บทที่ 3 : ถูกต้อนรับอย่างอบอุ่น

1617 คำ
“คิดถูกฉิบหายที่มาด้วย ไม่งั้นมึงแม่งได้ไปจบที่โรงพักหรือเผลอ ๆ ได้จมกองตีนอยู่นี่แหละ” อาร์เจบ่นขณะที่พาร่างที่แทบไร้สติของคนพี่ และร่างขี้หัวร้อนของคนน้องกลับมายังรถที่จอดอยู่อีกฟากของถนน สายตาก็เหลือบไปมอบทางหน้าร้านที่เพิ่งจะเดินออกมาพบการ์ดร้านเหล้าหน้าดุหลายคนกำลังมองพวกเขาอยู่ “อื้อ~” “มึงมาเอาพี่มึงไปเลย” เสียงเล็กดังเบา ๆ พร้อมทั้งใบหน้าที่คลอเคลียประท้วงความไม่สบายตัวอยู่ที่ต้นคอหนาทำเอาคนซึ่งแบกเธอขึ้นหลังกลืนน้ำลายอึกใหญ่ยามที่ลมร้อน ๆ เป่ารดอยู่ที่ใบหู แต่เหมือนมาร์‍ชเองจะรู้ทันจึงเอ่ยปากผลักภาระทันทีทันใด “มึงดูเจ๊นะ กูจะขับรถ” “ไม่เอา พี่มึงแม่งมือปลาหมึก” อาร์เจส่ายหัวเป็นพัลวัน ตั้งแต่ที่เอาเธอมาไว้กับตัวเหมือนเขานั้นถูกลวนลามจนเสียหายไปหลายแสน เพราะมือเล็กที่ไม่เคยอยู่สุข ลากไล้สะเปะสะปะไปทั่ว “ก็นั่นแหละเหตุผลว่าทำไมมึงต้องเป็นคนดู” “เค้ามึนหัว~” “อึ๋ย ! ขนลุกว่ะ” เสียงเล็กครางขึ้นจมูกดังออกมาทำให้อาร์เจเริ่มทำหน้าไม่ถูก และดูเหมือนคนที่ปฏิกิริยารุนแรงกว่าใครก็คือน้องชายคนเมานั่นเอง “มึงรับผิดชอบแทนกูที ขอร้อง นะ นะ...ให้รับมือกับเจ๊ตอนเมากูขอตายดีกว่า ขนลุก” “แล้วให้กูดูเนี่ยนะ” “เออ ช่วยหน่อย” ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธมาร์‍ชก็คว้าหมับเข้าที่กุญแจรถซึ่งอยู่ในกางเกงเพื่อนแล้ววิ่งแจ้นไปที่รถก่อนจะอนุญาตตัวเองเข้าไปนั่งหน้าสล่อนเป็นคนขับ “ไอ้เวร” “ฮืออ ร้อนอ่า...” “...” “ร้อนจัง...” “...” “ไอ้ตี๋มึงเอาเหี้ยอะไรอุดปากพี่กูหน่อยดิ๊ พูดแต่ละอย่าง กูใกล้อ้วกแล้วเนี่ย” คนขับตะโกนบอกคนที่ดูแลพี่สาวตนซึ่งอยู่ด้านหลังให้ช่วยทำอะไรซักอย่างกับสถานการณ์ชวนกระอักกระอ่วนนี้ที มือก็ปรับแอร์ให้กับคนที่บ่นร้อนจนตอนนี้อุณหภูมิในรถแทบจะเลี้ยงแพนกวินได้แล้วแต่ปากเล็กก็ยังคงบ่นไม่พอใจอยู่ดี “มึงแม่งไม่มาดูเองวะ” “ผิดผี” “แล้วกับกูนี่ถูกมากเลยรึไง” อาร์เจย่นคิ้วตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ที่โดนผลักภาระมาให้เพราะมาร์‍ชไม่อยากมองหน้ากับพี่สาวไม่ติด พยายามแกะมือเล็กที่ไม่รู้ว่าติดกาวตาช้างมาหรือยังไงถึงได้เหนียวดึงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดซักทีแบบนี้ “พี่...ร้อนก็ขยับออกไปครับ มากอดผมทำไมเนี่ย” พอขึ้นทางด่วนถนนเริ่มโล่งมาร์‍ชก็เหยียบคันเร่งจนมิดอย่างไม่คิดชีวิต เรียกได้ว่าคงมีใบสั่งขับรถความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดมาถึงบ้านเจ้าของรถในไม่ช้าแน่นอน “โอ๊ยแม่ง ! หลบดิวะมาขับช้าแช่เลนส์ขวาอยู่ได้ ขับรถไม่เป็นก็ไปเรียนมาใหม่ ไป๊ !” นี่แหละเขาถึงไม่ชอบขับรถยนต์ที่มันทั้งใหญ่ทั้งเทอะทะ ปากก็ด่าหมดหากใครมาขัดขวางการกลับบ้านของเขาในตอนนี้ จึงทำการหักรถหลบจนตัวโยกด้วยความว่องไวแล้วแซงคนที่ขับรถเสียมารยาทขึ้นไป ปึ่ง ! มาร์‍ชรับรู้ว่าด้านหลังคงเสียหลักเพราะการขับรถของเขาจึงเอ่ยขอโทษเบา ๆ แต่มันก็เพราะคนอื่นมาขวางทางนั่นแหละ “โทษที คันหน้าแม่งขับรถกวนส้นตีน” “...” “ถ้ามีใบสั่งบอกนะเดี๋ยวกูจ่ายเอง” “...” ปึก ปึก ! มาร์‍ชย่นคิ้วกับความเงียบไร้เสียงตอบรับ เสสายตาไปยังกระจกมองหลังก็ไม่พบใครอีก ได้ยินแต่เสียงทุบประหลาดดังมาจากเบาะด้านหลัง ถึงจะสงสัยแต่การที่เขาขับรถเร็วมากในขณะนี้จึงทำได้แค่ร้องถาม “ทำไรกันวะ” “...” ปึก ปึก ! จนกระทั่งลงทางด่วนรถจอดติดไฟแดงก่อนถึงหน้าโครงการหมู่บ้าน จึงหันไปดูว่าทำไมทั้งสองคนไม่ตอบแต่เล่นทุบอะไรเสียงดังมาตลอดทาง โดยไม่รู้เลยว่ามันคือสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักผู้น่าสงสาร “เจ๊ ! อย่าข่มขืนเพื่อนเค้า” เห็นภาพชวนประทับใจมาร์‍ชก็ฮาก๊าก หัวเราะเป็นวักเป็นเวนตอนที่เห็นคนตัวโตร่างกายกำยำกับส่วนสูงกว่า 184 ซม. นอนราบไปกับเบาะหนำซ้ำยังถูกคนตัวเล็กกว่าตัวเองเป็นเท่าตัวขึ้นคร่อมแล้วใช้ริมฝีปากประกบดูดกลืนเสียงเพื่อนรักจนสิ้นท่า นอนช็อกตาตั้ง มีเพียงมือหนาที่เคาะเรียกอย่างอนาถา “คิก คิก คิก...” เสียงกลั้นขำดังคิกคักออกมาจากเจ้าของบ้านที่กำลังใช้กุญแจเปิดประตูบ้านอยู่ ดวงตาคมตวัดมองจากด้านหลังก็เห็นว่าไหล่กว้างหัวเราะตัวสั่นไม่เลิก “ไอ้เหี้ยมาร์‍ชไอ้สัตว์ ท่ามากอยู่ได้นะมึง” เสียงน่าหงุดหงิดแว่วเข้าหูทำให้รับรู้ได้ว่ากำลังถูกแกล้งกวนประสาทอาร์เจก็ด่าอย่างหมดความอดทน หนักก็หนัก เพื่อนก็ยังชักช้าลีลาปล่อยเขาถูกผู้หญิงประหลาดเล่นงานอยู่ได้ “เชิญค้าบเพื่อนรัก” “...” ตีหน้าหงุดหงิดใส่คนที่กำลังผายมือเชื้อเชิญเข้าไปด้านในตอนที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดกว้างออก กระชับร่างเล็กเดินตามเจ้าของบ้านไปยังชั้นบนห้องริมสุดของตัวบ้านชั้นสองก็เปิดประตูห้องนอนที่คาดว่าคงจะเป็นของคนที่เมาแอ๋ตัวเหลวสลบหลังจากที่แผลงฤทธิ์จนพอใจ “อื้อหือ” อาร์เจจัดการวางคนตัวเล็กลงบนที่นอนเรียบร้อย กำลังจะเดินออก สายตาก็ปะทะเข้ากับกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นเลือนรางได้จากแสงไฟซึ่งเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างกระทบโต๊ะเครื่องแป้งสะท้อนใบหน้าของเขาก็อดหลุดอุทานออกมาไม่ได้ อยากจะบ้าตาย... ปึ่ง ! “เอ๊า ทำไมออกมาเร็วอ่ะ นึกว่าจะต่อจากเมื่อกี้ซ่ะอีก” “ตลกเหรอ ?” อาร์เจตวัดมองตาขวางไปให้กับท่าทางชอบอกชอบใจของเพื่อนที่ยืนพิงผนังรออยู่หน้าประตูห้อง ขณะพูดก็ใช้หลังมือยกขึ้นมาเช็ดคราบลิปสติกสีชมพูอ่อนที่คนตัวเล็กฝากเอามาไว้ให้ไปด้วย “กูกลับแล้วนะ” “แค่นี้ถึงกับรีบชิ่งเลยเหรอวะ นอนบ้านกูก่อนดิ มันดึกแล้ว” “นี่มึงยังจะให้กูนอนอีกเหรอ นอนที่นี่คืนนี้กูไม่ผวาทั้งคืนเลยหรือไง” “ฮ่า ๆ เอาน่าเพื่อน เดี๋ยวกูล็อกห้องให้” พูดไปมาร์‍ชก็ขำไป แม้จะช็อกที่เพื่อนโดนพี่สาวเล่นงานแต่ก็รู้สึกตลกมากกว่า ไม่วายพูดแหย่ไปอีกครั้ง “แล้วเป็นไงวะตั้งเลยป่ะ เจอผู้หญิงดูดปากในรอบปีเลยหรือเปล่าเนี่ย ไหนมาดูทีซิ” “ไอ้เหี้ย” ขายาวยกเท้าขึ้นสูงเตรียมยัน เมื่อเห็นคนพูดทำท่าจะเข้ามาขอดูจริงอย่างที่ว่า ก่อนจะส่ายหัวเหนื่อยหน่ายตอนที่เห็นสายตาล้อเลียนของเพื่อนแล้วทำหน้าไม่อยากเชื่อ “นี่มึงไม่คิดจะห่วงพี่มึงบ้างรึไง ไม่สิ...ห่วงกูเถอะ พี่มึงแม่งโคตรน่ากลัวเลย” “ให้ห่วงอะไรอ่ะ โตเป็นควายอยู่ละ” “แล้วทีเมื่อกี้จะไปต่อยไอ้ฟอร์ด” อาร์เจเท้าเอวให้กับความย้อนแย้งของเพื่อน ก่อนหน้านี้เห็นพี่สาวตัวเองถูกคนอื่นแตะเนื้อต้องตัวเข้าหน่อย ถึงกับร้อนเป็นฟืนเป็นไฟก็แทบซัดอีกฝ่ายกระเด็นไม่สนใจฟังอะไร แต่พอคราวพี่ตัวเองเป็นฝ่ายทำรุ่มร่ามใส่คนอื่นบ้างกลับไม่โกรธ อีกทั้งยังหัวเราะชอบใจ ท่าทีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าของมาร์‍ชโคตรจะน่าหมั่นไส้ และทำไมเป็นเขาที่ต้องมาโดนด้วย วันนี้เจอแต่อะไรแต่ละอย่าง...ดี ๆ ทั้งนั้น “ก็มันไม่เหมือนกัน...คนอื่นกูไม่ไว้ใจ วันนี้ก็ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรคิดถึงแต่เรื่องเมื่อปีที่แล้วก็เลยหลอนเรื่องพี่กูไปด้วย เจ๊เวลาเหล้าเข้าปากเป็นยังไงมึงน่าจะรู้ซึ้งแล้วนี่ ปล่อยตัวจะตายห่า เจอคนไม่ดีแม่งก็ไม่เหลือ” “แล้วมึงไว้ใจกู ?” “ก็มึงเพื่อนกู” พูดจบมาร์‍ชก็ยักไหล่ ซักพักก็ดีดนิ้วทำตาเป็นประกาย “ว่าไปน้า~ เจ๊กูสเปคมึงเลยหนิ สนเปล่าเพื่อนรัก ? แต่ทำใจหน่อยนะถึงตอนเมาจะปากหวาน แต่ตอนปกตินี่ปากจัดฉิบหาย” “ปล่อยกูไปเถอะ” น้องชายยังขนาดนี้ พี่สาวเองก็คงไม่ต่างกันมากหรอก อาร์เจปฏิเสธทันควันก่อนถอนหายใจแล้วยกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่าเป็นเวลาเกือบตีสามแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้า คิดไปคิดมาเขาเองก็เหนื่อยและขี้เกียจขับรถตอนนี้เหมือนกัน ถ้าได้งีบซักสอง สามชั่วโมงคงจะดี “เค ล็อกประตูให้ด้วยนะ กูก็รักนวลสงวนตัวเป็น” เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เดินผ่านเพื่อนไปยังห้องนอนอีกฝ่ายอย่างกับบ้านของตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาบ้านหลังนี้ ทั้งเขายังเคยนอนที่นี่นับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่สมัยมัธยมฯ จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่เจอพี่สาวของเพื่อนสนิท แถมครั้งแรกก็เจอดีเข้าให้แล้ว...ถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นขนาดนี้จะได้งีบลงจริง ๆ ไหมก็ไม่รู้...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม