3 มาเอาคำตอบ

1610 คำ
“พี่รามิลขา เราไปต่อข้างบนกันไหมคะ ” หลังจาก3สาวมานั่งดื่มได้ซักพัก พวกเธอก็เริ่มเมา และพยายามชวนกลุ่มของพวกเขาขึ้นไปข้างบน “วันนี้พี่คงไม่หละครับ ” เขาปฏิเสธแบบสุภาพ แต่คนโดนปฏิเสธกับหน้าชา เหมือนโดนฝ่ามือฟาดหน้าเข้าอย่างจัง ไม่คิดว่าเพลย์บอยอย่างรามิลจะปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยขนาดนี้ “เชี้ยรามิล มึงเป็นขี้เกลืออะไรวะ” บีเอ็มตวาดเพื่อนเสียงเบา แพรเป็นคนสวยและก็สวยมาก ทรวดทรงองเอวคือได้หมด แต่รามิลกลับเลือกที่จะปฏิเสธ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ “วันนี้ไม่มีอารมณ์ ” เขาตอบบีเอ็มหน้าตาเฉย แค่ได้กลิ่นน้ำหอมที่ฉุนจมูกก็หมดอารมณ์แล้ว “งั้นแพรขอตัวนะคะ จุ๊บแจง ดาด้ากลับ” แพรลุกขึ้นยืนอย่างคนไม่พอใจ ก่อนจะชวนเพื่อนอีก2คนให้ลุกเดินตามไปด้วย “ดาด้า อย่าพึ่งไปสิครับ โถ่!!ไอ้รามิล ไอ้เพื่อนเวร กูแข็งจนปวดไปหมดแล้วเนี่ย มึงนี่มันนรกจริงๆ” บีเอ็มโวยวายใหญ่โต เมื่อรามิลทำสาวๆหนีกระเจิง โดยการปฏิเสธแบบไม่ไว้หน้าของเขา “ก็แค่กูไม่มีอารมณ์ มึงก็หาคนใหม่ไปดิวะสัส กูง่วงกูจะกลับแล้ว มึงกลับพร้อมกูป่าวไอ้แทนคุณ” พูดกับบีเอ็มเสร็จก็หันไปถามแทนคุณ ซึ่งรายนี้ก็จดจ่อแต่กับมือถือ ไม่สนใจสาวนั่งข้างๆอย่างจุ๊บแจงด้วยซ้ำ “กลับดิป่ะ มึงรอไอ้สายฟ้าด้วยนะ” รามิลกับแทนคุณเดินออกจากผับไป ผ่านกลุ่มสาวๆหลายกลุ่ม ที่มองเขาสองคนเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา ความสูงที่เกือบ190ซม.ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ของแบรนด์เนม ขนาดมองภายนอกยังรู้เลยว่าหุ่นด้านในเพอร์เพคแค่ไหน ใครบ้างจะไม่อยากสัมผัส ร่างกายของพวกเขา หรือเผื่อโชคดีหน่อยได้เป็นตัวจริงของพวกเขาขึ้นมา จะเรียกว่าตกถังข้าวสารเลยก็ว่าได้ “เจอกันพรุ่งนี้” “อืม” พอมาถึงลานจอดรถ เขาก็แยกกับแทนคุณ ขับรถสปอร์ตคันหรูสีดำคลับคันละหลายล้านกลับคอนโด รถคันนี้คุณปู่ภูษาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว เช้าวันต่อมา “แม่คะหนูไปเรียนแล้วนะคะ” โยเกิร์ตรีบออกบ้านแต่เช้า เพราะถ้าสายกว่านี้รถคงติด เพราะบ้านเธอค่อนข้างไกลจากมหาลัย “ขับรถดีๆนะลูก เอาแซนวิซกับน้ำข้าวโพดไปกินด้วย” กิ่งแก้วรีบจัดแจงอาหารใส่ถุงให้ กลัวลูกสาวจะไม่ได้กินอาหารเช้า “ขอบคุณนะคะ รักแม่ที่สุดเลย” จุ๊บ!! ผู้เป็นแม่ได้แต่ส่ายหัวเอ็นดูเด็กขี้อ้อน ที่หยิบนู่นจับนี่ไม่เสร็จซักที “ไปแล้วนะพี่โยธา สวัสดีค่ะคุณพ่อ” “ขับรถดีๆละ อย่าขับเร็วให้มันมากนัก ” ผู้เป็นพ่อรีบตะโกนตามหลัง โยเกิร์ตรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร่งรีบ มหาลัย อัลฟาร์ “ทางนี้โยเกิร์ตเร็วๆ” ไอเดียกับลลินโบกมือไวๆ หลังจากที่ฉันพึ่งจอดรถ แล้วเดินลงมาได้ไม่กี่ก้าว “อะไรทำไมพวกแกดูรีบแบบนี้” ไม่ใช่พวกแกหรอกดูแล้ว ลลินคนเดียวต่างหาก เพราะไอเดียก็ดูปกติดี “เมื่อกี้ฉันเห็นพี่แทนคุณกับพี่รามิลยืนอยู่ใต้ตึกเรียนพวกเรา รีบไปกันเลยไหมฉันอยากเดินผ่านหน้าพี่เขา เผื่อว่าคนใดคนหนึ่งจะสะดุดตารุ่นพี่บ้าง” ไอเดียพยักหน้าให้ฉัน ใช่พวกเรารู้กันว่าพี่สองคนขอไลน์เราไปเมื่อวาน “เออ งั้นแกไปก่อนเลยนะลลิน ฉันจะไปซื้อชานมหน่อย แกจะฝากป่าว” ใครจะไปอยากเจอกันหละ มาทวงเรื่องที่ถามเมื่อคืนรึเปล่าก็ไม่รู้ “เออใช่ ฉันฝากแกถือรายงานขึ้นไปวางไว้บนโต๊ะหน่อยนะ ฉันจะไปเป็นเพื่อนโยเกิร์ตหน่อย” ไอเดียรีบยื่นรายงานให้ลลิน และรีบจับมือฉันเดินออกไป ไม่สนใจว่าลลินจะพูดอะไรต่อด้วยซ้ำ “เอาไงเรา พี่รามิลขอจีบแกป่ะ” หลังจากที่พวกเราเดินออกมาไกล ไอเดียก็หยุดเดินแล้วพูดขึ้น “อืมขอจีบนั่นแหละ” ฉันตอบเพื่อนอย่างหนักใจ เขาดูตื้อเก่งด้วยสิ “แกตกลงป่ะ” ไอเดียจ้องหน้าฉันอย่างรอคำตอบ “ยัง รู้จักกันวันสองวันจะตกลงได้ไง เราก็หลบๆไปก่อน” คงไม่มีวิธีไหนดีเท่ากับหลบหน้าไปก่อนหรอกมั้ง “เฮ้อ!! คณะเดียวกันนี่นะ” ไอเดียถอนหายใจเฮือกใหญ่ พวกเราเดินไปซื้อชานมและนั่งเล่นกันพักใหญ่ มองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว ฉันกับไอเดียจึงเดินมาที่ตึกเรียน มองซ้ายทีขวาทีจนแน่ใจว่าพี่รามิลกับพี่แทนคุณไปแล้ว พวกเราจึงรีบวิ่งขึ้นตึกไป “ปลอดภัยแล้ว” ฉันกับไอเดียร์มองหน้ากันอย่างดีใจ และรีบเข้าห้องเรียนก่อนอาจารย์จะเข้ามา “พวกแกทำไมไปนานอะ รู้ไหมฉันไม่กล้าเดินผ่านรุ่นพี่เลย จนต้องอ้อมไปขึ้นบันไดอีกฝั่ง” พอมาถึงบนห้องลลินก็บ่นให้เราสองคนกันใหญ่ “โทษทีนะเข้าห้องน้ำอยู่อะ” ฉันกับไอเดียมองหน้ากันแล้วยิ้ม และอาจารย์ก็มาพอดี “ไปเถอะพวกแก ฉันหิวข้าวจนไส้จะขาดแล้ว” หลังจากที่พวกเราเรียนจบในตอนเช้า ฉันที่หิวข้าวกว่าใครเพื่อน ก็เร่งให้เพื่อนๆเก็บสัมภาระ และลงไปกินข้าวที่โรงอาหารของคณะวิศวะ “ไปดิหิวเหมือนกัน” หลังจากที่ตกลงกันได้ ว่าแต่ละคนจะกินอะไร พวกเราก็แยกย้ายกันไปซื้อ เพราะที่นั่งเหลือเยอะไม่จำเป็นต้องจองไว้ ฉันยืนต่อแถวไปสักพัก ก็รู้สึกเหมือนมีใครมายืนชิดที่แผ่นหลัง จนต้องเดินเขยิบขึ้นมาข้างหน้าอีกนิดหน่อย เพื่อให้พ้นจากอกแกร่งนั่น โดยไม่หันไปมองหน้าคนที่พยายามยืนเบียด แต่ก็ไม่วายเค้าจะขยับตามมา จนฉันต้องหันไปมองหน้าเตรียมอ้าปากเตือน “พี่รามิล” แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร ฉันก็ต้องรีบหุบปากแล้วมองไปข้างหน้าเหมือนเดิม เพราะคนที่ยืนชิดแผ่นหลังของฉัน คือพี่รามิล คนที่ฉันพยายามหลบหน้านั่นแหละ “ เมื่อเช้าหลบหน้าพี่หรอ ใจร้ายจังเลยนะครับ” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูฉัน มันใกล้เสียจนฉันได้ยินเสียงลมหายใจเขา จนขนที่เคยหลับไหลมันลุกชูชันไปหมด “ปะ เปล่านะคะ หนูแค่ไปซื้อน้ำ และหนูก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่ยืนรอใต้ตึก” เวรละ หลุดพูดอะไรออกไปโยเกิร์ต “ ฮึ!! ถ้าไม่ได้หลบ แล้วรู้ได้ไงครับว่าพี่ยืนรอที่ใต้ตึก” เขาหัวเราะในลำคอ เมื่อฉันปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ บอกว่าไม่ได้หลบ แต่รู้ว่าเค้ายืนรออยู่ใต้ตึก โยเกิร์ตเอ้ยแกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ “อ้อ พอดีตอนที่หนูขึ้นไปบนตึก แล้วเพื่อนเล่าให้ฟังค่ะ ว่าเจอพี่รามิล กับพี่แทนคุณยืนอยู่ใต้ตึก” ใครจะไปยอมรับล่ะ ปากแข็งไว้ก่อนดีที่สุด “อ้อ งั้นหรอครับ” คำพูดของเขาเหมือนจะเชื่อ แต่น้ำเสียงเขานั่นสิ คงรู้แหละว่าฉันกำลังโกหก ปกติก็เป็นคนไม่ค่อยโกหกอยู่แล้ว มาเจอสถานการณ์คับขันแบบนี้ ก็ถึงกับไม่เป็นเลยทีเดียว ดีหน่อยที่รอคิวไม่นาน ได้เข้าเสร็จฉันก็เดินลิ่วไปที่โต๊ะเลย ไม่สนใจพี่รามินด้วยว่าเขาอยากจะพูดอะไรกับฉันต่อไหม “ ข้าวมันไก่อร่อยอ่ะ” หลังจากที่เดินหนีพี่รามิลมาที่โต๊ะ ฉันก็ไม่หันกลับไปมองเขาอีก คนเยอะขนาดนี้คงไม่กล้าตามมานั่งหรอกมั้ง พรึบ!!! “ พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ” แต่ฉันคงคิดผิด ตอนนี้พี่รามิล พาตัวเองพร้อมกับจานข้าวนั่งลงข้างๆฉัน ส่วนพี่แทนคุณก็นั่งลงข้างๆไอเดีย ช่างสมกับเป็นเพื่อนกันซะจริงๆ “ ที่อื่นก็ว่างพวกพี่ทำไมไม่ไปนั่งคะ คนมองกันใหญ่แล้ว” ตอนนี้หลายโต๊ะ กำลังให้ความสนใจกับโต๊ะพวกเรามาก ส่วนใหญ่ที่มองก็คงจะเป็นพวกผู้หญิงนั่นแหละ “ ทำไมพี่ต้องไปนั่งที่อื่น ในเมื่อพี่กำลังรอคำตอบจากน้องอยู่ ว่าไงครับตกลงจะให้พี่จีบได้รึเปล่า” ฉันกัดช้อนไว้แน่น เขาถามพร้อมกับจ้องหน้า เหมือนกำลังกดดันฉันอยู่ “ พี่รามิลคะ คือหนู” ฉันอั้มอึ้งอยู่นาน ไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไงดี มองหน้าหาตัวช่วยอย่างไอเดีย แต่เหมือนว่าตอนนี้เพื่อนก็คงตกที่นั่งลำบากเหมือนกัน ก่อนจะมองไปหาลลิน แต่นั่นก็คงไม่ช่วยอยู่แล้วแหละ เพราะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มองดูพี่รามิลอย่างเขินอาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม