปล่า” เสียงหวานถามด้วยความเป็นห่วง นาเดียร์ก้มหน้านิ่ง เม้มเรียวปากแน่น ค่อย ๆ ช้อนตาขึ้นมามองผู้หญิงตรงหน้า ด้วยความรู้สึกที่ประหลาดใจ “ค่ะ…ขอบคุณนะคะ…แล้วก็ขอโทษเรื่องที่เสียมารยาทกับคุณ” “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ถือ” คนตัวเล็กๆยิ้มกว้าง แล้วพูดว่า “ต่อจากนี้อย่ายอมให้ใครมารังแกอีกนะ หากถูกรังแกอีกให้สวนหมัดหนัก ๆ กลับไปเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะทำตัวเป็นผู้ปกครองของเธอเอง” “ค่ะ…แต่ฉันสู้คนไม่เป็นจริง ๆ” นาเดียร์ตอบ พร้อมกับก้มหน้า ดวงตาหุบต่ำลง ในขณะเดียวกันลูแปงที่เดินเข้ามา ได้ยินบทสนทนานั้นพอดี จึงยื่นข้อเสนอว่า “ถ้าอย่างนั้น มาเรียนกับฉันก็แล้วกัน ยูโดน่ะ” “ยูโด?” นาเดียร์ทวนคำ “ดี เอาแบบนั้นแหละ” รมิดาที่ได้ยินก็ตอบตกลงทันที ถึงจะฝากให้คนอื่นปกป้อง แต่ไม่มีใครอยู่ปกป้องได้ตลอด ให้เธอรู้จักปกป้องตัวเองได้นั้นดีที่สุด “เอ่อคือ….” “อย่าปฏิเสธเลย เอาเป็นว่าฉันไปเรียนด้วย เริ่มเย็นนี้เลยเป็นไง” หญิงสาวพูด แล้วหันไปมองหน้าลูแปง ซึ่งชายหนุ่มเองพยักหน้าแทนคำตอบ ออด! เสียงกริ่งดังขึ้นจากทั่วทุกมุมของโรงเรียน ซึ่งเป็นเวลาบ่งบอกว่าถึงเวลาเข้าเรียนในภาคบ่ายแล้ว “อย่าลืมนะตอนเย็นเรามีนัด เจอกันที่หน้าโรงเรียน” รมิดาคลี่ยิ้ม พูดกับเด็กสาวตรงหน้า “ค่ะ” หลังเลิกเรียนคนตัวเล็กกับนาเดียร์ได้ฝึกซ้อมพื้นฐานการป้องกันตัวจนค่ำมืด จนลืมไปเสียสนิทเลยว่าต้องกลับไปก่อนที่เลโอจะมา มือเล็กยกนาฬิกาข้อมือขึ้นเพื่อดูนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มครึ่ง เธอมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเพื่อกลับบ้านให้ทันก่อนเลโอจะมา ผ่านไปไม่นาน รถแท็กซี่ก็ได้เคลื่อนมาจอดบริเวณหน้าบ้านของตระกูลเล “ฟู่ว” รมิดาถอนหายใจอย่างโล่งอก โชคดีที่มาทันเวลา เจ้าของใบหน้าสวยค่อย ๆ หันไปทางนาเนียร์แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นิ่มนวลว่า “นาเดียร์ เข้าไปในบ้านก่อนฉันได้เลย…ฉันขอแวะไปดูลูก้าหน่อย” แม้จะสงสัยในตัวหญิงสาวตรงหน้า ทว่าเด็กสาวไม่ได้พูดออกมา ยิ่งรู้จัก คนตรงหน้ายิ่งเหมือนรมิดา รวมไปถึงคำพูดแปลก ๆ นั่น เธอพูดเหมือนกับว่า เธอไม่ใช่คาริสา “ค่ะ…ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” รมิดาโบกมือหยอย ๆ พร้อมกับเดินแยกทางกับนาเดียร์ รีบเร่งไปหาลูก้า แอดด…! คนตัวเล็กเอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างเบามือ บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท จนหญิงสาวแปลกใจ จากนั้นเอ่ยถามพี่เลี้ยงนั่งอยู่ข้าง ๆ เปลนอนของลูกชาย “หลับแล้วเหรอ?” เรียวปากสีหวานเอ่ยถามเบา ๆ พร้อมกับจ้องมองลูกชายที่กำลังหลับตาพริ้ม นอนด้วยท่าทีสบาย “คุณเลโอมาป้อนนม แล้วกล่อมคุณชายน้อยเข้านอนแล้วค่ะ” “เลโอกลับมาแล้วเหรอคะ?” “ค่ะ กลับมาตั้งแต่ 6 โมงแล้วค่ะ” “เลโอได้บอกไหมคะ ว่าทำไมกลับมาเร็วนัก” “ไม่นะคะ แต่เห็นใบหน้าเคร่งขรึมอยู่ บนมือก็มีบาดแผลนิดหน่อย” “แผลเหรอคะ?” “ค่ะ ตอนแรกฉันจะอาสาทำให้ แต่คุณเลโอบอกไม่เป็นไร จากนั้นก็เดินออกไป ก่อนที่คุณริสาจะมาเพียงแป๊บเดียวเองค่ะ” “ค่ะ เดี๋ยวฉันไปดูเอง ฝากดูแลลูก้าหน่อยนะคะ หากมีเรื่องอะไรแจ้งฉันได้เลย…ถือซะว่าฉันคือแม่ของลูก้าคนหนึ่งแล้วกันนะคะ” “ค่ะ” รมิดาขมวดคิ้วเป็นปม เดิมทีเลโอไม่ใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว ทำไมถึงมีแผลกลับบ้านได้ เขาไปทำอะไรมา ก๊อก ๆ ! มือเล็กเคาะประตูสองครั้ง ตามมารยาทสากล แล้วยืนอยู่หน้าห้องเพียงชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าเลโอไม่ได้เดินออกมาเปิดประตู เธอยื่นมือไปเตรียมจะเคาะมันอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง… เคร้ง! รมิดาหูผึ่ง ร้อนรนเมื่อได้ยินเสียงดังจากด้านใน กลัวว่าเลโอจะเป็นอะไรไป เธอรู้ดีว่าสัญญากับคนด้านในเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่เข้าห้องของเขาอีก แต่ในวันนี้เหตุการณ์มันบังคับ…เธอเม้มเรียวปากแน่น จากนั้นถือวิสาสะผลักประตูห้องเข้าไป “เลโอ…เป็นอะไรไหมคะ” หญิงสาวถามอย่างตื่นตระหนก พร้อมกับกวาดสายตามองไปดูรอบ ๆ เห็นคนที่รักกำลังดื่มไวน์อยู่ แล้วเสียงเมื่อครู่คือเสียงแก้วที่มันตก โดยปกติแล้วเลโอไม่ชอบดื่ม นอกจากจะมีเรื่องเครียดเท่านั้น “ดื่มเหรอคะ? ไหวไหม” ถึงจะรู้ว่าคนตัวสูงจะดื่ม มันก็อดที่จะถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้ ดูจากปริมาณที่เขากินแล้ว คงดื่มไปเยอะพอสมควร “….” เลโอก้มหน้านิ่ง ไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ การที่เขานิ่งเกินไปนั้น ทำให้รมิดารู้สึกใจคอไม่ค่อยดี หญิงสาวพ่นลมหายใจหนักออกมา พร้อมกับจ้องมองคราบไวน์ที่หกเลอะเทอะเปื้อนตั้งแต่เสื้อเชิ้ตสีขาว จนมาถึงกางเกงขายาวสีเข้ม บนข้อมือและหลังมือ มีแผลอยู่จริง ๆ ด้วย “ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้” “….” “เป็นอะไรไปคะ” เรียวปากสีหวานพูด จากนั้นเดินเข้าไปใกล้เลโอ “ผมขอโทษ….” “คะ? ขอโทษ?…” หญิงสาวทวนคำ ได้แต่ทำหน้างง คนตรงหน้าขอโทษเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องคืนนั้น เธอไม่ได้คิดจะโกรธเขาเลยด้วยซ้ำ “ผมขอโทษที่ทำแบบนั้นกับเธอ….” “เรื่องนั้นฉันไม่ถือค่ะ…” “แต่ผมถือ….” “จู่ ๆ เป็นอะไรไปคะ ไหนว่าจะแก้แค้นฉัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้” “เพราะเธอคือ น้องสาวแท้ ๆ ของรมิดา…คนที่ผมรัก” “อะไรนะคะ!” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงด้วยความตื่นตระหนก “คุณพูดเรื่องอะไรคะเลโอ…คือ…ฉันได้ยินมาว่าคนรักของคุณเป็นเด็กกำพร้านะคะ…จะมีครอบครัวได้อย่างไร” คนตัวสูงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนตัวเล็ก แววตาของเขาแสดงถึงความจริงจัง บ่งบอกว่าตอนนี้เขาไม่ได้พูดเล่น คนตัวเล็กใจสั่นวูบ เพราะก่อนตายเธอมักจะตามหาครอบครัวของตัวเองมาโดยตลอด ทว่าไม่พบวี่แววใด ๆ ก่อนตายก็ยังหวังเอาไว้ว่าอยากเห็นครอบครัวของตัวเอง…หรือที่เธอกลับมาอยู่ในร่างของคาริสาในครั้งนี้คือ การหมดห่วง….หากหมดห่วงแล้ว จะต้องตายแบบที่เคยได้ดูในหนังไหม “เป็นไปได้ยังไงคะ…คุณช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม